SHORT CUT
มาร์กอส-ดูเตร์เต้ 2 บ้านใหญ่ฟิลิปปินส์ร้าวลึก หลังร่วมมือกันส่ง เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด
ความขัดแย้งระหว่างตระกูลมาร์กอสและดูแตร์เต ก่อให้เกิดความสั่นคลอนทางการเมืองในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีรายละเอียดที่ลึกซึ้งกว่าที่กล่าวมาข้างต้น โดยมีจุดสำคัญดังนี้
การปะทุของความขัดแย้ง: นางซารา ดูแตร์เต รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ออกมากล่าวหาว่า บิดาของประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนักการเมืองในอดีต นอกจากนี้ เธอยังอ้างว่าตนเองกำลังตกเป็นเป้าหมายของการลอบสังหาร และได้เตรียมแผนการตอบโต้ไว้ โดยระบุว่า หากเธอเสียชีวิต จะมีการสั่งให้สังหารประธานาธิบดีมาร์กอสและภรรยาของเขา
ชนวนเหตุของความขัดแย้ง: ความขัดแย้งล่าสุดเกิดขึ้นภายหลังจากการควบคุมตัวหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของซารา ดูแตร์เต ในระหว่างการสอบสวนของรัฐสภาเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ถูกต้องในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเธอเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี
การตอบโต้และมาตรการรักษาความปลอดภัย: จากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองทัพฟิลิปปินส์ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประธานาธิบดีมาร์กอส กระทรวงยุติธรรมได้วางแผนที่จะสอบสวนรองประธานาธิบดีดูแตร์เต ในขณะที่สภาความมั่นคงแห่งชาติมองว่า คำกล่าวอ้างของนางดูแตร์เตเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
ภูมิหลังความสัมพันธ์และการร่วมมือทางการเมือง: บองบอง มาร์กอส และซารา ดูแตร์เต เคยร่วมมือกันในการเลือกตั้งปี 2022 โดยซาราลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับมาร์กอส จูเนียร์ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งสองได้เริ่มสั่นคลอนลง
บองบอง มาร์กอส กล่าวหาว่า โรดริโก ดูเตร์เต อดีตประธานาธิบดี ได้แอบทำข้อตกลงลับกับจีนเกี่ยวกับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
โรดริโก ดูเตร์เต กล่าวหาว่า บองบอง มาร์กอส เคยเป็นผู้ติดยาเสพติด
บองบองตอบโต้ว่า ดูเตร์เตใช้ยาเฟนทานิลตามที่แพทย์สั่ง
ซารา ดูเตร์เต กล่าวว่า ประเทศเคยต่อสู้กับการสังหารเบนิกโน อากีโน โดยมาร์กอสผู้พ่อ
การกลับมาของตระกูลมาร์กอส: เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2022 ด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นถึง 31 ล้านเสียง ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการฟื้นฟูชื่อเสียงของตระกูลมาร์กอส ซึ่งเคยถูกประชาชนขับไล่ออกจากอำนาจ
อดีตที่ขัดแย้งและการประกาศกฎอัยการศึก: เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้พ่อ ประกาศกฎอัยการศึกในปี 1972 มีการจำกัดเสรีภาพและละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม มาร์กอส จูเนียร์ ไม่เคยออกมาขอโทษสำหรับการนองเลือดที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980
อ้างอิง