svasdssvasds

ชีวิต "นักเรียนไทย" ตามแนวชายแดน หลังโรงเรียนกว่า 1,000 แห่ง ต้องปิด

ชีวิต "นักเรียนไทย" ตามแนวชายแดน หลังโรงเรียนกว่า 1,000 แห่ง ต้องปิด

สื่อจีน CCTV ลงพื้นที่สำรวจศูนย์พักพิง ที่มีเยาวชนจำนวนมากไม่ได้ไปโรงเรียน เนื่องจากการปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้โรงเรียนมากกว่า 1,000 แห่ง ต้องปิด

SHORT CUT

  • การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดโรงเรียนกว่า 1,060 แห่งใน 7 จังหวัดเพื่อความปลอดภัย
  • นักเรียนจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์การปะทะ
  • เด็กนักเรียนได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์ รู้สึกหวาดกลัวเสียงปืน และต้องการกลับไปเรียนหนังสือเพื่อพบเพื่อน

สื่อจีน CCTV ลงพื้นที่สำรวจศูนย์พักพิง ที่มีเยาวชนจำนวนมากไม่ได้ไปโรงเรียน เนื่องจากการปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้โรงเรียนมากกว่า 1,000 แห่ง ต้องปิด

สถานการณ์การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เริ่มต้นจากตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 2568 จนถึงวันนี้เข้าสู่วันที่ 13 แล้ว

ล่าสุด CCTV สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ได้ส่งนักข่าวลงพื้นที่บริเวณศูนย์พักพิงในจังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย โดยระบุว่า ประเทศไทยโรงเรียนปิดกว่า 1,000 แห่งในพื้นที่ชายแดนชั่วคราว หลังเกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ตามแนวชายแดนที่ติดกัน โดยกระทรวงศึกษาธิการของไทยได้สั่งให้ระงับการเรียนการสอนใน 7 จังหวัดที่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนกว่า 1,060 แห่ง เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนและครู

โดยรายงานระบุว่า จังหวัดบุรีรัมย์เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปะทะกันครั้งใหม่ โดยมีโรงเรียนกว่า 100 แห่ง ที่ปิดทำการ ชาวบ้านต้องอพยพออกจากบ้านเรือน รวมถึงเด็กและวัยรุ่น ไปหลบภัยในศูนย์พักพิงท้องถิ่น

ขณะที่การปะทะกันยังคงดำเนินต่อไป เด็กๆบอกว่า ต้องย้ายมาที่ศูนย์เพราะการปะทะกัน ได้ยินเสียงปืนดังมากที่บ้าน โรงเรียนจะไม่เปิดจนกว่าการปะทะจะสิ้นสุด คิดถึงเพื่อนๆ ของเธอมาก

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังสัมภาษณ์เด็กชาย ที่บอกถึงความรู้สึกเดียวกันว่า อยู่ในศูนย์พักพิงมา 13 วันแล้ว ได้ยินเสียงปืนที่บ้านและกลัวมากจนต้องย้ายมาที่ศูนย์พักพิง อยากกลับไปเรียนเพื่อจะได้พบกับเพื่อนๆ

ที่มา : nationtv 

related