svasdssvasds

สรุปเหตุการณ์สำคัญชายแดนไทย-กัมพูชา ทบ.ลั่นไม่มีแนวทาง "หยุดยิง"

สรุปเหตุการณ์สำคัญชายแดนไทย-กัมพูชา ทบ.ลั่นไม่มีแนวทาง "หยุดยิง"

สรุปให้ เหตุการณ์สำคัญชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดการปะทะรุนแรงตลอดแนวชายแดนในหลายจังหวัด โดยทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธหนักตอบโต้ กองทัพบกประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่มีแนวทางการหยุดยิงกับกัมพูชา

SHORT CUT

  • กองทัพบกประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่มีแนวทางการหยุดยิงกับกัมพูชา
  • สาเหตุที่ไม่มีการหยุดยิง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังคงใช้ปืนใหญ่และจรวดโจมตีกำลังทหารและพื้นที่พลเรือนไทยอย่างต่อเนื่อง
  • เกิดการปะทะรุนแรงตลอดแนวชายแดนในหลายจังหวัด โดยทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธหนักตอบโต้กัน
  • กองทัพบกกล่าวหาว่าการที่กัมพูชากักกันคนไทยที่ด่านปอยเปต อาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม

สรุปให้ เหตุการณ์สำคัญชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดการปะทะรุนแรงตลอดแนวชายแดนในหลายจังหวัด โดยทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธหนักตอบโต้ กองทัพบกประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่มีแนวทางการหยุดยิงกับกัมพูชา

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 

สถานการณ์ตั้งแต่ 09.00 น. มีเหตุการณ์ที่สำคัญดังนี้

  • พื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 ฝ่ายเรา ใช้โดรนทำการปฏิบัติต่อที่หมายตามแผน จำนวน 3 จุด ที่หมายถูกทำลาย 80 %
  • พื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายกัมพูชามีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนในพื้นที่ ทั้ง ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 ปืนใหญ่ฝ่ายเราดำเนินการยิงสนับสนุนในพื้นที่
  • พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเรา ด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 อย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน ฝ่ายเราทำการตรึงตลอดแนวการวางกำลัง และตอบโต้ตามเหตุการณ์
  • พื้นที่ปราสาทตาควาย เนิน 350 อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค. และ จรวด BM-21 และยังปรากฎการใช้อากาศยานไร้คนขับทั้งแบบทิ้งระเบิด และ FPV ฝ่ายเราปฏิบัติการเข้าตี ยึดครองภูมิประเทศสำคัญ
  • พื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตี ด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง, ค., ปืนใหญ่, จรวด BM-21 และปรากฏการใช้อากาศยานไร้คนขับบินตรวจการณ์ในพื้นที่ ฝ่ายเราทำการตรึงตลอดพื้นที่การวางกำลัง และตอบโต้ตามเหตุการณ์
  • พื้นที่สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีด้วยอาวุธปืนเล็ก และ ค. ในพื้นที่ เป็นห้วงๆ ฝ่ายเราทำการตรึงกำลังฝ่ายตรงข้ามในพื้นที่ ตลอดแนวการวางกำลัง
  • พื้นที่ช่องจอม-ช่องระยี-ปลดต่าง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธปืนเล็ก และ ค. ในพื้นที่ เป็นห้วงๆ และมีการเพิ่มเติมกำลังประมาณ 300 นาย จากนอกพื้นที่ ฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุน ค. ยิงต่อที่หมายพื้นที่โอสเม็ด

สรุปเหตุการณ์สำคัญชายแดนไทย-กัมพูชา ทบ.ลั่นไม่มีแนวทาง "หยุดยิง"

กัมพูชากักกันคนไทยที่ด่านปอยเปต อาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม

กัมพูชากักกันคนไทย เข้าข่ายอาชญากรสงคราม

จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาแสดงพฤติการณ์อย่างชัดเจนในการขัดขวางการเดินทางกลับประเทศไทยของประชาชนชาวไทยจำนวนหลายพันคน ณ ด่านปอยเปตนั้น

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการควบคุมตัวพลเรือนโดยมิชอบ หรือมีลักษณะใกล้เคียงกับการจับตัวพลเรือนไปเป็นตัวประกัน อันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจในระดับนานาชาติว่าเป็นการกักกันตัวโดยผิดกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะสิทธิและเสรีภาพในการเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนาของตนเอง

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ได้แก่ อนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนในเวลาการรบหรือการสงคราม ลงวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1949 รวมถึงพิธีสารเพิ่มเติมของอนุสัญญาเจนีวา และพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากการขัดกันด้วยอาวุธระหว่างประเทศ ค.ศ. 1977

ทั้งนี้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักกันตัวพลเรือนโดยมิชอบดังกล่าว อาจมีความผิดเข้าข่ายเป็นอาชญากรสงคราม ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

เนื่องจากกัมพูชาเป็นภาคีของอนุสัญญาเจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติมดังกล่าว จึงมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนชาวไทยจำนวนหลายพันคน ณ ด่านปอยเปต สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนสากล

 

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว

  • พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนควบคุมพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่โล่งแจ้ง โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
  • พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ยึดครองพื้นที่ตามแนวอ้างสิทธิ์ และใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชายังคงต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
  • พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนควบคุมพื้นที่ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง

สรุปความเสียหายของฝ่ายกัมพูชาที่พิสูจน์ทราบได้

  • บก.ควบคุม 1 แห่ง
  • จุดตรวจการณ์/ฐานทหาร 11 แห่ง
  • บ่อนกาสิโน 1 แห่ง
  • บังเกอร์ 6 แห่ง
  • ที่ตั้งยุทโธปกรณ์ 1 แห่ง
  • ที่ตั้งยิงเครื่องยิงลูกระเบิด 4 แห่ง
  • พื้นที่ส่งกำลัง/ที่รวมพล 2 แห่ง
  • คลังกระสุน 2 แห่ง
  • ยานเกราะ 3 คัน
  • โดรนตรวจการณ์ 4 ลำ
  • เสาสัญญาณสื่อสาร 4 ต้น
  • คาดว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 300 นาย

ทบ. ลั่นไม่มีแนวทาง "หยุดยิง" เหตุกัมพูชาโจมตีทหาร-พลเรือนไทย

กองทัพบกเผยไม่มีแนวทางการหยุดยิง โดยยังพบกัมพูชาโจมตีต่อกำลังทหารและพื้นที่พลเรือนไทยอย่างต่อเนื่อง ยืนยันการปฏิบัติการทางทหารที่มีเป้าหมายหลักเพื่อขจัดภัยคุกคามและควบคุมพื้นที่ด้านความมั่นคง

จากกรณีที่สังคมได้ให้ความสนใจและมีข้อสงสัยในประเด็นเรื่องการหยุดยิง หลังนายกรัฐมนตรีมาเลเซียโพสต์ข้อความระบุว่าไทยและกัมพูชาจะเริ่มกระบวนการหยุดยิงในวันที่ 13 ธ.ค.68 เวลา 22.00 น. นั้น

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยต่อกรณีดังกล่าวว่าในส่วนของกองทัพบก ไม่เคยกล่าวถึงหรือมีแนวการปฏิบัติในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก จรวด BM-21, เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนพลีชีพ โจมตีต่อกำลังทหารไทยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยอย่างร้ายแรง

ทบ. ลั่นไม่มีแนวทาง "หยุดยิง" เหตุกัมพูชาโจมตีทหาร-พลเรือนไทย

ที่มา : กองทัพภาคที่ 1 ,  กองทัพภาคที่ 2

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related