พปชร. ระดมทุนคึกคัก บิ๊กป้อม แจงคำว่า ไม่รู้ แท้จริง รู้ พร้อมเป็นนายก คนที่ 30
พรรคพลังประชารัฐ จัดกิจกรรมระดมทุน ภายใต้ชื่อ “พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง” ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยกิจกรรมเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 18.30 น. มีกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนพรรค ร่วมงานอย่างคับคั่ง
ถือเป็นการจัดระดมทุนครั้งที่ 2 หลังจากเคยจัดครั้งแรกเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 โดยรอบนี้มีการเข้มงวดเรื่องผู้มาร่วมซื้อโต๊ะมากขึ้น เนื่องจากเคยมีเรื่องการตรวจสอบผู้บริจาคเงินเข้าพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว
หรับครั้งนี้ มีการซื้อโต๊ะรวมทั้งสิ้น 170 โต๊ะ โต๊ะละ 3 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินในการระดมทุนเข้าพรรคพลังประชารัฐ ประมาณ 510 ล้านบาท
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเปิดใจในงานระดมทุนพรรค ว่า จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ จากนั้นมีพิธีกรตั้งคำถาม และ พลเอก ประวิตร ตอบ โดยพูดถึงคำว่า ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ ว่า เป็นเพราะสังขารร่วงโรยมาก แก่แล้ว เลยต่อสู้ด้วยการเอาใจบันดาล ทำให้มีกำลังใจ ให้แรงทำงานต่อไปได้ ซึ่งเมื่อพูดแล้วรู้สึกใจฟู และยิ้มกว้างให้ทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ถัดมาเป็นคำตอบที่เรียกเสียงฮือฮาและหัวเราะทั้งงาน กับการที่ชอบตอบว่า “ไม่รู้” ซึ่ง พลเอก ประวิตร บอกว่า การที่ตอบว่าไม่รู้ จริงๆอาจจะรู้ก็ได้ แต่ต้องถามคนที่รู้มากกว่ามาสั่งสอนและแนะนำตัวเอง เพื่อให้รู้เท่ากับเขา พร้อมย้ำตอนนี้รู้แล้ว พร้อมแล้ว
พลเอก ประวิตร ยังเล่าถึงความสัมพันธ์ 3 ป. ตั้งแต่รับราชการทหาร ร่วมใจทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอด นอนบ้านเดียวกัน สนิทสนม เป็นกันเองอย่างพี่น้อง แม้จะแยกกันก็เฉพาะการเมือง ที่สำคัญได้ใช้ความเป็น พี่ใหญ่ มาจนทุกวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องความจริงใจ ทำอะไรไม่โกหก พูดตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด และฝากบอกทุกคนว่า พูดอะไรคือพูดจากใจ
ส่วนปัญหาที่อยากแก้ไขมากที่สุดคือเรื่องความยากจน ชาวนาชาวไร่ เกษตรกร พวกหาเช้ากินค่ำ ก็ต้องดูแลคนเหล่านี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีที่อยู่อาศัย และจะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป
สำหรับฮีโร่ในดวงใจคือคุณแม่ เพราะเลี้ยงลูกชาย 5 คนมาได้ดิบได้ดีหมดทุกคน มีอาชีพ มีความเป็นอยู่ที่ดีทุกคน และปิดท้ายด้วยการกล่าวคำว่า รู้แล้ว พร้อมแล้ว พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่จะได้หรือไม่ก็อยู่ที่ประชาชน ถ้าเลือกก็พร้อม ถ้าไม่เลือกก็กลับบ้าน
และปิดท้ายกิจกรรมด้วยการเสวนา "Thailand in a spinning world -
ประเทศไทยในวันที่โลกหมุนเร็ว" จากนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ และนายสมชาย ภคภาควิวัฒน์
