ปารมีเสนอเปิดเผยข้อสอบ หลัง ทปอ.มีมติไม่เลื่อนสอบตามข้อเรียกร้อง

กรณีดังกล่าว ทำให้โลกทวิตเตอร์เกิดกระแสเรียกร้องให้เลื่อนสอบทั่วประเทศ เพราะความกังวลต่อมาตรฐานของข้อสอบและโอกาสในการศึกษา 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ประชุม ทปอ.มีมติยืนยันไม่เลื่อนสอบทั่วประเทศ โดยระบุว่าผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยมี 8,190 คน จากผู้สมัครทั้งหมด 315,483 คน ดังนั้น ผู้สมัครที่ไม่ได้รับผลกระทบคิดเป็นสัดส่วนถึง 97.41% จึงดำเนินการสอบตามวันเวลาเดิม แต่กลุ่มที่แจ้งความประสงค์เลื่อนสอบ จะมีการจัดทำข้อสอบชุดใหม่ตามตารางวิเคราะห์ข้อสอบ (Test Blueprint) และสัดส่วนข้อสอบที่มีความยากง่าย (Diffculty Level) และกำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบข้อสอบอีกรอบ จึงขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ 

หลังจากกรณีดังกล่าว SPRiNG ได้คุยกับ ปารมี ไวจงเจริญ สส.พรรคประชาชนที่ติดตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ถึงมุมมต่อแนวทางแก้ไขของ ทปอ. และการติดตามเรื่องนี้ในอนาคต  โดยปารมีกล่าวว่าเธอเข้าใจการตัดสินใจของ อปท. อย่างไรก็ตาม ยังไม่เชื่อมั่นว่ามาตรฐานการออกข้อสอบจะเท่าเทียมกัน

“ถ้ามันไม่ได้เกิดการสอบครั้งเดียว มันจะต้องเหลื่อมล้ำอย่างแน่นอน จะอ้างว่าข้อสอบออกโดยคนเดียวกัน มาตรฐานเดียวกัน แต่มันมีหลายจุดที่ไม่มีทางเหมือนกันได้เป๊ะขนาดนั้น ดังนั้น การจะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยโดยเฉพาะที่มีการแข่งขันสูง ที่เฉือนกันแค่จุดทศนิยม มันไม่น่าจะเสมอภาคและยุติธรรมได้” ปารมีกล่าว

จากการติดตามรับฟังปัญหาและพูดคุยกับเด็กที่เข้าสอบในปีนี้ เธอชวนมองให้ลึกลงไปถึงปัญหาระดับโครงสร้าง โอกาสทางการศึกษาสัมพันธ์กับโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างแยกจากกันไม่ออก ดังนั้น การเลื่อนสอบในครั้งนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ของเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยในปี 2568 ทุกคน 

“เราต้องเอาความจริงมาพูดนะ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งไม่เท่ากัน และมหาวิทยาลัยชั้นนําที่เด็กอยากเข้าการแข่งขันสูงมาก บางสาขารับแค่หลักร้อยคน จากนักเรียนที่มุ่งมั่นสอบเป็นแสนคน” ปารมีกล่าว 

“ข้อหนึ่งที่เราเทียบกับประเทศตะวันตกไม่ได้คือ สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงมาก และการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อโอกาสในการทำงานที่ดี เพื่อเลื่อนสถานะทางเศรษฐกิจของตัวเองสำคัญมาก ฉะนั้น การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงสําคัญกับเด็กมาก” ปารมีกล่าวต่อ

ปารมียืนยันว่าทาง กมธ.เด็กและกิจการเยาวชนจะเสนอเรื่องนี้เป็นญัติด่วนทันทีที่สภาเปิดในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ส่วนอีกข้อเสนอนึงถึง ทปอ.คือให้ยกระดับสร้างความเชื่อมั่นกับให้สำเร็จ ก้าวข้ามความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2561 

.“อันที่จริง โมเดล TCAS ค่อนข้างโอเคแล้ว แต่ ทปอ.ต้องออกข้อสอบและตรวจทานให้ดี กรรมการที่ออกข้อสอบและกรรมการที่ตรวจทานต้องเป็นเนื้อหนึ่งใจเดียว ประสานกันให้ดี ตรวจให้ชัดเจน ไม่ให้ผิดพลาดเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต” ปารมีเสนอ

“อีกประเด็นที่พรรคประชาชนขับเคลื่อนมาตลอดคือ เราต้องการให้เปิดเผยข้อสอบ เพื่อที่นักเรียนและประชาชนจะได้ช่วยกันตรวจสอบ ซึ่งปีนี้จะเป็นปีแรกที่ข้อสอบ A-Level ให้เด็กเอากลับบ้านได้” ปารมีกล่าวต่อ

“แต่ TPAT/ GPAT ยังไม่เปิดเผย ซึ่งเรื่องนี้ต้องผลักดันให้เปิดเผย เพื่อความโปร่งใส เพราะถ้าข้อสอบทุกประเภทเปิดเผย จะทำให้ ทปอ.ค่อยๆ ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ”