SHORT CUT
สร้างฟรีแต่ซ่อมแพงลิ่ว! รัฐสภาอังกฤษ ที่อดีคคือพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ มรดกโลกกับต้นทุนอนุรักษ์กว่า 7 พันล้านปอนด์
ในโลกของการเมืองและสถาปัตยกรรม มีอาคารไม่กี่แห่งที่สามารถสะท้อนถึงพลังอำนาจ ประวัติศาสตร์ และอัตลักษณ์ของชาติได้อย่างลึกซึ้งเช่นเดียวกับรัฐสภาอังกฤษ หรือที่รู้จักในชื่อ “พระราชวังเวสต์มินสเตอร์” (Palace of Westminster) แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ อาคารหลังนี้ในเวอร์ชันปัจจุบันไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินในการก่อสร้างแม้แต่เพนนีเดียว! อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน การซ่อมบำรุงและดูแลรักษานั้นกลับกลายเป็นภาระงบประมาณอย่างมหาศาล ซึ่งชวนให้ตั้งคำถามว่า เหตุใดสิ่งปลูกสร้างที่ "ได้มาฟรี" จึงต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่แพงยิ่งในระยะยาว ?
พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิมเริ่มต้นในฐานะ "พระราชวังของกษัตริย์" ในยุคกลาง โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพ (Edward the Confessor) ทรงสถาปนาไว้ในศตวรรษที่ 11 และใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษ ต่อมาเมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงย้ายราชสำนักไปยังพระราชวังไวท์ฮอลล์ในศตวรรษที่ 16 อาคารจึงถูกปรับเปลี่ยนมาใช้ในงานราชการ รวมถึงการประชุมของรัฐสภา
วันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1834 ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ทำลายพระราชวังเวสต์มินสเตอร์เกือบทั้งหลัง เหลือรอดเพียงบางส่วน เช่น Westminster Hall ที่มีอายุกว่า 900 ปี แม้จะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่กลับเปิดโอกาสให้รัฐบาลในเวลานั้นสามารถออกแบบอาคารรัฐสภาใหม่ทั้งหมด
หลังเหตุเพลิงไหม้ มีการจัดประกวดแบบเพื่อสร้างอาคารใหม่ โดยผลงานของ ชาร์ลส์ แบร์รี (Charles Barry) สถาปนิกผู้เสนอแนวทางแบบนีโอโกธิก (Neo-Gothic) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านลวดลายและตกแต่งภายใน ออกัสตัส พูจิน (Augustus Pugin) ได้รับเลือกให้เป็นแบบที่นำมาใช้
จุดที่น่าสนใจคือ แบร์รีและพูจินทำงานออกแบบอาคารรัฐสภาแห่งนี้ "โดยไม่คิดค่าแรงออกแบบ" จากรัฐบาลกลาง เนื่องจากพวกเขาเห็นว่านี่คือเกียรติประวัติสูงสุดของวิชาชีพ การออกแบบรัฐสภาอังกฤษจึงกลายเป็น "งานฟรี" ที่ส่งต่อมรดกทางสถาปัตยกรรมอันงดงามให้กับโลก
แม้การออกแบบจะฟรี แต่การก่อสร้างใช้เวลายาวนานกว่า 30 ปี (ค.ศ. 1840–1876) และใช้งบประมาณจำนวนมากในส่วนของวัสดุและแรงงาน แต่ในทางการเมือง ณ เวลานั้น กลับมีการระบุว่า "ไม่ต้องใช้งบประมาณสร้างใหม่" เพราะรัฐบาลนำเงินจากกองทุนพิเศษและการบริจาคของเอกชน รวมถึงภาษีท้องถิ่นบางส่วนมาใช้แทน ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการก่อสร้างที่ “ไม่ใช้เงินรัฐโดยตรง”
แม้อาคารรัฐสภาแห่งนี้จะงดงามและเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ แต่ด้วยความที่มันสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และยิ่งเก่ากว่านั้นในบางส่วน (เช่น Westminster Hall) ปัญหาเชิงโครงสร้างจึงมีอยู่มาก เช่น ระบบไฟฟ้าเก่า ระบบท่อน้ำรั่ว รากฐานทรุด รวมถึงปัญหาแร่ใยหิน (asbestos) ที่เป็นอันตราย
ในปี 2017 สภาได้ผ่านแผนฟื้นฟูซ่อมแซมรัฐสภาทั้งหลัง โดยคาดว่าจะใช้เวลากว่า 10–20 ปี และใช้งบประมาณเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านปอนด์ หรือกว่า 3 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ความเก่าแก่และซับซ้อนทางสถาปัตยกรรม อาคารหลายส่วนต้องอนุรักษ์ตามมาตรฐานสมบัติทางวัฒนธรรม ทำให้ซ่อมได้ยากและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
ไม่สามารถปิดใช้งานได้ สภายังต้องเปิดใช้งานต่อเนื่องระหว่างการซ่อม จึงต้องมีมาตรการชั่วคราวที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง
โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า น้ำ และความปลอดภัย ไม่สามารถใช้งานตามมาตรฐานศตวรรษที่ 21 ได้อีกต่อไป
พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรืออาคารรัฐสภาอังกฤษ เป็นตัวอย่างอันงดงามของอาคารที่ “ไม่ต้องใช้เงินรัฐสร้าง” ในแง่ของการออกแบบ แต่กลับเป็น “ภาระทางงบประมาณ” อย่างมหาศาลในระยะยาว การอนุรักษ์ประวัติศาสตร์จึงกลายเป็นสิ่งที่มีต้นทุนสูง ทั้งในด้านการเงิน เวลา และความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรม นี่คือราคาที่สังคมต้องจ่าย เพื่อรักษามรดกทางอารยธรรมให้คงอยู่ไปอีกหลายศตวรรษ
อ้างอิง
UKParliament / BBCNews / NationalAuditOffice / HistoricEngland / TheGuardian / RIBA / SilpaMag /