svasdssvasds

"ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก" ยุทธศาสตร์ Net Zero ที่ ปตท. เร่งปั้นให้สำเร็จก่อน 2050

"ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก" ยุทธศาสตร์ Net Zero ที่ ปตท. เร่งปั้นให้สำเร็จก่อน 2050

จากผลกระทบของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนไทยในทุก ๆ ด้าน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปตท. องค์กรด้านพลังงานของไทย จึงออกยุทธศาสตร์ "ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก" โดยมุ่งเป้าหมายการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์

Swiss Re Institute ได้รายงานผลการศึกษาที่บ่งชี้ว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก

ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจน เพื่อลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้น 2 องศา GDP ของประเทศจะลดลง 4.9% หากสถานการณ์รุนแรงกว่านั้น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3.2 องศา GDP ของประเทศจะลดลง ถึง 43.6%

\"ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก\" ยุทธศาสตร์ Net Zero ที่ ปตท. เร่งปั้นให้สำเร็จก่อน 2050

จากผลกระทบของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปย่อมส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนไทยในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเกษตร และการท่องเที่ยว เรียกได้ว่าเป็นภัยคุกคามที่ทุกคนต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปตท. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์มุ่งขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ พร้อมกลยุทธ์ที่เป็นรูปธรรม ด้วยหลักของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ แนวโน้มสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศไทย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำท่วม ภัยแล้ง ความแปรปรวน รวมถึงภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ล้วนเป็นผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ตลอดจนการรายงานข้อมูล และการจัดอันดับต่างๆ ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่มีต่อสังคมอย่างใกล้ตัว

\"ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก\" ยุทธศาสตร์ Net Zero ที่ ปตท. เร่งปั้นให้สำเร็จก่อน 2050

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม Global Risk Index จัดอันดับให้ประเทศไทย มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากโลกร้อนเป็นอันดับ 9 ของโลก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อภัยแล้ง สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ขณะที่มีขีดความสามารถในการรับมืออยู่ในอันดับที่ 39 จาก 48 ประเทศ

ทาง ปตท. ตระหนักเป็นอย่างดี ถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งเล็งเห็นโอกาสและความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงนำมาเป็นปัจจัยสำคัญในการทบทวนเป้าหมายและทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องตามวิสัยทัศน์ใหม่และสนับสนุนทิศทางการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำของประเทศ

พร้อมยกระดับการพัฒนาธุรกิจสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยกำหนดเป้าหมายการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทย ที่ประกาศต่อที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 ที่ตั้งเป้าไว้ในปี ค.ศ. 2065

\"ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก\" ยุทธศาสตร์ Net Zero ที่ ปตท. เร่งปั้นให้สำเร็จก่อน 2050

ทั้งนี้ ปตท. ได้กำหนดแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านการดำเนินงานหลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย

  • Pursuit of Lower Emission เร่งปรับกระบวนการผลิต : ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการ เช่น การดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ประโยชน์ การใช้พลังงานหมุนเวียนและส่งเสริมการใช้พลังงานไฮโดรเจน
          
  • Portfolio Transformation เร่งเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและธุรกิจนอกเหนือจากพลังงาน (Future Energy & Beyond) ใน 10 ปีที่สัดส่วน 32%
  
  • Partnership with Nature and Society เร่งปลูกป่าเพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศด้วยวิธีธรรมชาติ : ผ่านการปลูกและดูแลรักษาป่าไม้และพื้นที่สีเขียวพร้อมวางแผนในการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนที่ดูแลป่า

\"ปรับ-เปลี่ยน-ปลูก\" ยุทธศาสตร์ Net Zero ที่ ปตท. เร่งปั้นให้สำเร็จก่อน 2050
 
นอกจากนี้ ปตท. ยังยึดมั่นในเจตนารมณ์การดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล และความเป็นเลิศ ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม เพื่อเติบโตร่วมกับคนไทยอย่างยั่งยืน

related