svasdssvasds

"โรคไมโคพลาสมา" คืออะไร อันตรายต่อเด็กแค่ไหน ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน

"โรคไมโคพลาสมา" คืออะไร อันตรายต่อเด็กแค่ไหน ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน

โรคไมโคพลาสมา เป็นเชื้อแบคทีเรียขนาดที่เล็กที่สุด ที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่าย เป็นสาเหตุของการเกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ กลุ่มผู้ป่วยที่พบบ่อย คือเด็ก และวัยรุ่น มีอาการไอเรื้อรัง

 โรคไมโคพลาสมา หรือโรคติดเชื้อไมโคพลาสมา (Mycoplasma Infection) เป็นเชื้อแบคทีเรียขนาดที่เล็กที่สุด เป็นแบคทีเรียที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย เนื่องจากเป็นแบคทีเรียขนาดเล็ก โดยปกติแบคทีเรียกลุ่มนี้จะมีอยู่ในร่างกายหลายชนิด มีเพียงบางชนิดเท่านั้นที่ก่อให้เกิดโรค

 ไมโครพลาสมา (Mycoplasma) เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยสามารถทำให้เกิดเป็นไข้หวัด คออักเสบ หรือหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบก็ได้ การติดเชื้อไมโครพลาสมาสามารถพบได้ทุกช่วงวัย แต่กลุ่มผู้ป่วยที่พบบ่อย คือ เด็ก และวัยรุ่น กลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค คือ กลุ่มที่พาตนเองไปอยู่ในที่ชุมชน มีผู้คนจำนวนมากทั้งโรงเรียน โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

โดยการติดเชื้อในกลุ่มไมโคพลาสมา ซึ่งแบ่งการติดเชื้อออกเป็น 2 กลุ่ม คือ  

• การติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ

• การติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โรคระบาดช่วงหน้าร้อน พบได้บ่อย ต้องระวัง

• 10 อันดับโรคระบาด ที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุด

• ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก โรคระบาดช่วงหน้าฝนในเด็กเล็ก

 ในปัจจุบันโรคไมโครพลาสมายังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่สิ่งที่ง่าย และดีที่สุดในการป้องกันคือ พยายามอย่าให้บุตรหลานของท่านเข้าไปอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก

 หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัย และควรล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนปรุง หรือรับประทานอาหาร รวมทั้งใช้ช้อนกลางเมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ลักษณะอาการของผู้ที่ได้รับเชื้อไมโครพลาสมาจะคล้ายกับอาการของไข้หวัดใหญ่ โดยจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

 แต่ลักษณะเด่นของโรคนี้คือ จะมีอาการไอรุนแรง และมีการติดต่อได้ง่ายจากการหายใจสูดเอาละอองของเชื้อที่ปนมากับเสมหะ หรือน้ำมูก เมื่อได้รับเชื้อตัวนี้เข้าไปแล้ว จะใช้เวลาฟักเชื้อ 1 - 4 สัปดาห์ และจะค่อยๆ แสดงอาการข้างต้นออกมา 

หากลูกน้อย หรือบุคคลในครอบครัวมีอาการเหล่านี้ ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็ว

• มีไข้เกิน 38 องศา อาจมีอาการหนาวสั่น

• ไอแห้งๆ อาจมีเสมหะขาว อาการค่อยๆ เป็นมากขึ้น อาจไอเรื้อรังจนทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก

• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย

• เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก

• บางรายมีผื่นแดงตามผิวหนัง

• เจ็บคอ คันคอ อาการเจ็บคอจะไม่มาก คอแดงเล็กน้อยไม่มีหนอง

• ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะทำให้หายใจเหนื่อย หายใจเร็ว 

 ทั้งนี้หากมีอาการนานและหนักกว่าที่ได้กล่าวไป อาจมีภาวะแทรกซ้อน ทำให้เกิดการติดเชื้อนอกระบบทางเดินหายใจ เช่น ติดเชื้อไมโคพลาสมาที่สมองและไขสันหลัง หรืออาจเป็นโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบได้

 



           

     

          

สาเหตุการติดเชื้อไมโคพลาสมา

โดยปกติ เชื้อไมโคพลาสมาอาศัยอยู่ในร่างกายของคนเราอยู่แล้วถึง 17 ชนิด แต่มีเชื้อไมโคพลาสมาบางชนิดที่ทำให้เกิดโรคและการเจ็บป่วย ซึ่งได้แก่ เชื้อแบคทีเรียชนิด Mycoplasma pneumonia ซึ่งทำให้เกิดโรคของระบบทางเดินหายใจ ซึ่งรวมทั้งปอดบวม และ อีก 4 ชนิด คือ เชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมาชนิด Mycoplasma genitalium, Mycoplasma hominis, Ureaplas ma urealyticum และ Ureaplasma parvum ทำให้เกิดโรคของ ระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบสืบพันธุ์ สำหรับเชื้อ Mycoplasma hominis นั้นเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธ์ ซึ่งอาการคล้ายกับโรคหนองในเทียม สามารถติดต่อไดผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์

อาการและอาการแสดง

อาการที่พบส่วนใหญ่ของการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มอาการทางเดินปัสสาวะและระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ได้แก่

• อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะขุ่น

• ในเพศหญิงอาจจะมีอาการตกขาวร่วมด้วย

• มีอาการอ่อนเพลีย ไม่สุขสบายตัว ปวดท้องน้อยได้

โดยอาการส่วนใหญ่ที่พบจะไม่ค่อยรุนแรง และสามารถหายได้เอง แต่ถ้ามีอาการมากกว่าปกติ ให้รับมาพบแพทย์เพื่อพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะเพราะอาจเกิดอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินปัสสาวะได้

การรักษาโรคติดเชื้อไมโคพลาสมา

การรักษาโรคติดเชื้อไมโคพลาสมา โฮมินิส (Mycoplasma hominis) นั้น สามารถรักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ร่วมกับการดื่มน้ำสะอาดมากๆ ในช่วงที่เกิดการติดเชื้อ เพื่อขับเชื้อออกจากระบบทางเดินปัสสาวะให้มากที่สุด

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ควรงดหรือ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในห้วงระยะเวลาที่ยังมีอาการ เพราะอาจะทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อที่มากขึ้นและแพร่กระจายเชื้อได้

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ห้องน้ำ การใช้สระว่ายน้ำในที่สาธารณะ ถ้าไม่มั่นใจในความสะอาด และรักษาความสะอาดของอวัยวะสืบพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ทำความสะอาดหลังการขับถ่ายทุกครั้งและซับให้แห้ง สวมใส่ชุดชั้นในที่เป็นผ้าฝ้ายเพื่อการระบายอากาศ จนกว่าจะหายและอารกลับมาเป็นปกติ

การป้องกัน

การป้องกันโรคติดเชื้อไมโคพลาสมา โฮมินิส (Mycoplasma hominis) นั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรักษาความสะอาดของร่างกายและอวัยวะสืบพันธ์ เพื่อป้องกันความอับชื้นที่เป็นสาเหตุของเชื้อราและแบคทีเรีย

รักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ  5 หมู่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง ที่จะทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะได้ง่าย ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราเพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนแอและภูมิต้านทานของร่างกายลดลง และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงต่อไป

ที่มา : bangkoksafeclinic , โรงพยาบาลเปาโล

related