svasdssvasds

ผบ.ตร. เผย ผลชันสูตรคนก่อเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ไม่พบยาเสพติด-อาการจิตเวช

ผบ.ตร. เผย ผลชันสูตรคนก่อเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ไม่พบยาเสพติด-อาการจิตเวช

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ผลชันสูตร ผู้ก่อเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ไม่พบยาเสพติด หรืออาการจิตเวช แต่พบแรงจูงใจใหม่ ปมทะเลาะกับภรรยาและไม่มีเงิน อาจทำให้เกิดความเครียดได้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงนักเรียนและครูภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู รวมทั้งระหว่างทางได้ก่อเหตุขับรถชน และทำร้ายประชาชนในสถานที่ต่างๆ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อบ่ายวันที่ 6 ตุลาคม 2565 นั้น ยืนยัน ถึงประเด็นการตรวจไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า เบื้องต้นที่ได้รับรายงานจากนิติเวช โรงพยาบาลอุดรธานี ไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุจริง คาดว่าภายใน 72 ชั่วโมงก่อนตรวจร่างกาย ผู้ก่อเหตุอาจไม่ได้ใช้สารเสพติด แต่หลังจากนี้จะต้องการตรวจซ้ำอีกครั้งตามกระบวนการของแพทย์ เพื่อความชัดเจน

ส่วนจากการสืบสวนสอบสวนในเรื่องของแรงจูงใจและสาเหตุของการก่อเหตุ พบข้อมูลใหม่ว่า ผู้ก่อเหตุทะเลาะกับภรรยาเมื่อช่วงเวลาตี 4 ในวันเกิดเหตุ โดยภรรยาได้โทรหาแม่ให้มารับที่บ้าน เพราะไม่อยากอยู่ด้วย ผู้ก่อเหตุจึงอาจจะมีความเครียดสะสม แต่หลังจากนั้นไปขึ้นศาลฯในคดียาเสพติด จากข้อมูลของคนใกล้ตัว บอกว่ามีอาการปกติ ก่อนจะกลับบ้านมา และคาดว่าเมื่อกลับบ้านไม่เจอภรรยา จึงมีอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนออกไปก่อเหตุดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุอีกว่า ประเด็นหลักตอนนี้ยังพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งภายในครอบครัว และอาจไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ เพราะตกงานกว่า 1 ปี ทำให้เกิดความเครียด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ใช้ข้อเท็จจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าในส่วนประเด็นเรื่องการถูกไล่ออกจากราชการ ไม่มีการกลั่นแกล้ง เพราะทุกอย่างตรงไปตรงมา และผู้บังคับบัญชาได้ให้ออกราชการ หลังมีการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ เพราะพบยาเสพติด 1 เม็ด ตอนแรกยังให้ออกจากราชการไว้ก่อน และเพิ่งมีคำสั่งให้ออกจากราชการเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หลังจากสอบวินัยเสร็จสิ้นและพบว่าเป็นเรื่องจริง

ส่วนข้อมูลของผู้ก่อเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู รายนี้ พบว่าสอบเข้ารับราชการตำรวจเมื่อปี 2555 ตอนนั้นมีการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายตามระเบียบแล้ว ยืนยันไม่พบสารเสพติด แต่จากข้อมูลรายงานของตำรวจนครบาล ก็ยังไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อย้ายมาอยู่ที่ สภ.นาวัง แล้ว พบว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เพราะมีความก้าวร้าว ผู้กำกับการ สภ.นาวังคนก่อน จึงได้เรียกมาคุยและยึดอาวุธปืนเอาไว้ ก่อนไปค้นเจอยาเสพติดภายในบ้าน จนต้องออกจากราชการ  ส่วนอาการของจิตเวช ยังไม่พบในประเด็นนี้

ขณะที่ประเด็นของอาวุธปืนของผู้ก่อเหตุ ยืนยันว่า เป็นปืนส่วนตัวที่ซื้อถูกต้อง พร้อมมีใบอนุญาตในการใช้ และซื้อในสวัสดิการของตำรวจ เพราะถูกกว่าราคาทั่วไป เมื่อถูกไล่ออกก็ถือเป็นของส่วนตัว

อย่างไรก็ตามปัญหายาเสพติด ทีี่พบว่ามีการระบาดในพื้นที่ถือเป็นนโยบายของตำรวจที่ต้องกวาดล้างและต้องปราบปรามอย่างเร่งด่วน เพราะมีคนคลุ้มคลั่งเพราะฤทธิ์ยาเสพติดจพนวนมาก จึงต้องเร่งแก้ไขทุกมิติ ส่งตำรวจลงพื้นที่ปราบปราบโดยเฉพาะพื้นที่สีแดง

related