svasdssvasds

พบ 'รอยเท้าไดโนเสาร์' นับพันที่อิตาลี ใกล้สถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว

พบ 'รอยเท้าไดโนเสาร์' นับพันที่อิตาลี ใกล้สถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาว

พบรอยเท้าไดโนเสาร์หลายพันรอยบนหน้าผาเทือกเขาแอลป์ ใกล้กับสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2026 ถือเป็นการค้นพบแหล่งรอยเท้าไดโนสาร์ยุคไทรแอสซิก ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

SHORT CUT

  • มีการค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์หลายพันรอยบนหน้าผาเทือกเขาแอลป์ ใกล้เมืองบอร์มิโอ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2026
  • รอยเท้าดังกล่าวมีอายุมากกว่า 200 ล้านปี คาดว่าเป็นของไดโนเสาร์กินพืชคอยาวชนิด "พลาทิโอซอรัส" ในยุคไทรแอสซิก
  • ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นหนึ่งในแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี โดยบางรอยมีขนาดกว้างถึง 40 ซม. และเห็นรอยเล็บชัด

พบรอยเท้าไดโนเสาร์หลายพันรอยบนหน้าผาเทือกเขาแอลป์ ใกล้กับสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2026 ถือเป็นการค้นพบแหล่งรอยเท้าไดโนสาร์ยุคไทรแอสซิก ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

นักบรรพชีวินวิทยาชาวอิตาลีเปิดเผยการค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์นับพันรอยบนหน้าผาหินที่เกือบตั้งฉาก สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,000 เมตร ภายในอุทยานแห่งชาติสเตลวิโอ (Stelvio National Park) โดยระบุว่า เป็นการค้นพบแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ยุคไทรแอสซิกที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

รอยเท้าไดโนเสาร์เหล่านี้ ซึ่งบางรอยมีความกว้างถึง 40 เซนติเมตรและปรากฎรอยเล็บอย่างชัดเจน ทอดยาวเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตรในหุบเขาวัลเล ดิ ฟราเอเล (Valle di Fraele) ธารน้ำแข็งบนที่ราบสูงใกล้กับเมืองบอร์มิโอ (Bormio) หนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2026 ในแคว้นลอมบาร์ดี ทางตอนเหนือของอิตาลี

คริสเตียโน ดัลซัสโซ นักบรรพชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในเมืองมิลาน กล่าวในการแถลงข่าว ณ สำนักงานใหญ่ของแคว้นลอมบาร์ดี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมว่า นี่คือหนึ่งในแหล่งรอยเท้าที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในอิตาลีและเป็นหนึ่งในแหล่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดที่เคยเห็นมาในรอบ 35 ปี

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารอยเท้าไดโนเสาร์เหล่านี้ถูกทิ้งไว้โดยฝูงไดโนเสาร์กินพืชคอยาว ซึ่งน่าจะเป็นชนิด “พลาทิโอซอรัส” ไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ที่สุดในยุคไทรแอสซิก เมื่อกว่า 200 ล้านปีก่อน ในยุคที่พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นลากูนหรือทะเลสาบน้ำเค็มที่มีอุณหภูมิอบอุ่น เหมาะสำหรับให้ไดโนเสาร์เดินลัดเลาะเลียบชายฝั่งและทิ้งรอยเท้าไว้บนโคลนใกล้แหล่งน้ำ

 

ฟาบิโอ มาสซิโม เปตติ นักบรรพชีวินวิทยาด้านรอยเท้าจากพิพิธภัณฑ์ MUSE ในเมืองเทรนโตที่เข้าร่วมการแถลงข่าวเดียวกัน เปิเผยว่า รอยเท้าเหล่านี้ปรากฎขึ้นเมื่อตะกอนยังอ่อนนุ่มบนพื้นที่ราบน้ำขึ้นน้ำลงอันกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบมหาสมุทรเททิส

นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ตะกอนโคลนเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหินไปแล้ว ช่วยรักษาสรายละเอียดทางกายวิภาคของรอยเท้าไดโนเสาร์เอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นรอยนิ้วเท้าหรือแม้แต่รอยเล็บ

เมื่อแผ่นเปลือกโลกแอฟริกาค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางเหนือ จึงทำให้มหาสมุทรเททิสปิดลงและแห้งขอด หินตะกอนที่ก่อตัวเป็นพื้นทะเลก็ถูกพับและดันตัวขึ้นจนกลายเป็นเทือกเขาแอลป์

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า รอยเท้าไดโนเสาร์ที่กลายเป็นฟอสซิลเหล่านี้ เดิมอยู่ในแนวราบ ก่อนจะถูกยกและลาดเอียงจนกลายเป็นแนวตั้งบนไหล่เขา ได้รับการค้นพบโดยช่างภาพสัตว์ป่าระหว่างออกติดตามถ่ายภาพกวางและนกแร้งเครา เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

โจวันนี มาลาโก (Giovanni Malagò) ประธานคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาวมิลาน-คอร์ติโน 2026 เปิดเผยว่า วิทยาศาสตร์ธรรมชาติได้มอบของขวัญที่ล้ำค่าและเหนือความคาดหมาดจากยุคดึกกำบรรพ์ให้แก่การแข่งขันมิลาน – คอร์ติโน 2026

ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยเส้นทางเดินเท้า ทำให้นักวิจัยจึงจำเป็นต้องใช้โดรนและเทคโนโลยีการสำรวจระยะไกลในการศึกษารอยเท้าไดโนเสาร์เหล่านี้ต่อไป

เครดิตภาพ : AFP

ที่มา: CNA 

related