SHORT CUT
สส. ไอซ์ รักชนก เปิดโปง คอร์รัปชันงบประมาณไทย ฝังรากลึกตั้งแต่ต้นน้ำ งบมหาศาลแต่ปัญหาซ้ำซาก เหตุโครงสร้างเก่า ตรวจสอบยาก เป้าหมายคือล้างบาง
เมื่อพูดถึงทุจริตคอร์รัปชันปฏิเสธไม่ได้ว่า สส. ฝ่ายค้านที่ลุยเรื่องนี้และเป็นที่น่าจับตาทั้งภาคประชาชนและการเมือง คือ สส. ไอซ์ รักชนก ศรีนอก สส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน (ปชน.)
SPRiNG มีโอกาสสัมภาษณ์ สส. ไอซ์ รักชนก เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน ที่ไม่ได้มีการโกงรายวันอย่างเดียว แต่มีการอนุญาตปกปิดซ่อนเร้น ที่ตั้งแต่ต้นน้ำคือการของบประมาณแผ่นดิน ก็มีช่องโหว่ในการทุจริต คอร์รัปชันเช่นเดียวกัน
“สิ่งที่อยากทำต่อไป คืออยากให้สังคมเห็นว่าตลอด 2 ปีที่เราทำงานในสภา เราเข้าใจกลไกและกลเม็ดการเมืองทั้งหมด และอยากให้ประชาชนกับสื่อมวลชนช่วยกันตีแผ่มันออกมา” ไอซ์ รักชนก กล่าว
ไอซ์ รักชนก ฉายภาพให้เห็นว่า ประเทศไทยมีงบประมาณแผ่นดินในปีนี้อยู่ที่ 3.8 ล้านล้านบาท แต่ยังมีงบของรัฐวิสาหกิจอีก 4.4 ล้านล้านบาท และงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกประมาณ 8 แสนล้านบาท ยังไม่รวมงบจากกองทุนต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ เมื่อนำมารวมกัน งบประมาณที่หมุนเวียนในระบบราชการไทยแตะ 10 ล้านล้านบาท ซึ่งสะท้อนชัดว่า ประเทศเราไม่ได้จน แต่ฝ่ายการเมืองล้มเหลว เพราะคนที่เข้ามาสู่อำนาจไม่มีใครมี "โปรเจกต์การเมือง" อย่างจริงจัง ทุกคนเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ให้ตัวเอง ครอบครัว และเครือญาติ จากนั้นก็ส่งคนของตนลงสมัคร สส. เมื่อได้จำนวน สส. มากพอ ก็รวบรวมเสียงเพื่อให้โหวตตนเองขึ้นเป็นรัฐมนตรี แล้วสร้างระบบอุปถัมภ์ลงไปในท้องถิ่นเพื่อคอร์รัปชันทุกระดับ
“นี่คือสิ่งที่เห็นชัด และมันทำให้เราหงุดหงิด” ไอซ์ รักชนก กล่าว
สิ่งที่เราตั้งคำถามกันตลอดว่าทำไมประเทศไทยถึงมีการทุจริต คอร์รัปชัน ที่เรื้อรัง ไอซ์ รักชนก กล่าวกับเราว่า “การตรวจสอบเละเทะ องค์กรอิสระกลายเป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐ ไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประชาชน”
ฝ่ายการเมืองที่เป็นรัฐบาลไม่เคยคิดจะปฏิรูปอย่างจริงจัง ระบบภาษีที่ควรจะคืนกลับมาเป็นสวัสดิการ กลับกลายเป็น “บุฟเฟต์” ที่ฝ่ายมีอำนาจแวะเวียนกันมากิน แบ่งผลประโยชน์กันเอง แล้วนำเงินไปสร้างระบบอุปถัมภ์ต่อ เพื่อกลับมามีอำนาจใหม่อีกครั้ง วนลูปไม่รู้จบ
“ถามว่าประชาชนได้อะไร? ก็อาจได้แค่ถนนเส้นใหม่เส้นหนึ่ง” ไอซ์ รักชนกกล่าว
ไอซ์ รักชนก อธิบายว่า ประเทศไทยมีงบสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ปีละ แสนล้านบาท มีงบป้องกันน้ำท่วม-ภัยแล้งอีก ปีละ แสนล้านบาท แต่ทุกปียังมีพื้นที่ที่น้ำท่วมต้นปี แล้วแล้งปลายปีในที่เดียวกัน
สร้างเขื่อน สร้างตลิ่ง ใช้งบแล้วพังใน 2-3 ปี ต้องของบใหม่ ทำให้ประเทศเหมือนอยู่ในวังวนของผู้รับเหมา เพราะตาม พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง กำหนดให้งบลงทุนต้องมีอย่างน้อย 20% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่ง "งบลงทุน" แทบทั้งหมดคือ "งบก่อสร้าง"
“นี่คือเหตุผลว่าทำไมถนนพระราม 2 ถึงสร้างไม่เสร็จสักที” วันนี้มีอาคารร้างกระจายทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ทุกจังหวัด แต่แทบทุกอำเภอ
ไอซ์ รักชนก กล่าวว่า “เราเห็นทุกอย่าง เข้าใจทุกอย่าง เราเห็นสิ่งที่กัดกินประเทศนี้จนไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้”
แม้แต่ข้าราชการระดับสูงก็ยอมรับกันเองว่า หากไม่มีสายสัมพันธ์หรือไม่ยอมเข้าระบบ "จะอยู่ตรงนั้นไม่ได้" เพราะตำแหน่งที่มีอำนาจจะเกี่ยวพันกับการอนุมัติงบ การตัดสินใจ และสามารถ “ซื้อขาย” กันได้ทุกอย่าง
“ไม่ใช่แค่ตั๋วตำรวจ แต่นี่คือประเทศที่ระบบซื้อขายอำนาจฝังรากลึก”
เมื่อพูดถึงงบประมาณแผ่นดิน เราอาจเห็นภาพหนังสือกองโตๆ หลายๆ เล่ม มีตัวหนังสือและตัวเลขเต็มไปหมด ทำให้หลายๆ อ่านแล้วเกิดความไม่เข้าใจ ไอซ์ รักชนก เผยให้เราเห็นว่า ตัวอย่างปีงบประมาณ 2569 สส. จะอภิปรายในวันที่ 28 พ.ค. 2568 แต่จะได้รับหนังสืองบประมาณประมาณวันที่ 22 พ.ค. 2568 ซึ่งมีถึง 40 เล่ม ประมาณ 30,000 แผ่น ซึ่งหมายความว่า สส.จะมีเวลาแค่ 7-8 วัน ในการวิเคราะห์
“เราเรียกร้องให้มีไฟล์ดิจิทัลที่สามารถโยนเข้าโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลได้ เช่น อยากรู้ว่างบการบริหารจัดการน้ำกระจุกที่ภาคไหน ต้องเห็นได้ทันที ไม่ใช่ส่งแค่เล่มขาวคาดแดงมาให้”
ระบบคอร์รัปชันทำให้คนไทยติดหล่ม ไม่ใช่เพราะคนไทยไม่มีความสามารถ แต่เพราะ โครงสร้างทำให้คนดีอยู่ไม่ได้ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อาคารถล่ม แท้จริงมีการล็อกสเปกตั้งแต่ต้น เลือกแบบก่อสร้าง ล็อกผู้รับเหมา ทุกอย่างเกิดจากการคอร์รัปชัน
อย่าอ้าง GDP หรือเศรษฐกิจดี “ต่อให้เศรษฐกิจดี GDP โต แต่ถ้าคนยังไม่ได้รับความเท่าเทียมทางกฎหมาย ประเทศนี้จะไม่มีวันเป็นธรรม”
คนจนได้รับการปฏิบัติแบบหนึ่ง คนมีสีมีตำแหน่งได้รับอีกแบบหนึ่ง นี่คือความจริงที่คนในประเทศต้องยอมรับ
“คุณ (รัฐบาล) ไม่เหลือใครยืนอยู่ข้างหลังแล้ว เพราะคุณสะบัดมือจากเขาไปเพื่อคว้าอำนาจมา แล้วก็ไม่ทำอะไร”
ไอซ์ รักชนก กล่าวว่า ในโลกของการเมือง ทุกอย่างต้องดีล ต้องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ คำถามคือ “ดีลนั้นเพื่อใคร?” ถ้าดีลเพื่อประชาชน เพื่อให้คนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีโอกาสทางการศึกษาและเศรษฐกิจ คุณกล้าพูดไหม? เพราะลึกๆ แล้ว ทุกคนรู้ว่าตัวเองดีลเพื่อครอบครัว ไม่ใช่เพื่อประเทศ ไอซ์ รักชนก กล่าว
“ถ้าเปิดแค่เล่มงบประมาณ เราจะไม่เห็นอะไรเลย แต่ถ้าโยนข้อมูลให้ระบบวิเคราะห์จะเห็นความผิดปกติชัดเจน”
ไอซ์ รักชนก ยกตัวอย่างกลเม็ดในการจับความผิดปกติในงบประมาณ เช่น ปีที่ผ่านมา โครงการของกรมโยธาธิการและผังเมืองกว่า 80-90% ไปลงพื้นที่ของ สส. ฝั่งรัฐบาล และล่าสุดยังมีการลบชื่อผู้รับเหมาที่ทิ้งงานโดยอ้างเรื่อง PDPA ซึ่งเป็นการซ่อนข้อมูลไม่ให้ตรวจสอบ
“เราต้องล้างบางโครงสร้างอำนาจเก่าที่พันกันเป็นเครือข่าย เพราะถ้าไม่ทำ ประเทศไทยจะไม่มีวันใช้ศักยภาพของประชาชนได้เต็มที่” ไอซ์รักชนกกล่าว
จากที่ SPRiNG มีโอกาสสัมภาษณ์ สส. ไอซ์ รักชนก จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีงบประมาณมหาศาล หมุนเวียนในระบบแตะ 10 ล้านล้านบาท แต่เม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากกลับถูกใช้เป็น "บุฟเฟต์" ของฝ่ายมีอำนาจในการแบ่งปันผลประโยชน์และสร้างระบบอุปถัมภ์ แทนที่จะนำไปสร้างสวัสดิการหรือแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง
เมื่อถอดรหัสการสัมภาษณ์ของ ไอซ์ รักชนก จะเห็นว่าการคอร์รัปชันไม่ได้มีแค่การโกงรายวัน แต่ซุกซ่อนอยู่ในกลไกและกลเม็ดทางการเมืองตั้งแต่ต้นน้ำของการของบประมาณ และการตรวจสอบงบประมาณทำได้ยาก เพราะข้อมูลมหาศาลและไม่เอื้อต่อการวิเคราะห์ ทำให้เห็นความผิดปกติได้ยาก แม้แต่ข้อมูลผู้รับเหมาที่ทิ้งงานก็ยังถูกซ่อนไว้
รากเหง้าของปัญหาคือคอร์รัปชัน ที่กัดกินประเทศ ทำให้ประเทศไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ โครงสร้างการซื้อขายอำนาจฝังรากลึก ทำให้คนดีอยู่ยาก และทำให้ปัญหาต่างๆ เช่น น้ำท่วม-แล้ง ยังคงเกิดขึ้นซ้ำๆ ทั้งที่มีงบประมาณมหาศาล การตรวจสอบอ่อนแอ องค์กรอิสระกลายเป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐ
เป้าหมายคือการตีแผ่กลไกทุจริตเหล่านี้ให้สังคมเห็น และ ล้างบางโครงสร้างอำนาจเก่าที่พันกันเป็นเครือข่าย ซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางศักยภาพของประชาชนและประเทศ
ในเมื่อโครงสร้างอำนาจและการคอร์รัปชันฝังรากลึกเช่นนี้ อนาคตที่แท้จริงของประเทศไทยจะขึ้นอยู่กับการ "ล้างบาง" โครงสร้างนี้ได้หรือไม่ และเราในฐานะประชาชนจะมีบทบาทในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างไร?