หลังมีประเด็นที่ พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงแนวคิดการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็น 15% ล่าสุด แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้อกมาโพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่าจะไม่มีการปรับ VAT เป็น 15%
นายกฯ ได้โพสต์ภาพการปรึกษาหารือกับรองนายกฯ และคณะที่ปรึกษานโยบายรัฐมนตรี และลงข้อสรุป ดังนี้
1. ไม่มีการปรับ VAT เป็น 15%
2. กระทรวงการคลัง กำลังศึกษาการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งต้องมองทั้งระบบให้ครบทุกมิติและเป็นธรรม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
3. การปรับโครงสร้างภาษีของประเทศอื่นๆ ใช้เวลาศึกษาและปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป บางประเทศใช้เวลาปรับเปลี่ยนกว่า 10 ปี
4. นโยบายหลักของรัฐบาล คือการลดรายจ่ายประชาชนและเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ ควบคู่ไปกับการหาโอกาสจากการสร้างรายได้ใหม่ให้ประชาชน
ทั้งนี้ จากการสืบค้นข้อมูลของ SPRiNG ตามประมวลรัษฎากรของไทยในปี 2535 ต้องมีการเก็บ VAT ที่อัตรา 10% แต่ด้วยข้ออ้างเรื่องภาวะเศรษฐกิจและปากท้อง ทำให้การเก็บ VAT อยู่ที่ 7% มาโดยตลอด
สำหรับประเทศในอาเซียนที่มี VAT สูงสุด ได้แก่
• ฟิลิปปินส์ 12%
• อินโดนีเซีย 11% และจะขึ้นเป็น 12% ในปีหน้า
• มาเลเซีย แยกเก็บเป็นภาษีขาย 10% และภาษีบริการ 8%
• กัมพูชา 10%
• ลาว 10%
• เวียดนาม 10%
• สิงคโปร์ 9%
• พม่า 5%
• บรูไน ไม่จัดเก็บ
ส่วนประเทศสำคัญอื่นๆ อาทิ
• สหราชอาณาจักร 20%
• เยอรมนี 19%
• เกาหลีใต้ 10%
• จีน แยกเก็บตามประเภทสินค้า มีทั้ง 6, 9 และ 13%
• ญี่ปุ่น 10%
• สหรัฐอเมริกา แตกต่างไปตามแต่ละรัฐ
• ออสเตรเลีย 10%
.