SHORT CUT
“เดชอิศม์” เปิดคลิปสรุปให้ ลั่นชีวิตนี้ไม่เคยมีคดี โต้ปมโทนี่ เตียว-น้ำมันเถื่อน-ยาเสพติด ชี้นักข่าวดีมี 99 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่อาคารรัฐสภา นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการพูดถึงจริยธรรมของนักการ , แคนดิเดตรัฐมนตรี และ จริยธรรมสื่อมวลชน ว่าเป็นเรื่องที่ตนจำเป็นจะต้องออกมาพูดเนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบสิทธิ์เป็นอย่างมาก
จากนั้นนายเดชอิศม์ ได้เปิดคลิปวิดีโอที่สื่อมวลชนสำนักหนึ่ง ได้สรุปถึงข้อเคลือบแคลงใจจากสังคม โดยเฉพาะประชาชนจังหวัดสงขลาและภาคใต้ ต่อตนเองในกรณีที่เคยถ่ายภาพร่วมกับนายโทนี่ เตียว ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน
โดย นายเดชอิศม์ ได้กล่าวว่านายโทนี่ เตียว เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่มาจากประเทศมาเลเซีย และมาลงทุนทำธุรกิจที่จังหวัดสงขลากว่าพันล้านบาท ซึ่งในขณะนั้นทั้งแม่ทัพภาค 4 , ผู้ว่าราชการจังหวัด , นายอำเภอ และทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ไปอำนวยความสะดวก
ตนในฐานะที่เป็นคนสงขลา เมื่อมีนักธุรกิจมาลงทุนไม่ว่าจะมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศจึงมีหน้าที่อำนวยความสะดวก แต่จะต้องมีเงื่อนไขคือเมื่อเข้ามาทำธุรกิจแล้วต้องถูกต้องตามกฎหมาย และ ต้องไม่ทำผิดกฏหมายของประเทศไทย โดยส่วนตัวได้รู้จักกับนายโทนี่ เตียว เมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมาต่อมานายโทนี่ เตียว ได้บวชตน ในฐานะคนรู้จักกันจึงไป ช่วยอำนวยความสะดวก และต่อมาจึงทราบว่านายโทนี่ เตียว ได้ทำผิดกฎหมายและถูกจับกลุ่มแล้วที่ประเทศจีน ซึ่งหากนายโทนี่ เตียว ได้ทำผิดกฏหมายที่ประเทศไทยจะต้องถูกจับกุมและรับโทษที่ประเทศไทยก่อน ไม่สามารถส่งนักโทษไปที่ประเทศจีน ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย
นอกจากนั้นนายเดชอิศม์ ยังกล่าวถึง กรณีที่ตนถูกกล่าวหาเรื่องค้าน้ำมันเถื่อน และรอชี้มูลที่ ป.ป.ช.ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ขณะนั้นตนยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดเลย ดังนั้นจึงสงสัยว่าเรื่องของตนไปปรากฏที่ ป.ป.ช. ได้อย่างไร เนื่องจากผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวถูกสั่งฟ้องไปหมดแล้ว แต่ชื่อตนอาจปรากฏในกรุ๊ป LINE ของกลุ่มผู้ต้องหา จึงส่งรายชื่อทั้งหมดไปตรวจสอบเท่านั้น เน้นเรื่องนี้ตนได้ทำหนังสือชี้แจงไปยัง ป.ป.ช.แล้ว
สำหรับเรื่องมาตรฐานจริยธรรมนั้น นายเดชอิศม์ กล่าวย้ำว่าตนไม่เคยต้องคดีอาญาใดๆเลยทั้งชีวิต ซึ่งหากมีคดีในลักษณะนี้จะต้องมีหมายเรียก หรือมีหมายจับ ต้องเข้ารายงานตัว และพิมพ์ลายนิ้วมือ เรื่องนี้ตนไม่มี ชีวิตนี้ตนมีเพียงคดีเดียว คือคดีเลือกตั้งนายก อบจ. สงขลา ที่นายนวพล บุญญามณี ฟ้องตน และสุดท้ายศาลยกฟ้อง
“จริยธรรมของนักการเมืองสำคัญ แต่จริยธรรมของสื่อได้ทำของสื่อก็เป็นเรื่องสำคัญมากผมมีครอบครัว มีลูก มีภรรยามีเพื่อนฝูง ผมมาจากการเลือกตั้ง พี่น้องประชาชนชาวสงขลาเลือกผม เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดสงขลาทั้งสองสมัย เพราะฉะนั้นถ้าผมเกี่ยวพันในลักษณะนี้พี่น้องที่เลือกตั้งผมก็เสียหายไปด้วย ครอบครัวผมนี้เสียหายยับเยินอยู่แล้ว ผู้ที่ค้ายาเสพติดคือคนที่ชั่วช้าสามาญ แต่คนที่ไม่ค้ายาถูกคนใดคนหนึ่งหรือสื่อสำนักใดสำนักหนึ่งทำให้เข้าใจว่าค้ายา คนพวกนี้เลวร้ายกว่าคนค้ายาเพราะเป็นการทำร้ายสังคม ตนรู้ว่าพี่น้องสื่อมวลชน 99% เป็นคนดีแต่ก็มีอีก 1% ไม่ทราบว่าจะหวังผลประโยชน์ทางการเมืองหรือประโยชน์ใดๆโดยการทำร้ายคนอื่น" นายเดชอิศม์กล่าว
นายเดชอิศม์ ยังเชื่อว่า เรื่องนี้มีกระบวนการอยู่เบื้องหลัง เพราะจ้องมาที่ตนและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพิเศษ ซึ่งข้อใดที่เข้าข่ายกฎหมายก็ต้องรักษาสิทธิ์ เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง
“ผมก็สงสารนักข่าวบางคนเพราะบางทีเค้าไม่ใช่คนชั่ว แต่เค้าชั่วโดยถูกเจ้านายสั่งแต่บางคนก็ชั่วโดยสันดานก็มี แต่ถ้าเค้าไม่มีเจตนาชั่วจริงๆ ผมก็ไม่อยากฟ้องอะไร” นายเดชอิศม์กล่าว
“เป็นคนที่มีข้อครหาทางสังคมและวิญญูชนก้ตั้งคำถามกับเขา โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยนายกชายเคยมีภาพถ่ายคู่กับโทนี่เตียว หนึ่งในอาชญากรข้ามชาติที่เป็นที่ต้องการของต่างประเทศ เขาคือผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศจีนและมาเลเซีย โดยล่าสุดทางการไทยได้มีการส่งตัวให้รัฐบาลจีนแล้ว ซึ่งมีการเปิดประวัติว่าเขาเกี่ยวข้องกับธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์เต็มรูปแบบที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา
โทนี่ เตียว มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันและอาจมีความเกี่ยวพันกับนายกชาย เพราะมีการถ่ายรูปร่วมกันในครั้งที่นายกชายไปร่วมงานบวชของโทนี่ เตียว และมีข่าวว่านักธุรกิจข้ามชาติรายนี้เป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญของนักการเมืองในภาคใต้ด้วย”
"รายการสรุปให้"
“โทนี่ เตียว เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่มาจากมาเลเซียและมาอยู่ที่ภาคใต้ จ.สงขลา เป็นเวลาร่วมสิบปีแล้ว มาลงทุนเป็นพันล้าน แม่ทัพภาคสี่ ทุกคนก็ไปต้อนรับ ไปอำนวยความสะดวก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาทุกท่านก็ไปอำนวยความสะดวก นายอำเภอสะเดาทุกท่านก็ไปอำนวยความสะดวก ผมซึ่งเป็นคนสงขลา เป็นคนไทย นักธุรกิจที่มาลงทุน ไม่ว่ามาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เราเป็นคนสงขลามีหน้าที่อำนวยความสะดวก แต่เรามีเงื่อนไขว่า 1.ต้องเข้ามาถูกต้องการกฎหมาย 2.ต้องไม่ทำผิดกกฎหมายของไทยใดๆ เลย ปรากฎว่า โทนี่ เตียว มาอยู่ 10 ปี แล้วมารู้จักผมเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา เขาไปบวช ผมก็ไปด้วย ผมก็อำนวยความสะดวกต่างๆ ตามวิญญูชน คนสงขลาทั่วไป เฑราะฉะนั้นผมไม่เคยทำผิดอะไรเลย เขาก็ไม่เคยทำผิดอะไรเลย แต่ตอนหลังทราบมาว่าเขาไปผิดกฎหมายอยู่ที่ต่างประเทศ ประเทศจีน วันนี้ก็จับก็ส่งไปประเทศจีน ป่านนี้ถ้าผิดกฎหมายไทย ไทยต้องส่งไปจีนไม่ได้ เพราะว่าต้องรับโทษในประเทศไทยให้จบก่อน นี่ก็ชี้ให้เห็นว่าไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกันเลย”
"เดชอิศม์ ขาวทอง"
“นอกจากนี้นายกชายยังมีคดีที่ถูกกล่าวหาอยู่ในชั้น ป.ป.ช. แต่ยังไม่ชี้มูลเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้ โดยชื่อนายกชายเข้ามาเกี่ยวข้องกับการขยายผลเพิ่มเติมจากหลักฐาน แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการชี้มูลหรือสรุปว่ามีความผิด”
"รายการสรุปให้"
“เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อปี 2555 ผมก็ไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ เลย เพราะฉะนั้นผมยังงงเลยส่งเรื่องผมไป ป.ป.ช. ได้ยังไง และทราบมาว่าผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดีน้ำมันโดนสั่งฟ้องไปหมดแล้ว แต่ชื่อผมอาจจะไปอยู่ในกรุ๊ปไลน์ของกลุ่มผู้ต้องหา 50-60 คน เขาก็ส่งชื่อทั้งหมดนี้ไปให้ตรวจสอบก็เท่านั้นเอง ผมก็ทำหนังสือไป ป.ป.ช. แล้วด้วยว่าช่วยส่งรายละเอียดให้ผมหน่อย เขาก็ตอบมาว่าแค่รวบรวมเบื้องต้น ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นเอง ยังไม่ได้ ไม่สามารถส่งมาให้ได้ ก็แค่นี้เองครับ ไม่มีอะไรเลยใน ป.ป.ช.”
"เดชอิศม์ ขาวทอง"
“นอกจากนี้นายกชายยังมีคดีเก่าตั้งแต่ปี 2548 ขณะที่ใช้ชื่อเดิมว่า นายวรวิทย์ ขาวทอง ที่ DSI กล่าวหาว่ามีความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจรและสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดโดยร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต DSI ทำการสอบสวนเรื่องนี้ก่อนจะส่งให้อัยการซึ่งคดีนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องในทางคดีก็ถือว่านายกชายไม่มีความผิด แต่หากเทียบกรณีคล้ายๆ กัน คุณพิชิต ชื่นบาน ในคดีถุงขนม อัยการก็มีคำสั่ง ไม่ฟ้องเด็ดขาดเช่นกัน แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับมองว่าวิญญูชนไม่เชื่อว่าคุณพิชิตไม่ได้กระทำผิดจริง จึงน่าคิดว่ากรณีของนายกชายจะถูกสอบสวนมาตรฐานทางจริยธรรมซ้ำรอยคุณพิชิตหรือไม่”
"รายการสรุปให้"
“ตัวผมเอง ไม่เคยต้องคดีอาญาใดๆ เลย ทั้งชีวิต ไม่ว่าฆ่าคนตาย ไม่ว่าค้ายาเสพติด ไม่ว่าอาญาใดๆ เพราะถ้ามีคดีลักษณะนี้ เราต้องมีหมายเรียก หรือมีหมายจับ ต้องไปรายงานตัว ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ ผมไม่เคยมีเลย ชีวิตผมมีคดีเดียว คือคดีการเลือกตั้ง คุณนวพล บุญญามณี ฟ้องผม เรื่องเลือกตั้งนายก อบจ. สงขลา สุดท้าย ศาลยกฟ้องเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น ผมอยากฝากพี่น้องสื่อมวลชนด้วย ว่าจริยธรรมของนักการเมืองก็สำคัญ แต่จริยธรรมของสื่อก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ผมมีครอบครัว มีลูกภรรยา มีเพื่อนฝูง ผมมาจากการเลือกตั้ง พี่น้องประชาชนชาวสงขลาเลือกผมเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดสงขลา ทั้งสองสมัยติดต่อกัน เพราะฉะนั้น ถ้าผมเกี่ยวพันเป็นลักษณะนี้ พี่น้องที่เลือกตั้งผมก็เสียหายไปด้วย ครอบครัวผมนี่เสียหายยับเยินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอยากชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า ผมไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ เลย และผมพูดตรงนี้นะครับคนที่ค้ายาเสพติดเป็นคนชั่วช้าสามานคบไม่ได้ แต่คนที่ไม่ได้ค้ายาถูกคนใดคนหนึ่ง สื่อบางสำนักใดสำนักหนึ่งทำให้คนเข้าใจว่าค้ายา ไอ้พวกนี้เลวร้ายกว่าพวกค้ายาอีก เพราะเป็นการทำร้ายคนทำร้ายสังคม
อยากฝากพี่น้องสื่อมวลชนด้วยผมรู้พี่น้องสื่อมวลชน 99% เป็นคนดีแต่ก็มีอีก 1% ไม่ทราบว่าจะหวังผลประโยชน์ทางการเมืองหรือประโยชน์ใดๆ โดยการทำร้ายคนอื่น อันนี้ผมขอความยุติธรรมด้วย ว่าผมไม่มี ไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยมีด้วย...
ผมยืนยันตรงนี้ถ้ามีคดีต้องไปพิมพ์ลายนิ้วมือ พนักงานสอบสวนต้องออกหมายเรียกหรือหมายจับไม่เคยสักครั้งเดียวทั้งชีวิต ตรวจสอบมาหาผมได้และไปค้นประวัติได้ว่าผมไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่ไหนไปโรงพักไหน DSI ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ไม่เคยมี...
DSI ไม่เคยไป ป.ป.ช. ไม่เคยไป สถานีตำรวจไม่เคยไป”
"เดชอิศม์ ขาวทอง"