svasdssvasds

ประชาธิปัตย์ ประกาศทำสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 นำร่อง 16 พื้นที่ กรุงเทพชั้นใน

ประชาธิปัตย์ ประกาศทำสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 นำร่อง 16 พื้นที่ กรุงเทพชั้นใน

ประชาธิปัตย์ โชว์วัดค่า PM2.5 กลางแยกปทุมวัน ประกาศทำสงครามกับฝุ่นพิษ เริ่ม 16 พื้นที่นำร่องกรุงเทพชั้นใน โชว์จอแสดงปริมาณฝุ่น-งดรถควันดำวิ่ง หนุน กฎหมายอากาศสะอาดบังคับใช้จริงจัง

พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ,  มาดามเดียร์ วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. อาทิ นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เขตพระนคร – ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ – ดุสิต , พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ เขตหลักสี่ – จตุจักร , น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขตปทุมวัน - สาทร - บางรัก , นายอภิมุข ฉันทวานิช เขตบางคอแหลม - ยานนาวา , นายกิตพล เชิดชูกิจกุล เขตสะพานสูง ประเวศ , นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ เขตบางกอกน้อย  ตลิ่งชัน , น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร (แนน) เขตพญาไท – ราชเทวี

ประชาธิปัตย์ ประกาศทำสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 นำร่อง 16 พื้นที่ กรุงเทพชั้นใน

นายองอาจ กล่าวว่า  PM 2.5 เป็นปัญหาที่อยู่คู่กับ กทม.มาอย่างยาวนาน หลายปีที่ผ่านมามีการพูดคุนกันหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะการดำเนินการแก้ไขของผู้นำประเทศมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง ตั้งแต่เริ่ม PM 2.5 ใหม่ๆ ผู้บริหารบอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามเทศกาลและจะหายไปเอง นั่นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง  อีกทั้งคิดว่าประเทศเรามีมาตรการระดับนึง แต่ไม่ได้เอาจริงเอาจัง การจะแก้ปัญหาจึงต้องมีวิธีการที่ถูกต้อง และจริงจัง  โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้มองเห็นถึงปัญหาและรับฟังภาคประชาสังคมต่างๆจนนำมากลั่นกรองเป็นวิธีการแก้ปัญหาและนโยบาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ด้านนาย สุชชัชชีวร์ กล่าวว่าวันนี้ถึงเป็นการร่วมประกาศเจตนารมณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ในการ ประกาศสงครามกับคุณพิษ PM 2.5  พร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่าฝนไม่สามารถแก้ PM 2.5 ได้ ซึ่งได้มีการนำเรื่องมาวัดล่าสุดยังเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แม้เมื่อคืนจะมีฝนตกดังนั้นจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าคนที่รับผิดชอบต้องให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน และวันนี้ประชาธิปัตย์ประกาศชัดเจนว่าจะเป็นตัวแทนกับประชาชนในการทำสงครามกับ PM 2.5

ประชาธิปัตย์ ประกาศทำสงครามกับฝุ่นพิษ PM 2.5 นำร่อง 16 พื้นที่ กรุงเทพชั้นใน

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า สิทธิการสูดอากาศบริสุทธิ์ถือเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชนและเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ ซึ่งที่ผ่านมาขนาดพื้นที่กรุงเทพชั้นใน ที่มีประชากรหนาแน่น แต่ไม่มีจอแสดงข้อมูลเรื่องฝุ่นพิษให้ประชาชนได้รับทราบจากนั้นประชาธิปัตย์จะสนับสนุนให้ประชาชนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานโดยทำจอแสดงฝุ่นพิษในพื้นที่ต่างๆ   รวมถึง เร่งผลักดันกฎหมายอากาศ สะอาด  ซึ่งต้องเป็นกฎหมายที่ประชาชน ภาควิชาการ และทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายและเป็นสากล คนที่รับผิดชอบ และ โรงงานอุตสาหกรรม ที่มี เป้าหมายในการลดฝุ่นพิษจะมีโบนัสให้  ส่วนคนไร้ความรับผิดชอบ จะกำหนดค่าปรับตามระดับใุ่นพิษที่เกิดขึ้น เพื่อ นำมาดูแลสุขภาพของผู้ที่ได้รับผลกระทบ 

กฎหมายสะอาดยังจะสนับสนุนการวิจัย และเทคโนโลยี ด้่นการสัดฝุ่น ป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่น รวมทั้งสร้างคนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ  สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด

 

โดย พรรคประชาธิปัตย์จะให้พื้นที่ 16 เขตชั้นในเป็นพื้นที่นำร่อง  ได้แก่เขตพระนคร , สาทร , บางคอแหลม , ธนบุรี ยานนาวา , สัมพันธวงศ์ , ดุสิต , ปทุมวัน , ราชเทวี , พญาไท , บางพลัด , บางกอกน้อย , บางกอกใหญ่  , คลองสาน , บางรัก , ป้อมปราบศัตรูพ่าย เพราะในพื้นที่เหล่านี้มีสถานพยาบาลโรงเรียนจำนวนมาก โดย
กฎหมายฉบับนี้จะสนับสนุนการกระจายอำนาจเริ่มต้นจากการควบคุมรถควันดำ  รถบรรทุกห้ามเข้าพื้นที่  / อาคารที่มีการก่อสร้างในพื้นที่ชั้นในจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและประชาชน หากทำผิดกฎต้องเสียค่าปรับค่าทำเนียม และหากสามารถลดฝุ่นพิษได้ นำค่าใช้จ่ายเหล่านั้นมาลดหย่อนภาษีได้ 

นอกจากนี้ นายสุชัชวีร์ ยังนำเครื่องวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 มาวัดค่า ที่ ริมถนนแยกปทุมวัน เพื่อพิสูจน์ว่าขณะนี้กรุงเทพมหานครชั้นไหนมีปริมาณฝุ่นเกินมาตรฐานและละอองฝนไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่นพิษได้ โดยวัดค่าล่าสุดเวลา 09:30 น. พบว่ามีปริมาณ 68 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร

related