"ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" เปิดเส้นทางชีวิต ก่อนถูกพิพากษาทางการเมือง ปมซุกหุ้น

 จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหยุดปฎิบัติหน้าที่ ทันทีมีผลตั้งแต่ 3 มี.ค. จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ปมเหตุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง)ว่า นายศักดิ์สยาม ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ การบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการ ของห้างหุ้นส่วน เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 

ประวัติส่วนตัวนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ชื่อเล่นโอ๋ น้องชายร่วมสายเลือดกับ นายเนวิน ชิดชอบ และ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายศักดิ์สยามเป็นคนพื้นเพจังหวัดสุรินทร์ บิดา และมารดา คือ นายชัย ชิดชอบ และนางละออง ชิดชอบ

 ปลัดอำเภอ คือตำแหน่งสุดท้ายของนายศักดิ์สยามในงานข้าราชการ สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่งานการเมือง ซึ่งระหว่างนั้น นายศักดิ์สยาม  ได้ร่วมกับ พ.ต.ต.เพิ่มพูน ชิดชอบ (ยศขณะนั้น) ร่วมก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในปีพ.ศ. 2539 และได้ลาออกจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ในปี พ.ศ. 2540

 นายศักดิ์สยาม ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สังกัดพรรคพรรคชาติไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ ในปี พ.ศ. 2548 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สังกัดพรรคไทยรักไทย พร้อมได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอกโกวิท วัฒนะ จนกระทั่ง2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในพ.ศ. 2550 เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบพรรค ในปี พ.ศ. 2549

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ศาล รธน. สั่ง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญ

• อภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกอ่วม! ศักดิ์สยาม แจงปมใช้นอมินี ซุกหุ้น 120 ล้าน

• ปกรณ์วุฒิ อ้าง "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ซุกหุ้น ให้นอมินีรับงานคมนาคม

 หลังจากนั้นในสมัยรัฐบาลของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายศักดิ์สยามได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง ในยุคนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เมื่อวันที่17 ก.ย. 2552 ก่อนจะสมัครเข้าพรรคพรรคภูมิใจไทย และได้รับเลือกตั้งเป็น เลขาธิการพรรค เมื่อ 14 ต.ค. 2555 ได้ลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 15 ในปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งถูกสั่งให้เป็นโมฆะ

30 มี.ค. 2558 นายศักดิ์สยาม กลับมาเป็นผู้จัดการ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ได้รับค่าตอบแทน ปีละ 400,000 บาท (มีแจ้งรายได้กับ ป.ป.ช.) และได้แจ้งเปลี่ยนที่ตั้งเป็นเลขที่ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายศักดิ์สยามตามบัตรประจำตัวประชาชน จากเดิม ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 229 ม.11 ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ และได้ใช้เงินสดเพิ่มทุนหจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น 3 ครั้ง เข้าบัญชีธนาคาร ธนชาติ เลข 4016051302 สาขาบุรีรัมย์ ชื่อ หจก.บุรีเจริญ รวม 119 ล้านบาท ในปีเดียวกัน

 นายศักดิ์สยาม กลับมาถือหุ้นใหญ่ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อีกครั้ง ร่วมกับนายเอกราช ชิดชอบ ในปีพ.ศ. 2560 และได้ลาออกจากผู้จัดการ พร้อมโอนหุ้นให้นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ จำนวน 119.4 ล้านบาทโดยไม่พบการเสียภาษี ทั้งผู้รับและผู้โอน และยังใช้ที่อยู่ของนายศักดิ์สยาม เป็นที่ตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2561 และศุภวัฒน์ ได้เพิ่มทุนบริษัท อีก 40 ล้านบาท เมื่อ 30 เม.ย. 2562

 ต่อมา วันที่ 25 พ.ค. 2562  นายศักดิ์สยาม ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ในขณะเดียวกัน การดำเนินการเรื่องเปลี่ยนแปลงที่ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ได้เกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. 2562

โดยมีการประชุมหุ้นส่วนที่บ้านเลขที่ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเปลี่ยนที่ตั้ง หจก. เมื่อวันที่5 มิ.ย. และ แจ้งเปลี่ยนที่ตั้งจากเลขที่ 30/2 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ มาเป็นเลขที่ 30/17 ม.15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2562 ก่อนที่ นายศักดิ์สยาม จะได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562

วันที่ 7 ก.พ. 2566 ฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ปมซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นกว่า 100 ล้าน

 ล่าสุด 3 มี.ค. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ นายศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยสามารถยื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

 ทั้งนี้ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ได้งานของกระทรวงคมนาคม รวม 44 โครงการ เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 563,850,276 บาท ปี 2564 ได้รับงานของกระทรวงคมนาคม รวม 38 โครงการ เป็นเงินงบประมาณ 657,021,414 บาท รวม 2 ปี เกือบ 1,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการสืบค้นข้อมูลของ ฐานเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 พบว่า หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น มีความเกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกับการเข้ารับงานของกระทรวงคมนาคมหลายโครงการ โดยมีข้อมูล ดังนี้ 

ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น

• 30/17 หมู่ที่ 15 ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์

• จดทะเบียนวันที่ 8 มี.ค. 2539 (26 ปี 4 เดือน) 

• ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง

• ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 159 ล้านบาท

• รายชื่อผู้ลงทุนในห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น

• นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ลงหุ้นด้วย เงินจำนวน 159,496,000 บาท

• นางสาวปริชาติ ขันเสน ลงหุ้นด้วย เงินจำนวน 1,000 บาท

• นายเอกราช ชิดชอบ ลงหุ้นด้วย เงินจำนวน 1,000 บาท

• นางสาววรางสิริ ระกิติ ลงหุ้นด้วย เงินจำนวน 1,000 บาท

• นางสาวนภาพร สีแสง ลงหุ้นด้วย เงินจำนวน 1,000 บาท

• นางสาวอนันญลักษณ์ เจริญเดช ลงหุ้นด้วย เงินจำนวน 1,000.00  บาท

การเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน

• 8 มี.ค. 2539 จัดตั้งบริษัท บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท

• 18 มิ.ย. 2545 เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท

• 1 เม.ย. 2546 เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน 66 ล้านบาท ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 40 ล้านบาท

• 27 มี.ค. 2558 เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน  25,501,000 บาท

• 2 เม.ย. 2558 เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน 65,501,000 บาท

• 9 ต.ค. 2558 เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน 119,501,000 บาท

• 8 พ.ค. 2562 เปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน 159,501,000 บาท
 

ปัจจุบันมีกรรมการ 4 คน

• นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ 

• นางสาวปริชาติ ขันเสน 

• นายเอกราช ชิดชอบ 

• นางสาววรางสิริ ระกิติ

สำหรับกรรมการมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้ 

• ปี 2563 กรรมการเข้ามาใหม่

• นางสาวนภาพร สีแสง

• นางสาวอนันญลักษณ์ เจริญเดช 

• นางสาววรางสิริ ระกิติ 

• นางสาวปริชาติ ขันเสน 

• นายเอกราช ชิดชอบ 

• นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์

ปี 2564 ผู้ที่ออกจากการเป็นกรรมการ

• นางสาวอนันญลักษณ์ เจริญเดช

• นางสาวนภาพร สีแสง เข้าใหม่ 
 
โดยข้อมูลได้รับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ตั้งแต่ปี 2558 - 2565 จำนวน 296 รายการ รวมมูลค่างานที่ได้รับจากภาครัฐ 3,262.93 ล้านบาท ซึ่งในปี 2564 –2565 หรือเพียง 2 ปี เฉพาะโครงการที่บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ได้รับงานของกระทรวงคมนาคม มีด้วยกัน 47 โครงการ วงเงิน 1,088 ล้านบาท โดยมีข้อมูลดังนี้

 ปี 2564 

 หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ได้รับงานจากหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม 23 โครงการ วงเงิน 595.65 ล้านบาท แบ่งเป็น ของกรมทางหลวง 8 โครงการ วงเงิน 274.43 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 15 โครงการ วงเงิน 321.22 ล้านบาท 

ปี 2565 

หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ได้รับงานจากหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม 24 โครงการ วงเงิน 493.56 ล้านบาท แบ่งเป็น ของกรมทางหลวง 9 โครงการ วงเงิน 221.97 ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท 15 โครงการ วงเงิน 271.59 ล้านบาท 

 ส่วนข้อมูลงบการเงินนำส่งในปี 2564 พบว่า มีสินทรัพย์รวม 302 ล้านบาท รายได้รวม 629 ล้านบาท รายจ่ายรวม 603 ล้านบาท กำไร 20 ล้านบาท