svasdssvasds

"แมว" หม่ำจนสัตว์สูญพันธุ์แล้ว 2,000 สปีชีส์ สัญชาตญาณนักล่าเต็มเปี่ยม!

"แมว" หม่ำจนสัตว์สูญพันธุ์แล้ว 2,000 สปีชีส์ สัญชาตญาณนักล่าเต็มเปี่ยม!

แมว ล่าและกินสัตว์อื่น ๆ จนสูญพันธุ์ไปแล้ว 2,000 สปีชีส์ นักวิจัย รวบรวมหลักฐานจากหนังสือหลายร้อยเล่ม ที่ถูกตีพิมพ์ในช่วงระยะเวลา 100 ปี Spring News พาย้อนดูความเป็นมา การแพร่กระจายของแมว สัตว์ที่ถูกล่า พร้อมทั้งวิธีแก้ไขปัญหาสัตว์ถูกแมวกิน

แม้ภายนอกจะดูนุ่มนิ่ม น่ารักน่าชัง เห็นแล้วต้องเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หายคิดถึง แต่แมวเราต้องไม่ลืมว่า “แมวคือสัตว์นักล่า” ที่แอบอิงอยู่ในร่างอันบอบบางนี้

แมวเป็นสัตว์ที่หมดเวลาไปกับการนอนมากที่สุดราว ๆ 16 – 20 ชม. ต่อวัน และปัจจุบันก็กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประจำบ้าน พร้อมมี “ทาสแมว” อยู่ใต้อาณัติมากมาย

Spring News ชวนย้อนประวัติศาสตร์แมว มีความเป็นมาอย่างไร แมวแพร่กระจายไปยังทวีปอื่น ๆ ได้อย่างไร การมีอยู่ของแมวอันตรายต่อสัตว์อื่น ๆ มากน้อยแค่ไหน และประเทศใดที่มีมาตรการรับมือกับแมวออกล่าสัตว์จนสูญพันธุ์แล้วบ้าง ติดตามได้ที่บทความนี้

แมวกินสัตว์จนสูญพันธุ์ 2,000 สปีชีส์

แมวมาจากไหน?

ประวัติความเป็นมาของสัตว์ชนิดนี้ ถูกบันทึกไว้อย่างแตกต่างและหลากหลาย ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกบันทึกเอาไว้ ที่บ่งบอกว่าแมวเริ่มมีความเชื่อมโยงกับชีวิตมนุษย์ ต้องย้อนกลับไป 9,500 ปีก่อน ในสมัยอียิปต์โบราณ

ในการศึกษาสมัยใหม่ มีการขุดพบ “มัมมี่แมว” ซึ่งสาเหตุที่ศพแมวถูกนำไปพันเป็นมัมมี่ก็เกิดขึ้นจากรากความเชื่อที่ว่า แมวคือสัตว์วิเศษ ที่สามารถให้โชคแก่ผู้เลี้ยงดูมันได้ และเพื่อเสริมสร้างบารมีให้กับตัวเอง ครอบครัวที่ร่ำรวยจึงให้แมวสวมใส่เพชร พลอย จินดา พร้อมทั้งเลี้ยงดูด้วยอาหารอย่างดี และเมื่อตายก็ถูกนำไปพันเป็นมัมมี่แมว

มัมมี่แมว ทำขึ้นในสมัยอียิปต์โบราณ Cr. wikipedia

แมวแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างไร?

ข้อมูลหลายแห่งเขียนตรงกันว่า วิธีที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือการพาแมวขึ้นไปกับเรือสินค้า เพื่อใช้เป็น ‘ตำรวจเฝ้าเสบียง’ เพื่อป้องกันสัตว์เล็กมาแอบกินอาหารของคนบนเรือ น่าสนใจอย่างมากว่า คนสมัยโบราณค้นพบฟังก์ชั่นนี้ของแมวได้อย่างไร

แมวถูกนำขึ้นเรือเพื่อเฝ้าเสบียงอาหาร Cr. wikipedia

หลังจากนั้น เมื่อแมวถูกลำเลียงไปกับเรือ ก็เกิดการแพร่พันธุ์ และปรับตัวไปตามลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่ต่าง ๆ จนปัจจุบัน โลกนี้มีแมวมากถึง 41 สายพันธุ์ อีกหนึ่งข้อมูลที่ถูกบันทึกมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วก็คือ “แมวคือสัตว์นักล่า” หากใช้แว่นของมนุษย์ยุคโบราณก็จะเห็น ว่าพวกเขามองแมวเป็นสัตว์นักล่ามานานแล้ว

คำว่า “นักล่า” หมายความว่าต้องมี “ผู้ถูกล่า” หรือ “เหยื่อ” แน่นอนว่ามีสัตว์จำนวนไม่น้อยที่ถูกแมวจับกินเป็นอาหาร จนสูญพันธุ์ไปถึง 2,000 สปีชีส์ Spring News เรียบเรียงข้อมูลจากงานวิจัยของ Christopher Lepczyk มาให้ได้อ่านกัน

แมวกินสัตว์อื่นจนสูญพันธุ์แล้ว 2,000 สปีชีส์ Cr. Unsplash

แมวถูกนักวิจัยแฉ

แมวสัตว์นักล่า คร่า 2,000 สปีชีส์

รายงานที่ติพิมพ์ใน Nature Communication เป็นการศึกษาของ Christopher Lepczyk จากมหาวิทยาลัย Auburn ในสหรัฐ ที่ย้อนดูประวัติศาสตร์ “เหยื่อ” ของแมวไล่ตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน โดยศึกษาจากหลักฐานต่าง ๆ อาทิ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ตำรา และรายงานมากกว่า 530 ฉบับ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในช่วงระยะเวลา 100 ปี

งานวิจัยชิ้นนี้ รวบรวมสัตว์ 5 ชนิด ซึ่งกลายเป็นอาหารอันโอชะของแมว จนสูญพันธุ์ไปจากโลกในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ได้แก่

  • นก 981 สายพันธุ์
  • สัตว์เลื้อยคลาน 463 สายพันธุ์
  • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 431 สายพันธุ์
  • แมลง 119 สายพันธุ์
  • สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 57 สายพันธุ์

อันที่จริงแล้ว การถกเถียงเรื่อง “กำจัดแมว” เกิดอยู่ตลอด ซึ่งก็มีทั้งฝั่งที่ให้กำจัดให้หมด เพราะสัตว์พื้นถิ่นอื่น ๆ รวมถึงมนุษย์ได้รับผลกระทบ แต่ฝ่ายนักอนุรักษ์ก็ให้เหตุผลว่า แมวเป็นสัตว์นักล่าก็จริง แต่ถ้าเรามีวิธีหรือมาตรการควบคุมอย่างเหมาะสม แมวก็มิใช่สัตว์ที่อันตรายแบบที่เข้าใจ

ปัญหา “แมวเหมียว” ในแดนจิงโจ้

ประเทศออสเตรเลียขึ้นชื่อลือชาอย่างมากในเรื่องกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของสัตว์ในประเทศ เนื่องมีภูมิประเทศเป็นเกาะ เมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอาทิ โรคระบาด เป็นเรื่องยากที่จะป้องกัน ดังนั้น รัฐบาลออสเตรเลีย จึงได้ออกมาตรการที่เรียกว่า “Pet Quarantine”

เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ที่ผ่านมา รัฐบาลออสเตรเลียรายงานว่า ได้สร้างศูนย์กักกันพืช-สัตว์นำเข้าแห่งใหม่เสร็จสิ้นแล้ว เหตุผลที่สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นก็เพื่อให้มั่นใจว่า สัตว์ที่กำลังจะเข้าไปอาศัยอยู่ในประเทศ ต้องสะอาด ปลอดโรคอย่างถึงที่สุด

แมวกินเนื้อนก Cr. Great Ocean Road Coast

นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังมีมาตรการเรื่องการปกป้องดูแลสัตว์ที่น่าสนใจอาทิ มาตรการควบคุมสัตว์รบกวนและปรสิต ซึ่งผูกโยงอยู่กับที่กล่าวไปข้างต้น ว่ามีการสร้างสถานกักกันสำหรับสัตว์นำเข้า เพื่อคัดกรองคุณภาพ และความปลอดภัย

แล้ว “แมว” จัดอยู่ในสถานะใดในประเทศออสเตรเลีย?

หากเรียกว่าเป็น “ปัญหาระดับชาติ” คงไม่ผิดนัก ออสเตรเลียมีประชากรแมวราว 2.8 ล้านตัว โดยอาศัยอยู่ครอบคลุม 99.9% ของประเทศ ข้อมูลจาก Smithsonian ระบุว่า ในบางปีที่สภาพอากาศ อาหาร และสิ่งแวดล้อมเป็นใจ พบว่าประชากรแมวพุ่งสูงถึง 6 ล้านตัว

"แมวคิดสัตว์นักล่า" Cr. Unsplash

ด้วยจำนวนที่นับไม่ถ้วนเช่นนี้ ทำให้สัตว์พื้นถิ่นปรับตัวจาก “ผู้ล่าหน้านิ่ง” อย่างแมวไม่ได้ จนทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 34 ชนิดต้องสูญพันธุ์ไป และมีอีกกว่า 74 ชนิดที่กำลังถูกคุกคาม ทั้งในด้านชีวิตและถิ่นอาศัย

หากนับข้อมูลรายปี พบว่า แมวหนึ่งตัวจะฆ่าและกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประมาณ390 ตัว สัตว์เลื้อยคลาน 225 ตัว และนกอีก 130 ตัว นักล่าก็คือนักล่ายังวันยังค่ำ...

หลายท่านอาจพอได้ยินมาบ้างว่า แมวสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของมนุษย์ได้ ยามเราเศร้า คอตกกลับมาจากที่ทำงาน เจ้าแมวเหมียวเหล่านี้ก็เดินมาคลอเคลียอยู่เป็นเพื่อน พลางสูบฉีดให้หัวใจ “ทาสแมว” คืนสีสดใสอีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ดี ตัวเลขและสถิติไม่เคยโกหกใคร จากข้อมูลที่ Christopher Lepczykและทีมวิจัยของเขาได้รวบรวมข้อมูลมา แสดงให้เราเห็นว่า โลกนี้อาจมีสัตว์เพิ่มขึ้นอีก 2,000 สปีชีส์

หากแมวได้รับการควบคุมดูแล แต่ต้องยอมรับกันตามตรงว่า สถานะของแมวในความเข้าใจของเรา มีความแตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ เล็กน้อย แต่ก็ใช่ว่าในบางประเทศจะไม่มีมาตรการควบคุมดูแล “แมวจร” อยู่เลย

ส่องมาตรการควบคุมแมว

  • ออสเตรเลีย

วิธีที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับคือ จับ-ทำหมัน-ปล่อย ในแง่หนึ่งมันสามารถควบคุมประชากรแมวได้ แต่แมวที่ถูกปล่อยไปก็ออกไปล่าสัตว์อื่น ๆ กินเป็นอาหารอยู่ดี ฉะนั้น ในแง่ของการควบคุมไม่ให้แมวไปกินสัตว์อื่น “วิธีนี้ไม่ได้ผล”

อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจคือ รัฐบาลออสเตรเลียสั่งล้อมรั้ว ขนาด 90 ตารางกิโลเมตร ที่เขตอนุรักษ์สัตว์ป่านิวฮาเวน ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ รั้งดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้แมวไม่เข้าไปล่าและกินสัตว์ในเขตอนุรักษ์ โดยจะติดตั้งเป็นระยะเวลา 1 ปี

ออสเตรเลียล้อมรั้วป้องกันแมว Cr. Kristy O

  • เยอรมัน

เมืองวอลดอร์ฟ (Waldolf) ประเทศเยอรมัน ออกมาตรการที่เรียกว่า “ล็อคดาวน์” แต่มิได้ใช้กับคนแบบเมืองไทย แต่เป็นการล็อคดาวน์แมว ในความหมายคือ เจ้าของแมวต้องไม่ปล่อยแมวให้ออกมาเพ่นพ่านในช่วงฤดูผสมพันธุ์ของนกจาบฝนหงอน (Crested Lark) ซึ่งชอบมาวางไข่อยู่ตามพื้น

‘นกจาบฝนหงอน’ เป็นนกที่ใกล้สูญพันธุ์ ฉะนั้น เจ้าของแมวอาจมีความผิดถ้าปล่อยแมวออกไปด้านนอกบ้าน โดยจะโดนปรับ 500 ดอลลาร์สหรัฐ และสำหรับแมวที่ไปล่า ไข่หรือนกจาบฝนหงอนจนเสียชีวิต เจ้าของแมวต้องจ่ายค่าปรับ 50,000 สหรัฐ

นกจาบฝนหงอน (Crested Lark) Cr. E Bird

ย้ำอีกครั้ง! แมวเป็นสัตว์นักล่าโดยสัญชาตญาณ ทว่า บทบาทหรือภาพจำในปัจจุบันเปลี่ยนไปกลายเป็นสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย และมี “ทาส” อยู่ทั่วโลก แต่ความจริงที่ว่าแมวได้คร่าสัตว์กว่า 2,000 สปีชีส์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง กุญแจสำคัญในเรื่องนี้คือ จำเป็นต้องมีมาตรการ กฎหมาย ที่คอยควบคุมเอาไว้ เพื่อพิทักษ์ชีวิตของสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์

 

 

ที่มา: Library of Congress

       nature world

       the guardian

       scientificamerican

เนื้อหาที่น่าสนใจ

related