svasdssvasds

ปฏิบัติการ “หาดใหญ่ต้องรอด” 'สันติ' สั่ง สคบ. เปิดมาตรการช่วยผู้ประสบภัย

ปฏิบัติการ “หาดใหญ่ต้องรอด” 'สันติ' สั่ง สคบ. เปิดมาตรการช่วยผู้ประสบภัย

'สันติ' เปิดปฏิบัติการ "หาดใหญ่ต้องรอด" สั่ง สคบ. ระดมเอกชน–สายการบิน–แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ เปิดมาตรการช่วยประชาชนชุดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ท่ามกลางวิกฤตอุทกภัยที่ซัดถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาอย่างรุนแรง สันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการด่วนให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดปฏิบัติการ “ฟื้นหาดใหญ่และพื้นที่อุทกภัยภาคใต้” แบบเต็มกำลัง โดยมอบหมายให้ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการ สคบ. ประสานทุกหน่วยงานรัฐ-เอกชนระดับประเทศ เพื่อเปิดชุดมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคที่ 'ครอบคลุมที่สุด-เร็วที่สุด' ซึ่งทุกหน่วยงานเร่งนำมาตรการที่สามารถช่วยประชาชนได้ทันที โดยมีเป้าหมายเดียวคือ "ประชาชนต้องรอดพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน"

ที่ประชุมได้กำหนดมาตรการและแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้ สรุปมาตรการในการช่วยเหลือ ดังนี้

  1. ช็อปออนไลน์ส่งฟรีทั้งหาดใหญ่ Shopee - สคบ. 

เปิดเกมช่วยด่วนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ที่การคมนาคมได้รับผลกระทบ สคบ. จับมือ Shopee เปิดมาตรการแรงที่สุดแห่งปี ส่งฟรีทั้งเดือนธันวาคม 2568 สำหรับทุกคำสั่งซื้อปลายทางหาดใหญ่ อยู่ระหว่างการพิจารณา ลดราคาสินค้าจำเป็นหลายรายการ เช่น อุปกรณ์ซ่อมบ้าน เครื่องมือซ่อมแซม เสื้อผ้า - ชุดชั้นใน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย
ในช่วงฟื้นฟูบ้านเรือน

ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงของใช้จำเป็นได้ "แม้น้ำยังไม่ลด" ถือเป็นการตอบสนองประชาชนรวดเร็วที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤตครั้งนี้

ปฏิบัติการ “หาดใหญ่ต้องรอด” \'สันติ\' สั่ง สคบ. เปิดมาตรการช่วยผู้ประสบภัย

  2. รถจมน้ำไม่ต้องจ่ายหนัก - สคบ. จับมือนายกสมาคมอู่กลาง ประกาศช่วยแบบเต็มอัตรา

เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ไวที่สุด สคบ. เปิดมาตรการช่วยผู้เสียหายด้านรถยนต์ ดังนี้

  • ประเมินราคาค่าซ่อมฟรีทุกราย
  • ส่วนลดอะไหล่พิเศษช่วยเฉพาะพื้นที่ภัยพิบัติ

พร้อมกดดันเสนอเพิ่ม 3 มาตรการเจาะจุดปัญหาจริง

  • ลดค่าแรงซ่อม
  • เพิ่มระยะเวลารับประกันงานซ่อม
  • รับประกันอะไหล่ทุกชิ้นที่เปลี่ยน

สมาคมฯ รับลูกทันที และจะประกาศผลภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ นับเป็นความรวดเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมอู่ซ่อมรถ

ปฏิบัติการ “หาดใหญ่ต้องรอด” \'สันติ\' สั่ง สคบ. เปิดมาตรการช่วยผู้ประสบภัย

 3. ผู้ประสบภัยไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้-ประกาศ “พักหนี้ 6 เดือน” พร้อมปรับโครงสร้างทันที

ผู้ประกอบการเช่าซื้อรถยนต์–รถจักรยานยนต์ ร่วมเสนอ 2 มาตรการช่วยเหลือหนักที่สุด

  • พักชำระหนี้ได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน เพื่อลดภาระประชาชนที่ต้องซ่อมบ้าน-ซ่อมรถ
  • ฟื้นฟูธุรกิจ
  • ปรับโครงสร้างหนี้รายคน เพื่อให้ค่างวดเหมาะกับรายได้จริง

มาตรการนี้ถือเป็น “เกราะป้องกันหนี้เสียระดับประเทศ” และช่วยรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวม

  4. สายการบิน-OTA 10 ราย ผนึกกำลังช่วยผู้โดยสาร เปิด Flex ทุกเงื่อนไข

สายการบินและ OTA 10 หน่วยงาน เข้าร่วมหารือ พร้อมประกาศมาตรการช่วยเหลือแบบไม่เคยมีมาก่อน ได้แก่

  • ขยายอายุการใช้ตั๋ว 30-90 วัน
  • เปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบินภายในภาคใต้ได้ทั้งหมด
  • เปลี่ยนเที่ยวบินโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
  • แก้ไขปัญหา เครดิตเซล ที่เกิดจากการเลื่อน-ยกเลิกเที่ยวบิน

ระยะยาว : คุมราคา OTA ครั้งแรกของประเทศ

สคบ. - CAAT - ETDA จับมือจัดทำหลักเกณฑ์ควบคุมราคาของ OTA เพื่อป้องกันการฉวยโอกาส และจะใช้กลไกกฎหมายด้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นฐานบังคับใช้

ภายหลังน้ำเริ่มลด สคบ. จะส่งทีมตรวจพื้นที่ทันทีเพื่อกำชับและขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจเต็นท์รถ – อู่ซ่อม – วัสดุก่อสร้างทั่วหาดใหญ่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เช่น

  • เต็นท์รถมือสอง ต้องเปิดเผยประวัติรถตามจริงโดยเฉพาะ “รถน้ำท่วม”
  • อู่ซ่อมรถ ต้องมีเอกสารซ่อม–ราคา–อะไหล่–การรับประกันครบถ้วน
  • วัสดุก่อสร้าง (Metal Sheets) ตรวจสอบฉลากจริงทุกแผ่น เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกขายสินค้าคุณภาพต่ำช่วงซ่อมบ้าน

ปฏิบัติการนี้เน้น “เร็ว–ลึก–เข้ม” เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกโกงแม้แต่บาทเดียว

ด้าน รัฐมนตรีสันติ ปิยะทัต พร้อมผลักดันมาตรการต่างๆ ให้ถึงมือประชาชนที่ประสบภัยโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งได้กำชับให้ สคบ. ทำงานเชิงรุก เชื่อมข้อมูลทุกฝ่าย พร้อมติดตามสถานการณ์แบบวันต่อวัน เพื่อให้ประชาชนภาคใต้ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ในช่วงวิกฤติครั้งนี้

ปฏิบัติการ “หาดใหญ่ต้องรอด” \'สันติ\' สั่ง สคบ. เปิดมาตรการช่วยผู้ประสบภัย

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า เรื่องทรัพย์สิน สคบ. จะทำหน้าที่ในการเป็นหน่วยงานที่ช่วยเหลือประชาชนตามมาตรการที่ได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1166 หรือร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือเว็บไซต์ www.ocpb.go.th รวมถึง คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด เพราะ “ข้อมูลจากประชาชน คือหัวใจของการกำหนดมาตรการที่ดีที่สุด”
 

related