ข้อมูลจาก World Bank Data แสดงผลการคาดการณ์จำนวนประชากรในทุกๆ 10 ปี พบว่าในปี 2050 ไทยจะมีจำนวนประชากรลดลงกว่า 6% สวนทางกับประเทศที่เหลือในอาเซียน โดยจะอยู่ในลำดับที่ 4 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลกระทบตามมาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
World Bank Data คาดการณ์จำนวนประชากรทั่วโลก ตั้งแต่ปี 1960 จนถึงในปี 2050 พบว่า ประเทศที่จะมีประชากรสูงสุด คือ อินเดียจะมีประชากรอยู่ที่ 1,639,176,000 ล้านคน รองลงมาได้แก่ จีน ไนจีเรีย สหรัฐอเมริกาและปากีสถาน ตามลำดับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทางออกของความกดดันและบีบคั้นจากการต้องอยู่ใน Sandwich Generation
เปิดข้อมูลจำนวนประชากรในประเทศไทย อัพเดตล่าสุด จากกรมการปกครอง
ส่วนการคาดการณ์จำนวนประชากรในภูมิภาคอาเซียน มีตัวเลขที่น่าสนใจและตั้งคำถามต่อโดยเฉพาะกับประเทศไทยเช่นกัน ลำดับจำนวนประชากรในภูมิภาคอาเซียน มีดังนี้
ประเทศอินโดนีเซีย มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 19%
ประเทศฟิลิปปินส์ มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 28%
ประเทศเวียดนาม มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 11%
ประเทศไทย มีประชากรลดลงอยู่ที่ -6%
ประเทศเมียนมาร์ มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 13%
ประเทศมาเลเซีย มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 22%
ประเทศกัมพูชา มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 27%
ประเทศลาว มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 27%
ประเทศสิงคโปร์ มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 7%
ประเทศติมอร์ เลสเต มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 47%
ประเทศบรูไน มีประชากรเพิ่มมากขึ้น 11%
จากข้อมูลพบว่าไทยจะเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ประชากรลดลงเมื่อเทียบจากปี 2022 อยู่ในลำดับที่ 4 ของชาติในอาเซียนทั้งนี้นอกจากไทยแล้วยังมีอีกหลายประเทศที่มีแนวโน้มจำนวนประชากรลดลง อาทิ แอลเบเนีย บาร์เบโดส (หมู่เกาะแคริบเบียน) บราซิล และจีน เป็นต้น
ซึ่งถ้าดูตามตัวเลขอัตราเกิดหรือจำนวนเด็กแรกเกิดของประเทศไทยที่ลดลงนั้น เริ่มต้นและลดลงเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 40 ปี นับตั้งแต่ช่วงที่มีประชากรเกิดมากกว่า 1 ล้านคนในแต่ละปีราวปี พ.ศ.2506-2526 ซึ่งเราเรียกการเกิดเกิน 1 ล้านคนต่อปีในช่วงนั้นว่า ยุค Baby Boom จากนั้นก็เริ่มลดลงจนกระทั่งในปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นปีแรกที่มีจำนวนเด็กแรกเกิดต่ำกว่าจำนวนคนที่ตายไป
โดยผลกระทบระยะสั้นและยาวที่ตามมาเนื่องจากจำนวนประชากรและอัตราการเกิดลดลงก็คือ
ผลกระทบระยะยาวที่รัฐต้องเตรียมเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ การขาดแคลนแรงงาน สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ปัญหาความมั่นคง ขาดทรัพยากรมนุษย์ในการพัฒนาประเทศ ปัญหาทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
ซึ่งสามารถบรรเทาผลกระทบนี้ได้ด้วยการ การเลื่อนอายุเกษียณเพื่อชะลอการขาดแคลนแรงงาน และการออกนโยบายส่งเสริมการเกิด เงินสนับสนุนและทุนการศึกษาเพื่อเปลี่ยน Mindset ต่อการมีบุตรของคนในปัจจุบัน
ที่มา