svasdssvasds

เปิดเส้นทาง "แม่น้ำสายหลัก" จากเหนือ ใช้เวลากี่วันมวลน้ำถึงจะเข้ากทม.

เปิดเส้นทาง "แม่น้ำสายหลัก" จากเหนือ ใช้เวลากี่วันมวลน้ำถึงจะเข้ากทม.

เปิดเส้นทาง "แม่น้ำสายหลัก" มวลน้ำจากภาคเหนือทำให้เขื่อนหลัก 4 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บเกือบเต็มความจุ กรมชลฯ ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราสูงสุดที่ 2,800 ลบ.ม./วินาที และลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

SHORT CUT

  • มวลน้ำจากภาคเหนือที่เกิดจากพายุและฝนตกหนัก ทำให้เขื่อนหลัก 4 แห่ง (ภูมิพล, สิริกิติ์, แควน้อย, ป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำกักเก็บเกือบเต็มความจุ
  • กรมชลประทานบริหารจัดการโดยระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราสูงสุดที่ 2,800 ลบ.ม./วินาที และลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
  • มวลน้ำที่ไหลลงมาจะไม่ส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่จะกระทบชุมชนริมแม่น้ำนอกคันกั้นน้ำใน 6 จังหวัด ตั้งแต่ชัยนาทถึงนนทบุรี

เปิดเส้นทาง "แม่น้ำสายหลัก" มวลน้ำจากภาคเหนือทำให้เขื่อนหลัก 4 แห่ง มีปริมาณน้ำกักเก็บเกือบเต็มความจุ กรมชลฯ ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราสูงสุดที่ 2,800 ลบ.ม./วินาที และลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

จากสถานการณ์พายุ และฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำสายหลักๆ ของภาคเหนือไหลท่วมหลายพื้นที่ และไหลลงมายังพื้นที่ภาคกลาง โดยก่อนหน้านี้ แพร่ น่าน เชียงราย สุโขทัย ลำปาง รวมถึงจังหวัดท้ายน้ำ ได้ถูกน้ำท่วมอย่างหนักในรอบหลาย 10 ปี 

เช็กปริมาณน้ำตามเขื่อนใหญ่ภาคเหนือ ภาคกลาง และแม่น้ำสำคัญหลายสายที่มีผลต่อพื้นที่เมืองหลวง 

เขื่อนกั้นน้ำสำคัญ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางน้ำต่างๆ ได้แก่

  • เขื่อนภูมิพล (แม่น้ำปิง: เชียงใหม่, ลำพูน, ตาก, กำแพงเพชร, นครสวรรค์)
  • เขื่อนกิ่วคอหมา, เขื่อนกิ่วลม (แม่น้ำวัง: เชียงราย, ลำปาง, ตาก)
  • เขื่อนสิริกิต์, เขื่อนนเรศวร (แม่น้ำน่าน: น่าน, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, พิจิตร, นครสวรรค์)
  • เขื่อนแควน้อย (แม่น้ำแควน้อย: กาญจนบุรี, พิษณุโลก)
  • เขื่อนทับเสลา (แม่น้ำสแกกรัง: นครสวรรค์, กำแพงเพชร, อุทัยธานี)
  • เขื่อนเจ้าพระยา (แม่น้ำเจ้าพระยา: นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, นนทบุรี, กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการ)
  • เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (แม่น้ำป่าสัก เลย, เพชรบูรณ์, ลพบุรี, สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา)

สถานการณ์ล่าสุด เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณน้ำกักเก็บ 98% , เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำกักเก็บ 99% , เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,800 ลบ.ม./วินาที , เขื่อนป่าสักฯ ปริมาณน้ำกักเก็บ 99% เขื่อนแควน้อย ปริมาณน้ำกักเก็บ 101%

จากเขื่อนเจ้าพระยา มวลน้ำใช้เวลาเดินทางนานแค่ไหน

จากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ถึงอ.สามโคก จ.ปทุมธานี ระยะทาง 139 กิโลเมตร มวลน้ำอาจใช้เวลาเดินทางได้ถึง 2.5 วัน

 

สถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ 10 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.

4 เขื่อนหลัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 

  • เขื่อนภูมิพล ปริมาตรน้ำ 13,319 ล้าน ลบ.ม. (99%) น้ำไหลเข้า 98.56 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำในอัตรา 44.94 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
  • เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาตรน้ำ 9,279 ล้าน ลบ.ม. (98%) น้ำไหลเข้า 13.45 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 10.00 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
  • เขื่อนแควน้อย ปริมาตรน้ำ 949 ล้าน ลบ.ม. (101%) น้ำไหลเข้า 7.83 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 5.18 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
  • เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาตรน้ำ 930 ล้าน ลบ.ม. (97%) น้ำไหลเข้า 12.55 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในอัตรา 25.95 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
  • สถานี C.2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,965 ลบ.ม. ต่อวินาที ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.91 ม.
  • เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำในอัตรา 2,800 ลบ.ม. ต่อวินาที มีระดับน้ำเหนือเขื่อน +17.700 ม.รทก. และระดับน้ำท้ายเขื่อน +16.490 ม.รทก.
  • สถานี C.29B อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,426 ลบ.ม. ต่อวินาที ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.28 ม.

เปิดเส้นทาง \"แม่น้ำสายหลัก\" จากเหนือ ใช้เวลากี่วันมวลน้ำถึงจะเข้ากทม.

สถานการณ์น้ำและการจัดการเขื่อนหลัก

เขื่อนหลักขนาดใหญ่ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำที่ตกเหนือเขื่อนได้ทั้งหมด

การบริหารจัดการน้ำในขณะนี้เน้นที่น้ำที่ไหลมาจากท้ายเขื่อนหลัก ได้แก่ แม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน ซึ่งไหลมารวมกันที่สถานีวัดน้ำ C2 นครสวรรค์ โดยระดับน้ำที่นครสวรรค์มีแนวโน้ม "ทรงตัว"

ปริมาณฝนที่ตกท้ายเขื่อนและบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร และอุทัยธานี รวมถึงน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ได้ไหลมาสมทบ ทำให้การบริหารจัดการน้ำซับซ้อนขึ้น

การบริหารจัดการที่เขื่อนเจ้าพระยา

กรมชลประทานได้ปรับการบริหารจัดการโดยพยายามนำน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกให้มากที่สุด วันนี้มีการรับน้ำเข้าสู่ระบบถึง 590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 

มีการพยายามยกระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ที่ +17.7 เมตร ซึ่งยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เหนือน้ำ

เนื่องจากน้ำเหนือที่ไหลมา ทำให้มีความจำเป็นต้องระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,750 ถึง 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นมวลน้ำที่ถึงจุดสูงสุด

การปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

แม้เขื่อนป่าสักจะมีความจุเกือบ 100% แต่ก็ยังถูกใช้ในการทดน้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เนื่องจากเข้าสู่ช่วงท้ายฤดูแล้ว มีการวางแผนที่จะ ลดปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งแต่วันนี้ (10 พ.ย.) เพื่อลดผลกระทบต่อกรุงเทพฯ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

น้ำจากเขื่อนป่าสักที่ไหลผ่านระบบคลองและเขื่อนพระราม 6 จะมีปริมาณลดลงเมื่อไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ผลกระทบและพื้นที่เฝ้าระวัง

ปริมาณน้ำที่รวมกันของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักที่บางไทร อยู่ที่ประมาณ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 68% ของความสามารถในการรองรับของลำน้ำ น้ำมวลนี้จะไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา (2,750 ถึง 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) คือชุมชนที่อยู่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและนอกคันกั้นน้ำ ตั้งแต่จังหวัด ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทองพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี

ที่มา : กรมชลประทานสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ 

related