svasdssvasds

สายลุย ธรรมนัส ปราบสินค้าเถื่อน ดันรายได้เกษตรกร ให้จับต้องได้

สายลุย ธรรมนัส ปราบสินค้าเถื่อน ดันรายได้เกษตรกร ให้จับต้องได้

ร้อยเอกธรรมนัส 'ผู้จัดการตัวจริง' ในสนามจริง บุคลิกสายลุย ลงพื้นที่ แก้ปัญหาเกษตรกรถึงราก ปราบสินค้าเถื่อน ยกระดับรายได้ ด้วยสไตล์พูดจริงทำจริง

SHORT CUT

  • อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 ในฐานะโฆษกพรรคกล้าธรรม ชี้ ร้อยเอก ธรรมนัส มีความโดดเด่นในด้านบุคลิกผู้นำภาคสนามที่กล้าเดินเข้าสู่ปัญหา อ่านสถานการณ์ไว ตัดสินใจเร็ว และลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่หาได้ยาก โดยมีสไตล์การทำงานที่เน้นลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากเกษตรกรและตรวจสอบสถานการณ์จริงด้วยตนเอง แทนที่จะนั่งบริหารอยู่บนโต๊ะ
  • เป้าหมายสำคัญของร้อยเอก ธรรมนัส คือการยกระดับรายได้เกษตรกรให้จับต้องได้ โดยใช้หลายเครื่องมือ เช่น การสร้างรายได้ 3 เท่าใน 4 ปี หรือกลไกประกันราคา นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเชิงรุก เช่น การจัดตั้งศูนย์พระยานาคราชเพื่อปราบปรามเครือข่ายสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย
  • ร้อยเอก ธรรมนัส สร้างความสัมพันธ์ในทุกระดับ ตั้งแต่ชาวบ้าน เกษตรกร ผู้นำท้องถิ่น ไปจนถึงข้าราชการระดับสูง ด้วยสไตล์ที่พูดจริง ทำจริง ตรงไปตรงมา ใจถึง พึ่งได้ และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง 

ร้อยเอกธรรมนัส 'ผู้จัดการตัวจริง' ในสนามจริง บุคลิกสายลุย ลงพื้นที่ แก้ปัญหาเกษตรกรถึงราก ปราบสินค้าเถื่อน ยกระดับรายได้ ด้วยสไตล์พูดจริงทำจริง

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 ในฐานะโฆษกพรรคกล้าธรรม  เปิดเผยมุมมองต่อสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ในสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคการเกษตร การลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย และราคาพืชผลที่ผันผวน รัฐบาลจำเป็นต้องมี “ผู้จัดการตัวจริง” ที่ไม่ใช่เพียงนั่งโต๊ะบริหาร แต่ต้องสามารถจัดการปัญหาหน้างานได้จริง ซึ่งบุคคลที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในภารกิจนี้คือ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม

สายลุย ธรรมนัส ปราบสินค้าเถื่อน ดันรายได้เกษตรกร ให้จับต้องได้

โดยมีเหตุปัจจัยดังนี้

1. ร.อ.ธรรมนัส มีความสามารถเฉพาะตัวและบุคลิกผู้นำภาคสนามที่อ่านสถานการณ์เป็น ลงมือเร็ว และกล้าตัดสินใจ ทางการเมือง( political views ) อีกทั้งยังมีคุณลักษณะเฉพาะตัวที่หาได้ยากในแวดวงการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ได้แก่ ความเป็นสายลุย กล้าเดินเข้าไปในปัญหาไม่ลังเลที่จะลงพื้นที่ที่เสี่ยงหรือซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ชายแดน หรือชุมชนที่มีปัญหาเรื้อรัง

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังอ่านเกมไว ตัดสินใจเร็ว ด้วยประสบการณ์ทั้งทางทหารและการเมือง ทำให้เข้าใจโครงสร้างอำนาจในระบบราชการ และรู้วิธีขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว  และสร้างความสัมพันธ์ในทุกระดับ ทั้งจากชาวบ้าน เกษตรกร ผู้นำท้องถิ่น ไปจนถึงข้าราชการระดับสูง  ทำให้เชื่อมโยงเครือข่ายเหล่านี้เข้ากับนโยบายได้จริงและด้วยสไตล์ พูดจริง ทำจริง  เป็นบุคคลที่มีคำพูดหนักแน่น และยึดมั่นในความรับผิดชอบ “เมื่อให้คำมั่นแล้ว ต้องเห็นผลในภาคปฏิบัติ” ประกอบกับบุคลิกที่ตรงไปตรงมา ใจถึง พึ่งได้ ติดดิน สไตล์ลูกชาวนาเมืองพะเยา และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและเจ้าหน้าที่ภาคสนามอย่างกว้างขวาง

2. ร.อ.ธรรมนัส มีสไตล์การทำงาน จากบนโต๊ะสู่การเปลี่ยนแปลงบนดิน กล่าวคือแทนที่จะนั่งรับรายงานในห้องประชุม แต่ ร.อ. ธรรมนัส ยึดหลักการ “บริหารเชิงปฏิบัติ” ที่เน้นลงพื้นที่ รับฟังปัญหาจากปากเกษตรกร และตรวจสอบสถานการณ์จริงด้วยตนเอง

ยกตัวอย่างสำคัญในช่วงที่ผ่านมาคือ,การลงพื้นที่ตรวจสวนทุเรียนที่ภาคตะวันออกภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดข่าวราคาตกต่ำ , สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรลงพื้นที่ช่วยเกษตรกรทันที โดยไม่รอผ่านขั้นตอนตามปกติ,จัดการการลักลอบนำเข้ายางพารา และสินค้าเกษตรเถื่อนตามแนวบริเวณชายแดนนะต้องเอาให้มันรู้เรื่องมันทำไม่ได้ และ การจัดการปัญหามวลชน ที่ล้อมทำเนียบรัฐบาล คือผู้จัดการตัวจริง แก้ปัญหาได้จริง ติดตามปัญหาทุกสถานการณ์ เป็นต้น

3. ถึงลูกถึงคน เข้าถึงชุมชน ศรัทธาในสนามเลือกตั้ง ซึ่งการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องและการสื่อสารอย่างจริงใจ ทำให้เกิด “พลังแห่งศรัทธา” ที่แสดงให้เห็นในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้นำในการวางยุทธศาสตร์ ปราศรัย และสร้างความสัมพันธ์กับประชาชนโดยตรง เห็นผลสำเร็จ คือสร้างปรากฏการณ์ “เก้าอี้ว่างเปลี่ยนขั้ว” ท่ามกลางฐานเสียงพรรคใหญ่ ยืนยันว่าการเมืองที่จริงใจ ยังชนะเหนือกระแสเงินทุนหรือชื่อพรรค

4. บริหารจัดการสินค้าเกษตร เชิงรุก เชิงรับ และสร้างรายได้มั่นคง
ซึ่งเป้าหมายใหญ่ของ ร.อ. ธรรมนัส คือ “ยกระดับรายได้เกษตรกรให้จับต้องได้” โดยใช้เครื่องมือหลายมิติ ทั้ง การสร้างรายได้3เท่าภายใน4 ปี ภายใต้ 9 นโยบาย , ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ขยายผลอย่างต่อเนื่อง ,MOU การตลาดล่วงหน้า

พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับผลผลิต ,เสริมศักยภาพเกษตรกรผ่าน Smart Farmer,ใช้กลไกสหกรณ์และ ธ.ก.ส. ในการประกันราคาและลดหนี้สิน และ แก้ปัญหาโดยใช้พื้นที่ตัวตั้ง และประชาชน เป็นศูนย์กลาง โดยไม่ให้มีแท่งไซโลของข้าราชการ 

5. ตั้งศูนย์พระยานาคราช ปราบสินค้าเกษตรเถื่อน สร้างความเป็นธรรมในตลาด โดยการจัดตั้ง ศูนย์พระยานาคราช เป็นนโยบายเชิงรุกที่ออกแบบมาเพื่อ “ทลายเครือข่ายสินค้าผิดกฎหมาย” ที่บ่อนทำลายเกษตรกรไทยมานาน

จุดเด่นสำคัญ คือผสานข้อมูลข่าวกรอง + การลาดตระเวนจริง,ทำงานเชิงรุกกับหน่วยความมั่นคง ,มีการแถลงข่าวรายสัปดาห์ เพื่อสร้างความโปร่งใสและแรงกดดันต่อผู้ลักลอบ ซึ่งผลที่ได้รับคือ ราคาสินค้าเกษตรพื้นบ้านฟื้นตัว และเกิดความเชื่อมั่นในระบบตลาดมากขึ้น

"ผมจึงมั่นใจว่า นี้คือผู้จัดการรัฐบาลตัวจริงในสนามจริง ในวันที่ประชาชนต้องการ “ผลลัพธ์” มากกว่า “คำอธิบาย” ซึ่งท่านร้อยเอกธรรมนัส  แสดงให้เห็นว่า ท่านคือผู้ที่สามารถเปลี่ยนนโยบายให้เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ด้วยสไตล์ตรงไปตรงมา ความเข้าใจลึกถึงรากของปัญหา และความสามารถในการบริหารสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างเด็ดขาด  ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่อดีตรัฐมนตรีในตำแหน่งที่มีผลงานเชิงประจักษ์ภายใต้ข้อจำกัดของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา แต่คือ “ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง” ที่ภาคสนาม และเกษตรกร ให้การยอมรับ ในยุคนี้อย่างแท้จริง" โฆษกพรรคกล้าธรรม กล่าว