svasdssvasds

“ณัฐชา” อัด รัฐบาล คว้าน้ำเหลวเพิ่มเงิน ผู้สูงอายุ-เด็ก-พิการ

“ณัฐชา” อัด รัฐบาล คว้าน้ำเหลวเพิ่มเงิน ผู้สูงอายุ-เด็ก-พิการ

"ณัฐชา" ส.ส.พรรคประชาชน อัด รัฐบาล โฆษณาชวนเชื่อเพิ่มเงินผู้สูงอายุ-เด็ก-พิการ สุดท้ายคว้าน้ำเหลว! ปลุก ส.ส. ตัดงบฯ 3.8 หมื่นล้าน ดันสำเร็จ ย้ำพร้อมรับผิดชอบหากผิด รธน.

SHORT CUT

  • นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. พรรคประชาชน กล่าวว่ารัฐบาลประกาศจะเพิ่มเงินสวัสดิการสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ (อัตรา 600-1,250 บาทต่อเดือน และ 1,000 บาทสำหรับผู้พิการ) เป็นเพียง ที่จะ โดยระบุว่างบประมาณพร้อมแล้ว แต่ขาดการตัดสินใจและความจริงใจจากนายกรัฐมนตรี
  • นายณัฐชา เรียกร้องให้ สส. ทุกฝ่ายช่วยกัน จากส่วนอื่นในชั้น กมธ. งบประมาณให้ได้ เพื่อนำมาเพิ่มให้สวัสดิการเหล่านี้ และประกาศ โดยยินดีสละตำแหน่ง สส. เพื่อภารกิจนี้
  • นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ชี้แจงว่า ทางกระทรวงดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว และ พร้อมขอบคุณที่นายณัฐชาช่วยทวงถาม และยินดีหากมีการแปรญัตติเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้ได้

"ณัฐชา" ส.ส.พรรคประชาชน อัด รัฐบาล โฆษณาชวนเชื่อเพิ่มเงินผู้สูงอายุ-เด็ก-พิการ สุดท้ายคว้าน้ำเหลว! ปลุก ส.ส. ตัดงบฯ 3.8 หมื่นล้าน ดันสำเร็จ ย้ำพร้อมรับผิดชอบหากผิด รธน.

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างรุนแรง

นายณัฐชา ระบุว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยรับทราบหลักการปรับฐานกลุ่มเป้าหมายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ให้เป็นเงินอุดหนุนแบบถ้วนหน้า โดยไม่มีการคัดกรองรายได้ เริ่มตั้งแต่เด็กในครรภ์ 4 เดือนถึง 6 ปี จะได้รับเงินอัตรา 600 บาทต่อคนต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีการรับทราบการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได โดยผู้สูงอายุ 60 – 69 ปี จะได้เดือนละ 700 บาท, 70 – 79 ปี จะได้เดือนละ 850 บาท, 80 – 89 ปี จะได้เดือนละ 1,000 บาท และ 90 ปีขึ้นไป จะได้เดือนละ 1,250 บาท รวมถึงการปรับเบี้ยความพิการจากเดิม 800 บาท เป็น 1,000 บาทถ้วน

สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียง "โฆษณาชวนเชื่อ" ที่รัฐบาลประกาศกับประชาชน ทำให้หลายคนดีใจ แต่สุดท้ายน่าจะ "คว้าน้ำเหลว" โดยชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกอย่างเป็นโฆษณาชวนเชื่อที่เชื่ออะไรไม่ได้เลย พร้อมเหน็บแนมว่า "บ้านนี้เมืองนี้อยู่กับนายกฯที่เป็นสแกมเมอร์หรือไม่อย่างไร เพราะสิ่งที่ท่านพูดหรือทำไม่เป็นผล" และมองว่าในงบประมาณปี 2569 รัฐบาล "อำมหิตมาก" ที่ไม่เพียงแต่ไม่ให้เงินเพิ่ม แต่ยังหลอกให้ตายใจด้วย

นายณัฐชา ตรวจสอบพบว่าหน่วยงานต่างๆ ได้มีการของบประมาณเต็มจำนวน รัฐมนตรีเห็นชอบ และ ครม. รับทราบแล้ว แต่เหลือเพียงการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีว่าจะออกมติ ครม. รองรับหรือไม่ เขามองว่าความพยายามของ ครม. ในการขอเรื่องนี้ ได้เพียง "เศษเสี้ยว" เมื่อเทียบกับการต่อสู้เพื่อกลุ่มนายทุนในเรื่องต่างๆ โดยเรื่องเงินสวัสดิการนี้ "เงินพร้อม แต่ขาดความจริงใจจากนายกฯ" ซึ่งตนยอมไม่ได้ที่เงินของเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุจะตกหล่นในปีนี้

ทางออกที่เสนอคือการกลับไปออกมติ ครม. รองรับ หรือหาเงินใส่มาเต็มจำนวนให้ได้ พร้อมเรียกร้องให้ สส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลช่วยกันทำหน้าที่นี้ โดยช่วยกัน "ตัดงบประมาณในชั้นกมธ.ให้ได้ 38,548 ล้านบาท" หรือมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำมาใช้ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน

นายณัฐชา กล่าวด้วยว่า สส. อาจจะกังวลว่าการตัดงบประมาณแล้วนำไปเพิ่มในส่วนอื่นอาจ "ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144" แต่ตนพร้อม "รับผิดชอบเอง" หากมีปัญหา และกล่าวประกาศในสภาฯ ว่า "ให้มันรู้กันไปว่าถูกออกจากตำแหน่ง สส. เพราะทวงเงินให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็ก นี่คือกลไกอำนาจหน้าที่ของเราที่ช่วยกันทำได้" และ "ไม่ต้องเป็นส.ส.ก็ได้ แต่ขอทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ"
เขายังได้อ้างอิงคำแถลงของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่กล่าวว่าประชาชนจะได้รับการคุ้มครองที่มีสวัสดิการสังคมที่เพียงพอ เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต และท้าทายว่าหากคำพูดนี้เป็นจริง "ท่านลองให้บุพการีลองชีวิตตามเงินที่ได้ดูว่าเหมาะสมตามการดำรงชีวิตอย่างไร" นอกจากนี้ ยังวิจารณ์แผนรองรับสังคมสูงวัยว่ามีการเขียนสวนทางกับตัวเลขงบประมาณ และดูแลผู้สูงอายุในมิติเดียวคือ "สนับสนุนเงินทำศพ 150,000 บาท" พร้อมยกตัวอย่าง "คนที่รอคิวเข้าบ้านพักคนชราที่บางแค ต้องรออีก 166 ปี ตายแล้วเกิดใหม่ยังไม่ถึงคิวเขาเลย"

นายณัฐชา ยังกล่าวถึงการขอโครงการที่ไม่ควรทำ เช่น โครงการศูนย์คุ้มครองสวัสดิภาพกลุ่มเปราะบาง จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งปีที่แล้วของบ 48 ล้านบาท แต่ใช้ไปเพียง 3.6% และปีนี้ขออีก 41 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตว่า รัฐมนตรียังคงคิดว่าเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

related