svasdssvasds

ถอดรหัส "คนละครึ่งพลัส x Food Delivery" จุดเปลี่ยนร้านเล็กพุ่งทะลุล้านออเดอร์

ถอดรหัส "คนละครึ่งพลัส x Food Delivery" จุดเปลี่ยนร้านเล็กพุ่งทะลุล้านออเดอร์

Grab Food เผยคนไทยแห่ใช้ “คนละครึ่งพลัส” ผ่านเดลิเวอรี ทุบสถิติล้านออเดอร์ ช่วยร้านเล็ก-สตรีตฟู้ดเพิ่มยอด 3 เท่า ขณะที่ LINE MAN เผยเม็ดเงินหมุนเวียนเกือบ 300 ล้านบาท

SHORT CUT

  • โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ร่วมมือกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี สร้างยอดสั่งซื้อทะลุหลักล้านออเดอร์และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท
  • โครงการนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กและสตรีทฟู้ดเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น โดยสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตขึ้นเฉลี่ย 3-18 เท่า
  • ความสำเร็จเกิดจากโมเดลที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ทั้งผู้บริโภคที่ได้ส่วนลด ร้านค้าที่มียอดขายเพิ่ม และไรเดอร์ที่มีรายได้สูงขึ้น

Grab Food เผยคนไทยแห่ใช้ “คนละครึ่งพลัส” ผ่านเดลิเวอรี ทุบสถิติล้านออเดอร์ ช่วยร้านเล็ก-สตรีตฟู้ดเพิ่มยอด 3 เท่า ขณะที่ LINE MAN เผยเม็ดเงินหมุนเวียนเกือบ 300 ล้านบาท

โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่ใช่แค่การกระตุ้นการใช้จ่าย แต่คือ ภาพสะท้อนความสำเร็จในการเชื่อมโยงนโยบายรัฐบาลเข้ากับ "เศรษฐกิจดิจิทัล" และเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ร้านเล็ก ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Street Food เข้าสู่โลกออนไลน์ได้เร็วยิ่งขึ้น ชวนถอดรหัสเบื้องหลังตัวเลขยอดสั่งอาหารเดลิเวอรีที่พุ่งทะลุล้านออเดอร์

1. ลบภาพ 'คนละครึ่ง' สั่งได้แค่หน้าร้าน

เมื่อนโยบายรัฐบาลเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัคมากขึ้น และมาเจอกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรีระดับประเทศอย่าง GrabFood และ LINE MAN ผลลัพธ์ที่ได้คือเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล และการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคที่น่าสนใจ

  • GrabFood : เผยยอดสั่งอาหารผ่านโครงการฯ ทะลุ 1 ล้านออเดอร์ ในช่วงไม่กี่วันแรก
  • LINE MAN : ทำยอดสะสมทะลุ 2 ล้านออเดอร์ ภายใน 5 วันแรก จากผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ ดันเม็ดเงินหมุนเวียนเกือบ 300 ล้านบาท
  • ภาพรวมการสั่งออนไลน์ : ข้อมูลจากกระทรวงการคลังชี้ว่า ยอดใช้จ่ายสะสมผ่านเดลิเวอรีรีในโครงการฯรวมอยู่ที่ 419.42 ล้านบาท โดย LINE MAN เป็นแพลตฟอร์มที่มียอดใช้จ่ายสูงที่สุด

ตัวเลขเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า Food Delivery ได้กลายเป็นส่วนสำคัญและเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการกระจายนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไปสู่ประชาชนอย่างแท้จริง

ถอดรหัส \"คนละครึ่งพลัส x Food Delivery\" จุดเปลี่ยนร้านเล็กพุ่งทะลุล้านออเดอร์

2. ร้านเล็ก และ Street Food คือผู้ชนะ

หัวใจสำคัญที่ทำให้โครงการ คนละครึ่งพลัส ถูกมองว่าเป็น "Quick Big Win" (นโยบายที่เห็นผลเร็วและมีอิมแพกสูง) คือการสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจฐานรากอย่างร้านอาหารขนาดเล็กและ Street Food

  • ยอดขายพุ่ง 3-18 เท่า : ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการฯ กับ GrabFood มียอดขายเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงปกติ
  • ร้านที่ทำสถิติสูงสุด : “ร้านอยู่นี่ ตามสั่ง ข้าวผัด สเต็ก” ในกรุงเทพฯ ยอดขายพุ่งถึง 18 เท่า จากหลักร้อยเป็นหลักหมื่นต่อวัน หรือ “ร้านพาสต้า บ่?” ย่านจรัญ 35 ที่ทำยอดขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่าครึ่งแสนบาท
  • Street Food เข้าถึง แพลตฟอร์มออนไลน์ : ร้านอาหารขนาดเล็กและสตรีตฟู้ดแห่เข้าร่วมโครงการฯ กับ Grab เพิ่มขึ้นกว่า 50% แสดงให้เห็นว่าโครงการนี้ทำหน้าที่เป็น "แรงจูงใจ" ให้ร้านค้าแบบดั้งเดิมก้าวเข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็ว

ถอดรหัส \"คนละครึ่งพลัส x Food Delivery\" จุดเปลี่ยนร้านเล็กพุ่งทะลุล้านออเดอร์

3. พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ เน้นสั่งด่วน สั่งบ่อย สั่งคุ้ม

การใช้สิทธิคนละครึ่งพลัสเผยให้เห็นพฤติกรรมการสั่งอาหารเดลิเวอรีที่น่าสนใจของคนรุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าและถี่ขึ้น

  • ช่วงเวลาทอง : มื้อกลางวัน (11.00 – 12.00 น.) คือช่วงที่มีการสั่งอาหารเดลิเวอรีผ่านโครงการฯ มากที่สุด
  • มูลค่าต่อออเดอร์ : คนส่วนใหญ่นิยมสั่งในมูลค่าประมาณ 80 - 120 บาท สะท้อนพฤติกรรม "สั่งคุ้มค่าเงิน" ด้วยสิทธิส่วนลดสูงสุด
  • เมนูยอดฮิต : ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, ไก่ทอด คืออาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมสูงสุด ขณะที่เครื่องดื่มต้องยกให้ ชาไทย ที่ยืนหนึ่งไม่เปลี่ยนแปลง
  • ความถี่ : โครงการฯ กระตุ้นให้เกิดการสั่งอาหารเดลิเวอรีเพิ่มขึ้น โดยพบว่าผู้ใช้บริการที่สั่งตั้งแต่ 2 ออเดอร์ต่อวันขึ้นไป เพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า
  • พื้นที่สั่งเยอะสุด : กรุงเทพฯ ครองแชมป์ ตามด้วย ชลบุรี ขอนแก่น โคราช และเชียงใหม่

ถอดรหัส \"คนละครึ่งพลัส x Food Delivery\" จุดเปลี่ยนร้านเล็กพุ่งทะลุล้านออเดอร์

นโยบายรัฐ กับกลยุทธ์ Food Delivery

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย ระบุว่า โครงการนี้ไม่ได้ช่วยแค่ผู้บริโภคและร้านค้า แต่ยังส่งผลดีไปทั่วทั้งระบบนิเวศ (Ecosystem)

1. Win-Win-Win Model

  • ผู้บริโภค : ได้รับส่วนลดและช่วยลดภาระค่าครองชีพ
  • ร้านอาหาร : สร้างยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด (Growth Hacking) โดยเฉพาะร้านเล็ก
  • ไรเดอร์ (Rider) : ผู้จัดส่งอาหารมีรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 13%
  • ผลทางอ้อม : อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง กลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัตถุดิบก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย

2. กลยุทธ์ของแพลตฟอร์ม

Grab Food ไม่ได้แค่รับนโยบายภาครัฐ แต่มีการใช้กลยุทธ์ที่สนับสนุนอย่างเต็มที่

  • GP พิเศษ : Grab มีการคิดค่าธรรมเนียม GP ในอัตราพิเศษเพียง 7% ให้ร้านอาหารที่เข้าร่วม
  • โปรโมชันดึงดูด : จัดส่งฟรี 5 กิโลเมตร และให้ส่วนลดเพิ่มเติมแก่ผู้บริโภคสูงสุดถึง 3,000 บาท

นโยบาย คนละครึ่งพลัส กับ Food Delivery ครั้งนี้ชี้ให้เห็น ถึงความสำเร็จการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการกระจายเงิน ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดันให้ร้านค้าแบบดั้งเดิมมีความสามารถในการแข่งขันยุคดิจิทัล ในช่วงเวลาทุกคนต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจ

related