SHORT CUT
สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ. งบฯ ปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ฉลุย! ตั้ง กมธ. 73 คน แต่เจอเหตุวุ่นไทยสร้างไทยเสนอชื่อซ้อน จนประธานสั่งพักประชุม
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ ซึ่งมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงินทั้งสิ้น 3.78 ล้านล้านบาท โดยการพิจารณานี้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 4 แล้ว
เวลา 16.00 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้สอบถามต่อที่ประชุมว่าจะรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 หรือไม่
ผลการลงมติจากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 482 เสียง ปรากฏว่ามีผู้ เห็นชอบ 322 เสียง ไม่เห็นชอบ 158 เสียง งดออกเสียงไม่มี และไม่ลงคะแนน 2 เสียง เป็นอันว่า ที่ประชุมมีมติ รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณารายละเอียดร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จำนวน 73 คน
เวลา 16.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของรัฐบาล ได้กล่าวขอบคุณประธานสภาฯ และสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่านที่ร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 69 ที่รัฐบาลนำเสนอด้วยความตั้งใจ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลตระหนักดีว่าการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ ทั้งวงเงินงบประมาณรายจ่าย มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกและสภาวะเศรษฐกิจในประเทศซึ่งมีปัจจัยรอบด้านที่ส่งผลกระทบและความไม่แน่นอน
นายกรัฐมนตรีแสดงความหวังอย่างยิ่งว่างบประมาณที่เสนอไปจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ โดยรัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา โดยคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณเพื่อรองรับปัญหาเร่งด่วน เสริมสร้างศักยภาพทุนมนุษย์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวทางยุทธศาสตร์ของชาติอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 69 มุ่งเน้นการ ฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ สร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงทรัพยากร รวมถึงมุ่งเน้นการ รักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ ให้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย สำหรับข้อสังเกตและข้อคิดเห็นต่างๆ ที่สมาชิกได้อภิปรายไว้ นายกรัฐมนตรีขอฝากให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ นำไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดครบถ้วนต่อไป
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งเรื่องการเมืองและสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยมั่นใจว่าทุกๆ ประเทศพร้อมร่วมมือช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ แม้การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายในการกำหนดทิศทางหรือหาข้อสรุปที่ชัดเจนในวันนี้ แต่รัฐบาลชุดนี้จะทุ่มเทแรงกายแรงใจทำนโยบายหลายอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สำเร็จเป็นรูปธรรม และจะใช้เม็ดเงินจากร่าง พ.ร.บ. นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน นายกรัฐมนตรีทราบดีว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่รัฐบาลมีหน้าที่บริหาร ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ และหากทั้งสองฝ่ายมุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก จะสามารถทำให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตและเห็นผลสำเร็จร่วมกันได้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญที่น่าสนใจนั้น รัฐบาลได้เสนอชื่อ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ขณะที่ พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายวีระ ธีรภัทร สื่อมวลชนชื่อดัง เข้าร่วมพิจารณางบประมาณด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พรรคไทยสร้างไทย ได้เกิดความวุ่นวายในการเสนอชื่อ เนื่องจากมีโควต้าเพียง 1 ที่นั่ง โดยนายกัณวีร์ได้เสนอชื่อนายชัชวาลย์เป็นกรรมาธิการ ขณะที่อีกฟากหนึ่งกลับเสนอชื่อนายฐากรเป็นกรรมาธิการ ทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้
กระทั่งเวลา 16.33 น. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน จึงได้สั่ง พักการประชุม ลงชั่วคราว
ทั้งนี้ ข่าวในแหล่งข่าวยังได้กล่าวถึงข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การทบทวนงบประมาณดิจิทัลวอลเล็ต การปรับราคารับซื้อปาล์ม และการปราบปรามปัญหานอมินี