
SHORT CUT
ไทยปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่เนิน 500 และ 677 บริเวณช่องอานม้าได้สำเร็จ และยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมากจากทหารกัมพูชาได้จำนวนมาก
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 ธ.ค. 68) กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17 (ร.17 พัน 2) บ้านกระทิงดำ ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง แห่งกองทัพบกไทย ได้ปฏิบัติการเข้ายึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญบริเวณ เนิน 677 และเนิน 500 ในพื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ
หลังการยึดคืนพื้นที่ ทหารกล้าได้ดำเนินการอัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาเหนือเนินทั้งสองแห่ง เพื่อประกาศอธิปไตยของประเทศไทยเหนือดินแดนดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ทหารไทยได้ส่งโดรนติดธงชาติไทยขึ้นบินเหนือช่องอานม้า เพื่อเป็นการ "เทิดเกียรติวีรบุรุษผู้สละชีพ" ในสมรภูมิ
ทหารไทย ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนจากทหารกัมพูชาได้เป็นจำนวนมาก บนเนิน 500 ภายหลังปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่สำเร็จ
สำหรับรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับรถถังสมัยใหม่ที่มีเกราะป้องกันพิเศษ เช่น เกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด (ERA) คือรุ่น PF-89B ซึ่งใช้หัวรบแบบ Tandem Shaped-Charge HEAT หัวรบแบบนี้จะมีส่วนนำขนาดเล็กยิงออกไปทำลาย ERA ก่อนที่หัวรบหลักจะตามไปเจาะเกราะจริง ๆ
นอกจากหัวรบสำหรับยานเกราะแล้ว ยังมีหัวรบสำหรับทำลายเป้าหมายในอาคารหรือกำลังพลในที่กำบัง คือรุ่น WPF-89-1 และ WPF-89-2 ที่ใช้หัวรบแบบ Thermobaric ซึ่งจะสร้างคลื่นระเบิดและแรงดันสูงในวงกว้าง ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการทำลายล้างในพื้นที่ปิดอีกด้วย
สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยทราบว่ามีการเผยแพร่ข่าวจากสื่อบางแห่งในประเทศไทยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะมีพลเมืองชาวรัสเซียเข้ามาพัวพันในฐานะทหารรับจ้างที่ถูกฝ่ายกัมพูชาว่าจ้างให้มาเข้าร่วมในความขัดแย้งบริเวณชายแดนประเทศไทยและกัมพูชานั้น
ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงและมีแนวโน้มว่าจะถูกสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค มีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนสิทธิพลเมืองชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวหรือประกอบธุรกิจ เป็นการสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างประเทศรัสเซียและไทย
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียมีจุดยืนที่ชัดเจนต่อประเด็นความขัดแย้งชายแดนไทยและกัมพูชา และในประเด็นดังกล่าวได้มีการแจ้งให้ทราบแล้วโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ความว่า “ประเทศรัสเซียมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรและมีความร่วมมือกับประเทศไทยและกัมพูชา เราขอยืนยันและสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทนี้โดยสันติวิธีเท่านั้น”
เจ้าหน้าที่ทหารเรือและหน่วยงานความมั่นคง ได้ปฏิบัติการสำคัญภายใต้กฎอัยการศึก โดยการบุกเข้าจับกุมสมาชิกครอบครัวชาวกัมพูชาครอบครัวหนึ่งในพื้นที่จังหวัดตราด
การควบคุมตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ลูกเขยของครอบครัวดังกล่าวเป็น นายตำรวจยศพันตำรวจโท (ผู้พัน) สังกัดตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ของประเทศกัมพูชา
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวสมาชิกในครอบครัวทั้งหมดไปสอบสวนอย่างเข้มข้น และทำการยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง เพื่อตรวจสอบหลักฐานทางดิจิทัล โดยพบประวัติการพูดคุยกับนายตำรวจยศผู้พันคนดังกล่าว ก่อนที่จะมีการบล็อกบัญชีไลน์ในภายหลัง
ด้านผู้ถูกควบคุมตัว อ้างว่าได้ทะเลาะกับผู้พันเรื่องชู้สาว จึงเป็นเหตุให้บล็อกไลน์ไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังไม่ปักใจเชื่อ ในคำกล่าวอ้างดังกล่าว และจะดำเนินการสืบสวนเชิงลึกต่อไป เพื่อหาความเชื่อมโยงที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ