“รถขนฝัน” โรงเรียนหมอนทองวิทยา จากทีมเล็ก สู่รอบชิงระดับประเทศ
จาก “รถบรรทุกเก่าคันเดียว” สู่ตำนานแห่งความพยายาม ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา จุดประกายแรงบันดาลใจทั่วประเทศ ด้วยหัวใจนักสู้
SHORT CUT
- จากโรงเรียนต่างจังหวัดที่ไม่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอล หมอนทองวิทยาสามารถ “ล้มยักษ์” เอาชนะทีมใหญ่ระดับประเทศได้ด้วยความมุ่งมั่นและศรัทธาในกันและกัน จนกลายเป็นทีมม้ามืดที่สร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อย่างเหนือความคาดหมาย
- ความสำเร็จของทีมนี้มีเบื้องหลังจาก “อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ” โค้ชมากประสบการณ์ผู้ทุ่มเทชีวิตให้ฟุตบอลเยาวชน ถ่ายทอดทั้งฝีมือและแนวคิดเรื่องความซื่อสัตย์ อดทน และไม่ยอมแพ้ ทำให้เด็กๆ เติบโตทั้งในสนามและในใจ
- รถบรรทุกเก่าคันเดียวกลายเป็นสัญลักษณ์ของทีมหมอนทองวิทยา — เครื่องเตือนใจว่า “ความฝันไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่โต” เพราะแม้รถจะเก่า แต่หัวใจของทีมยังใหม่เสมอ และนั่นคือแรงบันดาลใจที่ส่งต่อถึงเยาวชนทั่วประเทศว่าความสำเร็จเริ่มต้นจากความเชื่อในตัวเอง
จาก “รถบรรทุกเก่าคันเดียว” สู่ตำนานแห่งความพยายาม ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา จุดประกายแรงบันดาลใจทั่วประเทศ ด้วยหัวใจนักสู้
ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา กลายเป็นกระแสไวรัลทั่วโซเชียล หลังพวกเขาเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลนักเรียนระดับประเทศด้วย “รถขนฝัน” รถบรรทุกสี่ล้อเก่าคันเดียวที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความพยายามและความมุ่งมั่นของทั้งทีม
จากทีมเล็กในต่างจังหวัดที่แทบไม่มีใครรู้จัก หมอนทองวิทยากลับสร้างปรากฏการณ์ “ล้มยักษ์” ได้อย่างเหนือความคาดหมาย ด้วยหัวใจนักสู้และความเชื่อมั่นในกันและกัน พวกเขาทะลวงผ่านทีมเต็งระดับประเทศหลายทีม และถึงขั้นโค่นอดีตแชมป์อย่างโรงเรียนเทพศิรินทร์ ด้วยสกอร์สุดระทึก 7-6 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ
ความพยายามที่เปลี่ยนชีวิต
โรงเรียนหมอนทองวิทยา จ.ฉะเชิงเทรา เดิมเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่ได้มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลเหมือนโรงเรียนใหญ่ในเมือง แต่มุ่งเน้นปลูกฝังแนวคิดเรื่องการศึกษาและคุณธรรมพื้นฐานให้แก่นักเรียน ด้วยปรัชญา “จงศึกษาตั้งแต่อยู่ในเปลจนถึงหลุมฝังศพ” และคติพจน์ “อ่อนน้อม ถ่อมตน อดทน ซื่อสัตย์” ที่หล่อหลอมให้นักเตะกลุ่มนี้มีทั้งทักษะฝีเท้าและหัวใจที่แข็งแกร่งในการต่อสู้
เบื้องหลังความสำเร็จของทีมเล็กทีมนี้คือ อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ โค้ชวัยเก๋าผู้ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับวงการฟุตบอลนักเรียนไทย เขามีประสบการณ์หลายสิบปี เคยปลุกปั้นทีมโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีเข้าสู่รอบชิงฟุตบอล 7 สีต่อเนื่อง 5 ปี และคว้าแชมป์ได้ถึง 3 ครั้ง
ปัจจุบันอาจารย์สกลเลือกมาคุมทีมโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ ถ่ายทอดทั้งวิชาความรู้และแรงบันดาลใจสู่เด็กๆ รุ่นใหม่อย่างเต็มที่ โค้ชมากประสบการณ์ผู้นี้และลูกทีมต่างเชื่อมั่นว่าหากพยายามเต็มกำลัง ความฝันย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับพวกเขา
ตัวอย่างที่ชัดเจนของความแน่วแน่คือ เมื่อทีมหมอนทองวิทยาผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ทางจังหวัดฉะเชิงเทราจัดรถบัสวีไอพีเพื่ออำนวยความสะดวกให้เดินทางไปแข่งที่สนามกีฬาใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่โค้ชและนักเตะกลับ ยืนยันจะใช้ “รถขนฝัน” คันเดิม ต่อไปในการเดินทาง เพื่อรักษาขวัญและกำลังใจของทีม รวมถึงยึดมั่นให้รถคันนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของพวกเขา ผลลัพธ์คือพวกเขาสามารถเอาชนะทีมแกร่งอย่างอัสสัมชัญศรีราชาด้วยสกอร์ 6-3 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน
รถขนฝัน: สัญลักษณ์ของการสู้เพื่อความฝัน
“รถขนฝัน” คันเล็กคันเก่าอาจดูธรรมดาในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับทีมหมอนทองวิทยา รถสองแถวเก่าคันนี้คือสัญลักษณ์แห่งความหวังที่ยิ่งใหญ่ เพราะแม้รถจะเก่า... ทว่าความฝันบนรถคันนี้ไม่เคยเก่าเลย
อาจารย์สกลได้เผยเหตุผลที่เลือกใช้รถสองแถวธรรมดาคันนี้ในการเดินทางว่า เป็นเพราะ ความเชื่อของตนเองและเด็กๆ ว่ารถที่พาพวกเขาไปแข่งขันคันนี้อาจนำโชคและชัยชนะมาให้ แก่ทีม เพราะมันได้พาพวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง และพวกเขาอยากใช้มันตั้งแต่เริ่มจนจบฤดูกาลแข่งขันเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้เด็กๆ ในทีมยังเชื่อมั่นว่า รถคันนี้ไม่เพียงนำชัยชนะเท่านั้น แต่ยังนำความปลอดภัยและความโชคดีมาสู่พวกเขาด้วย
วันนี้ ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยาไม่ได้เพียงสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังได้จุดประกายแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนทั่วประเทศ ที่ชี้ให้เห็นว่าทีมจากโรงเรียนเล็กๆ ก็สามารถก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้
ที่มา : bangkokbiznews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
