svasdssvasds

ไทยยึดเนิน 350 สำเร็จ! หลังการปะทะเดือด เตรียมรับร่าง 2 ทหารกล้ากลับ

ไทยยึดเนิน 350 สำเร็จ! หลังการปะทะเดือด เตรียมรับร่าง 2 ทหารกล้ากลับ

กองทัพไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ "เนิน 350" บริเวณชายแดนได้สำเร็จหลังการปะทะ พบร่างทหารไทย 2 นายที่เสียชีวิตในพื้นที่ปฏิบัติการ เตรียมเคลื่อนย้ายกลับ เร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อสถาปนาความมั่นคง พบมีการวางทุ่นระเบิดสังหารจำนวนมาก

SHORT CUT

  • กองทัพไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่เนิน 350 บริเวณชายแดนได้สำเร็จหลังการสู้รบอย่างหนัก
  • พบร่างทหารไทย 2 นายที่เสียชีวิตในปฏิบัติการ และกำลังดำเนินการเคลื่อนย้ายกลับ
  • ฝ่ายไทยเผยว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

กองทัพไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ "เนิน 350" บริเวณชายแดนได้สำเร็จหลังการปะทะ พบร่างทหารไทย 2 นายที่เสียชีวิตในพื้นที่ปฏิบัติการ เตรียมเคลื่อนย้ายกลับ เร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อสถาปนาความมั่นคง พบมีการวางทุ่นระเบิดสังหารจำนวนมาก

วันนี้ (20 ธ.ค. 2568) พลตรี วิธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานล่าสุดจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ชายแดน บริเวณปราสาทตาควาย และพื้นที่เนิน 350 โดยกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า ได้พบร่างกำลังพลทหารที่เสียชีวิต 2 นาย (จ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน และ พลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา)ในพื้นที่ปฏิบัติการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายร่างวีรบุรุษทั้งสองนายกลับมายังพื้นนที่ส่วนหลัง

สำหรับสถานการณ์การควบคุมพื้นที่ ปัจจุบันฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ในเบื้องต้นได้แล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการสถาปนาความมั่นคง ณ ที่หมายอย่างต่อเนื่อง

แม่ทัพภาค 2 เผย ควบคุม ‘เนิน 350’ ได้แล้ว

พล.ท.วีรยุทธ์ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ไทยควบคุม ‘เนิน 350’ ได้แล้ว หลังบัญชาการรบร่วมกับ พลตรีสมภพ ภาระเวช ผบ.กกล.สุรนารี พบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารเต็มพื้นที่เกือบทุกตารางเมตร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ หลุมบุคคลกับอุโมงค์บางจุด เพื่อสถาปนาความมั่นคงที่หมาย ย้ำต้องรอบคอบรัดกุม โดยเฉพาะรอบพื้นที่ที่เจอร่างทหาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงลงมาพื้นส่วนหลัง

ประณามกัมพูชาโจมตีชุมชนพลเรือน ไม่เลือกเป้าหมาย

กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ใช้กำลังทางทหารและอาวุธโจมตีเข้ามาในพื้นที่ในพื้นที่ชุมชนและบ้านเรือนประชาชนใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่พลเรือนและมิใช่พื้นที่ทางทหาร การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดหลักการคุ้มครองพลเรือนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและบรรทัดฐานตามหลักสากลอย่างร้ายแรง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก

การใช้กำลังในลักษณะดังกล่าว ได้สร้างความสูญเสียและความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างกว้างขวาง ทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้ต้องดำรงชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวและความไม่มั่นคง อันเป็นผลจากการใช้กำลังที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านมนุษยธรรมและความปลอดภัยของพลเรือน

ไทยยึดเนิน 350 สำเร็จ! หลังการปะทะเดือด เตรียมรับร่าง 2 ทหารกล้ากลับ

สถานการณ์ความไม่สงบและการใช้กำลังทางทหารบริเวณแนวชายแดน ซึ่งยังคงมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนไทยเป็นวงกว้าง มีประชาชนได้รับผลกระทบรวมประมาณ 400,000 ราย จากสถานการณ์ดังกล่าว พบว่ามีประชาชนเสียชีวิตรวม 23 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากกรณีอาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ตกในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนโดยตรง จำนวน 1 ราย และผู้เสียชีวิตจากผลกระทบทางอ้อมของเหตุการณ์ จำนวน 22 ราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีดังกล่าวอีก 6 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดล้วนเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบแต่อย่างใด

นอกจากความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนแล้ว การกระทำดังกล่าวยังสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน โดยมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 30 หลัง พื้นที่ทำการเกษตรซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถประกอบอาชีพหรือดำรงชีวิตได้ตามปกติ

นอกจากนี้ พบว่ามีโรงพยาบาลได้รับผลกระทบ 20 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับผลกระทบ 201 แห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลพนมดงรักที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โดยตรง ขณะเดียวกัน ความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้สถานศึกษาหลายแห่งในพื้นที่ชายแดนต้องหยุดการเรียนการสอน เด็กและเยาวชนไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ตามปกติ ขาดโอกาสทางการศึกษา และต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัว ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและต่อเนื่องต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในการดำรงชีพของประชาชนในระยะยาว

โฆษกกองทัพบกระบุว่าการมุ่งเป้าโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นการใช้กำลังในลักษณะไม่เลือกเป้าหมายซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อชีวิตประชาชนเพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ประชาชนคนไทยไม่ควรต้องตกเป็นเป้าหมายหรือได้รับผลกระทบจากการกระทำทางทหารในลักษณะดังกล่าวกองทัพบกขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ก่อให้เกิดความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในทันทีพร้อมทั้งปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด

ที่มา : ทีมโฆษกกองทัพบก Army Spoke Team

related