อีกไม่ถึง 10 ชั่วโมง โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธิสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา โดยมีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่าเขาเตรียมเซ็นกฎหมายกว่า 100 ฉบับทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง
ถึงแม้ยังไม่แน่ชัดว่ารายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง แต่ถ้าหากย้อนกลับมาดูในช่วงหาเสียงและนโยบายของทรัมป์ นี่คือแนวทางที่ทรัมป์ประกาศไว้ว่าจะทำ ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยนี้
“จะมีการขับไล่ (ผู้อพยพ) ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา” โดนัลด์ ทรัมป์ พูดไว้อย่างชัดเจนในการดีเบตศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับ คามารา แฮริส จากพรรคเดโมแครต
นโยบายดังกล่าวรวมถึงผู้อพยพและผู้ลี้ภัยที่ไม่มีเอกสารราว 11 ล้านคนในอเมริกา ผู้อพยพที่มีเอกสาร แต่มีประวัติอาชญากรรมราว 500,000 ราย เขายังประกาศจะยกเลิกกฎหมายคุ้มครองผู้ลี้ภัย และเพิกถอนมาตรการด้านสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้ลี้ภัยนับล้านคน
ก่อนที่จะรับตำแหน่ง ทรัมป์ก็ได้ประกาศศึกเบาๆ กับทั้งเม็กซิโกและแคนาดาไปแล้ว โดยโจมตีเม็กซิโกว่าเป็นประเทศยาเสพติด และบอกให้แคนาดามารวมเป็นหนึ่งเดียวกับอเมริกาเสีย
อย่างไรก็ตาม เขาประกาศว่าจะมีการขึ้นกำแพงภาษี 25% ในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งจะส่งผลต่อการนำเข้าสินค้าจากเพื่อนบ้านทั้งสองประเทศ โดยเขาให้เหตุผลว่าระบบการค้าในปัจจุบันทำให้อเมริกาเผชิญกับปัญหายาเสพติดข้ามพรมแดน
ถ้าหากทรัมป์ไม่ได้กล่าวเกินจริง นี่อาจเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เพราะทรัมป์ประกาศจะอภัยโทษให้จำเลย 1,580 ราย และผู้กระทำความผิด 1,270 รายจากกรณีบุกยึกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ.2564
ถึงแม้ นักวิเคราะห์จะมองว่าทรัมป์คงโวเกินจริงอีกเช่นเคย เพราะหลายคดีได้มีคำตัดสินสิ้นสุดแล้ว อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายกรณีที่ยังไม่มีคำตัดสิน และถ้าเขาทำสำเร็จจะเป็นการฟื้นความเชื่อมั่นของผู้สนับสนุนเดนตายของเขาจำนวนมาก ให้กลับมาเข้มแข็ง
ทรัมป์สาบานว่าจะริบสิทธิของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศครั้งใหญ่ โดยจะห้ามรับราขการทหาร ห้ามลงแข่งกีฬาระดับผู้หญิง ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคนราว 1.6 ล้านคน ทหารในกองทัพ 15,000 คน และนักเรียนที่ลงแข่งกีฬาอีกจำนวนมาก
เขายังจะให้มีการสอบสวนผลกระทบของการให้ฮอร์โมนกับพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งจะทำให้โครงการ gender-affirming care ที่สนับสนุนด้านฮอร์โมนหยุดชะงักหรือยกเลิกไป
ทรัมป์โวเอาไว้ว่าเขาจะทำให้สงครามระหว่าง รัสเซีย - ยูเครน ยุติลงตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว
ถึงแม้ต่อมา เขาจะยอมรับว่าปัญหาของสองประเทศแก้ยากกว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางมากนัก เขายังยืนยันว่าเขาและทีมงานจะเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อทำให้สงครามนี้จบลงภายใน 6 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่ง
ย้อนกลับไป 4 ปีที่แล้ว โจ ไบเดน ได้ลงนามในข้อตกลงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซ์จากยานยนต์ 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 และการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในกระบวนการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ออกมายืนยันว่าเขาจะยกเลิกกกฎดังกล่าวเสีย
นอกจากนี้ เขายังประกาศจะเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันให้มากขึ้น เพื่อลดค่าพลังงานภายในประเทศอีกด้วย
บิทคอยน์เป็นทุนสำรอง
ทรัมป์ประกาศจะสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่างเต็มที่ และคาดหวังจะทำให้บิทคอยน์กลายเป็นทุนสำรองของประเทศ ทำให้ราคาของบิทคอยน์พุ่งสูงทั้งตอนเขาชนะเลือกตั้งและก่อนวันเข้าตำแหน่งประธานาธิบดี
อันที่จริง โดนัลด์ ทรัมป์ ยังประกาศจะดำเนินอีกหลายนโยบาย อาทิ การประกาศภาวะฉุกเฉินรอบชายแดน, เปลี่ยนกฎหมายรับรองสัญชาติ, ทำลายรัฐเร้นลับ ผ่านการปฏิรูประบบราชการ แต่ต้องรอดูว่าสิ่งที่เขาประกาศจะทำได้จริงมากน้อยแค่ไหน และจะเป็นไปเหมือนที่พูดหรือกล่าวเกินจริงมากน้อยแค่ไหน
แต่ที่แน่ๆ ภายใต้การบริหารของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในสมัยที่ 2 นี้ อเมริกากำลังเกิดการขยับเขยื้อนครั้งใหญ่ และทั่วโลกต่างกำลังจับจ้องไปที่การขยับปีกของพญาอินทรีครั้งนี้