
SHORT CUT
โอกาสและความท้าทายของสินค้าไทยไปจีน กับโปรเจ็กยักษ์ คลองใหญ่ที่สุด เชื่อมการขนส่งทางน้ำสู่ประเทศในแถบอาเซียน ลดเวลาได้กว่า 10 วัน ลดค่าขนส่งได้มหาศาล
นับว่า จีนเดินหน้าด้านการค้าขายและการขนส่งกับประเทศในอาเซียนอย่างจริงจัง ล่าสุดเร่งก่อสร้าง คลองผิงลู่ (Pinglu) โครงการขุดคลองเดินเรือ คล้ายกับคลองสุเอซ เพื่อเชื่อมการขนส่งทางน้ำให้มีทางออกทะเลสู่อ่าวเป่ยปู้ หรืออ่าวตังเกี๋ย ในมณฑลกว่างซี โครงการคลองขุดขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่ และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมภาคตะวันตกของจีนให้มีทางออกสู่ทะเลที่สั้นกว่าเดิม
โครงการยักษ์ใหญ่นี้ เริ่มดำเนินการครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 และ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2569 ใช้เวลาเพียง 5 ปี ในการก่อสร้างคลองที่มีความยาวถึง 134.2 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้างกว่า 72,000 ล้านหยวน (กว่า 330,000 ล้านบาท)
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ เมืองหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า คลองผิงลู่เป็นโครงการที่สำคัญต่อการพัฒนากรอบระเบียงการขนส่งเชื่อมทางบก กับ ทางทะเลสายใหม่แห่งภาคตะวันตก เริ่มต้นจากปากแม่น้ำผิงถังเจียง เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำซีเจียง (West River) ในอำเภอเหิงโจว เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ไปยังตำบลลู่วู อำเภอหลิงซาน เมืองชินโจว ออกสู่อ่าวเป่ยปู้ตามแม่น้ำชินเจียงที่อยู่บริเวณใกล้กับท่าเรือชินโจว เป็นคลองเชื่อมต่อแม่น้ำสู่ทะเลแห่งแรกของจีนนับตั้งแต่สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน
        
คลองผิงลู่ สร้างเป็นร่องน้ำเดินเรือมาตรฐานระดับ 1 ทำให้สามารถรองรับขนาดเรือ 5,000 ตัน ได้พร้อมกันถึง 3 ลำ เหมิง ทั่ว วิศวกรแผนกวิศวกรรม บริษัท Guangxi Pinglu Canal Construction Co. , Ltd. เล่าว่า เมื่อเปิดใช้งานแล้วคลองผิงลู่จะเป็นเส้นทางเดินเรือที่สั้นที่สุด ประหยัดที่สุด และ สะดวกที่สุดจากเขตตะวันตกเฉียงใต้และพื้นที่อื่นๆ ของจีนสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อลดความหนาแน่นการเดินเรือบนแม่น้ำแยงซี
“เมื่อเทียบกับเส้นทางเดินเรือขนส่งเดิมที่กวางตุ้ง คลองขุดนี้จะช่วยลดเวลาการขนส่งไปได้กว่า 10 วัน ลดระยะทางขนส่ง 560 กิโลเมตร และ ประหยัดค่าใช้จ่ายลงกว่า 5.2 พันล้านหยวน (24,000 ล้านบาท) ”
เรียกง่ายๆ ว่า การขนส่งสินค้าทั้งจากไทยไปจีนในแถบตะวันตก และ จากจีนมาไทย จะลดเวลาขนส่งทางเรือได้นานเกือบ 2 สัปดาห์ ลดความเสียหายหากเป็นพืชผลการเกษตร
เขตเศรษฐกิจคลองผิงลู่ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เพราะทางการเตรียมจะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเดิม ควบคู่กับวางแผนสร้างนิคมอุตสาหกรรมเฉพาะทางใหม่ตามลักษณะพื้นที่ โดยสร้าง 5 กลุ่มอุตสาหกรรมมูลค่ากว่าพันล้านหยวน ได้แก่
1. อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่
2. อุตสาหกรรมอุปกรณ์ชั้นสูง
3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
4. อุตสาหกรรมเคมีขั้นสูง
5. อุตสาหกรรมแปรรูปอลูมิเนียม
คลองผิงลู่จะเชื่อมโยงนิคมอุตสาหกรรมตามแนวคลองทั้งหมด 24 แห่ง ประกอบด้วยนิคมอุตสาหกรรมระดับชาติ 9 แห่ง นิคมอุตสาหกรรมระดับมณฑล 9 แห่ง และ นิคมอุตสาหกรรมระดับเมือง 6 แห่ง
        
หลังจากเปิดใช้งานแล้ว จะนำโอกาสให้การขนส่งสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเทกอง สินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ยางพารา มันสำปะหลัง วัสดุหิน เหล็กกล้า ธัญญาหาร สินแร่ เข้าประเทศจีนผ่านท่าเรือชินโจว ไปต่อเมืองตอนกลางผ่านคลองขนส่งสินค้า รวมถึงมีโอกาสการแปรรูปสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องด้วย
ในขณะเดียวกันต้องมองในมุมโอกาสของจีนด้วย เพราะสินค้าจากจีนจะหลั่งไหลมายังประเทศไทยผ่านช่องทางขนส่งที่สะดวกขึ้นด้วยเช่นกัน และ ทุกวันนี้ไทยเองก็ยังขาดดุลการค้ากับจีนอยู่ ช่วง 6 เดือนแรก ของปีนี้ไทยขาดดุลไปถึง 9.77 แสนล้านบาท จากการนำเข้าที่เติบโตเร็วกว่าการส่งออก และ คาดว่าจะได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นในระยะยาวจากการเบี่ยงเบนการค้าของสินค้าจีนที่ถูกบีบด้วยภาษีจากสหรัฐฯ
มุมมองต่อจีนยุคใหม่นี้ ทีมข่าว SPRiNG ได้ร่วมเดินทางกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ที่นำคณะสื่อมวลชนไทยที่เข้าร่วมโครงการ "มองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ ครั้งที่ 7" เยี่ยมชมศูนย์กลางคมนาคม "ชิงเหนียน ผิงลู่" ในเมืองชินโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง