svasdssvasds

สรุปให้! มูลนิธิคุ้มครองเด็ก สมุทรสงคราม ทำร้าย-ใช้แรงงานเด็ก

สรุปให้! มูลนิธิคุ้มครองเด็ก สมุทรสงคราม ทำร้าย-ใช้แรงงานเด็ก

สรุปให้! มูลนิธิคุ้มครองเด็ก สมุทรสงคราม ทำร้าย-ใช้แรงงานเด็ก ล่าสุด ครูยุ่น เจ้าของมูลนิธิ ปฏิเสธ 2 ข้อหา ยันตีเด็กเพื่อสั่งสอน ขณะที่เด็กๆ ทั้งหมด จะได้ไปอยู่ที่ใหม่ภายใต้ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จากกรณีมีคลิปเหตุการณ์มูลนิธิคุ้มครองเด็ก แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสงคราม ที่เด็กผู้ชายจำนวนหนึ่ง ถูกครูเจ้าของมูลนิธิฯทำโทษ เนื่องจากเด็กลงไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำของรีสอร์ท และครูเจ้าของมูลนิธิฯ ยังได้อบรมเด็กในมูลนิธิฯ ด้วยคำพูดไม่สุภาพ นอกจากนี้ ยังมีการทำโทษเด็กด้วยความรุนแรง กระทั่งได้มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่เข้าทำกิจกรรมอาสากับเด็กในมูลนิธิ และได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวที่พบเจอ โดยทางเพจ เส้นด้าย - Zendai เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน ได้ระบุว่า...จุดเริ่มต้น น้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งได้เข้าไปทำกิจกรรมและพบเห็นความผิดปกติบางอย่าง อาทิเช่น น้องคนหนึ่งไปถึงก่อนเวลาและได้ยินครูพี่เลี้ยงดุด่าเด็กด้วยถ้อยคำหยาบคาย ในระหว่างทำกิจกรรมเด็กๆดูไม่มีความสุขกับกิจกรรม รวมไปถึงของรางวัลพวกของเล่นตุ๊กตาต่างๆเลย ซึ่งผิดปกติจากเด็กๆในวัยนี้ รวมถึงน้องๆจะบอกกับกลุ่มน้องนศ.ว่า “อยากได้อาหารหรือของกินมากกว่า”

เด็กๆได้เปิดใจกับกลุ่มนักศึกษาว่า พวกเขาถูกใช้แรงงานในรีสอร์ทของเจ้าของมูลนิธิแลกกับเงินค่าขนม ถูกทุบตีทำร้ายร่างกายด่าทอทำร้ายจิตใจ ไม่เว้นเด็กเล็กและเด็กโต

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิเส้นด้ายผู้รับเรื่องร้องเรียน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในของมูลนิธิคุ้มครองเด็กดังกล่าว พบว่านอกจากพฤติกรรมของเจ้าของมูลนิธิฯ ที่กระทำต่อเด็กแล้ว สถานที่ภายในก็ไม่ได้มาตรฐานที่มีสุขอนามัยที่ดีต่อเด็ก

เด็กๆหลายๆคนทนไม่ไหว คนที่ยังมีพ่อแม่หรือญาติอยู่ก็พยายามหาทางติดต่อให้มารับกลับไปอยู่ด้วย แต่พอมีคนมาขอรับกลับทางมูลนิธิก็ไม่ยอมและใช้คำพูด’ทวงบุญคุณ’ ประมาณว่าตอนไม่เอาก็ทิ้ง พอโตก็จะมาเอาคืน เลี้ยงมาก็สำนึกบุญคุณบ้างใช้งานแค่นี้ ส่วนเด็กที่ไม่มีใครก็ต้องจำใจอยู่ต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก เช่น น้องผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ที่มูลนิธินี้มาตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ก็ 17 ปี มีเด็กๆ 3 คนที่ทนไม่ไหวตัดสินใจหนีออกไปโดยบอกกับเพื่อนๆว่าจะหนีไปเป็นคนงานในไซต์งานก่อสร้าง ไม่รู้ว่าชะตากรรมปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง 

มูลนิธิเส้นด้ายรวบรวมและสืบค้นข้อมูล พบว่าเจ้าของมูลนิธิและเจ้าของกิจการรีสอร์ทนี้เป็น อดีตนักการเมือง และเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการเขียนกฏหมายเกี่ยวกับเด็กด้วย 

ทั้งนี้ มูลนิธิเส้นด้ายได้ร่วมงานแถลงข่าวของคดีนี้ โดยความร่วมมือของผู้ว่าฯและรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ปลัดกระทรวงพัฒนานาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการช่วยเหลือและดำเนินการก็คือ

เด็กๆทั้งหมดในมูลนิธิคุ้มครองเด็กจะได้ไปอยู่ที่ใหม่ภายใต้ความดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงของปัญหาเรื่องนี้ต่อไปรวมไปถึงจะพิจารณาการต่ออายุใบอนุญาตของมูลนิธินี้ 

ขณะที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้จัดการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เข้าติดตามความคืบหน้าคดีการทำร้ายร่างกายเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม โดยระบุว่า การดำเนินคดีกับนายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขามูลนิธิคุ้มครองเด็ก ขณะนี้ตำรวจ ดำเนินคดี 2 ข้อกล่าวหา คือ ความผิดทำร้ายร่างกาย และ ความผิดต่อ พรบ. แรงงาน  ซึ่งทางครูยุ่นให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจยังยืนยันในกระบวนการดำเนินคดีตามกระบวนการกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนจะยึดตามพยานหลักฐาน และตัวเด็ก และ คำให้การจากเด็กที่ถูกกระทำ 

ส่วนครูยุ่น ที่ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา  เเละ ชี้แจงว่าการตีเด็กเป็นการสั่งสอนก็เป็นสิทธิ์ ที่จะกล่าวอ้างได้แต่ในกระบวนการตรวจสอบ จะสอบสวนเด็กที่ถูกกระทำ เพื่อสืบพฤติการณ์ของครูยุ่นในลักษณะการกระทำว่าเป็นการกระทำซ้ำ ๆ หรือไม่ เพราะไม่สามารถทำร้ายหรือตีเด็กได้ แม้แต่พ่อแม่แท้แท้ก็ต้องดูเหตุและผลต้องมีเหตุและผล เพียงพอที่จะลงโทษลงโทษเด็ก 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเด็กบางคนมีร่องรอยบาดแผล ที่สันนิษฐานได้ว่าถูกทำร้าย เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนประเด็นเรื่องยาเสพติดที่มีคำกล่าวอ้างจากครูยุ่นว่ามีเด็กบางคนยุ่งเกี่ยวเสพยาเสพติด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจสารเสพติดในร่างกาย   ส่วนเด็กที่ยังอยู่ในความดูแลของมูลนิธิจนถึงขณะนี้จะต้องนำตัวมาสอบ ยืนยันว่าครูยุ่นจะต้องให้ความร่วมมือให้ได้สอบปากคำเด็กทุกคน   ส่วนการพบว่าเด็กช่วยเหลือย้ายสถานสงเคราะห์ให้กับเด็กต้องคำนึงถึงความสมัครใจของเด็กหากใครที่สมัครใจอยู่ต่อก็เป็นสิทธิ์ของเด็กที่สามารถทำได้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนืนยันว่า ประเด็นการใช้แรงงานเด็ก ก็ไม่สามารถใช้แรงงานเด็กได้ แม้เด็กจะเต็มใจไม่ว่าเด็กจะเต็มใจหรือไม่แต่ตามพรบ.แรงงานและคุ้มครองเด็กไม่สามารถใช้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำงานหรือใช้แรงงานได้   ส่วนข้อกล่าวอ้างว่าเด็กเด็กติดตามไปช่วยงานในลักษณะช่วยทำงานในครอบครัว ก็เป็นข้อกล่าวอ้างของครู ก็เป็นข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกกล่าวหา แต่ทั้งหมดจากเด็กจะให้น้ำหนักที่การสอบคำให้การจากเด็กเป็นสำคัญ

 

related