svasdssvasds

เปิดระเบียบใหม่ราชทัณฑ์ "ทักษิณ" เข้าเกณฑ์ "คุมขังนอกเรือนจำ" หรือไม่

เปิดระเบียบใหม่ราชทัณฑ์ "ทักษิณ" เข้าเกณฑ์ "คุมขังนอกเรือนจำ" หรือไม่

ทักษิณ ชินวัตร อาจเข้าเกณฑ์การคุมขังนอกเรือนจำในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดที่มีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง เปิดขั้นตอนการพิจารณา "จำคุกนอกเรือนจำ" ต้องทำอย่างไร

SHORT CUT

  • กรมราชทัณฑ์ออกระเบียบใหม่ที่อนุญาตให้ผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ สามารถถูกคุมขังในสถานที่อื่นนอกเรือนจำได้ เช่น บ้านพัก หรือสถานพยาบาล
  • นายทักษิณ ชินวัตร อาจเข้าเกณฑ์การคุมขังนอกเรือนจำในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดที่มีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง ซึ่งต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
  • กระบวนการอนุมัติต้องผ่านการพิจารณาจากคณะทำงาน, ผู้บัญชาการเรือนจำ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ตามลำดับ โดยหากได้รับอนุมัติจะต้องเปิดเผยข้อมูลสถานที่คุมขังต่อสาธารณะ

ทักษิณ ชินวัตร อาจเข้าเกณฑ์การคุมขังนอกเรือนจำในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดที่มีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง เปิดขั้นตอนการพิจารณา "จำคุกนอกเรือนจำ" ต้องทำอย่างไร

วันนี้ (9 กันยายน 2568) เวลา 10.00 น. ถูกสังคมจับตาว่าเป็น "ดีเดย์" สำคัญของการเมือง และ กระบวนการยุติธรรมไทย เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาใน คดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งว่าด้วยประเด็นการบังคับโทษถึงที่สุด และการเข้าถึงสิทธิทางการรักษาพยาบาลระหว่างถูกคุมขัง

ด้าน ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญ ได้อธิบายถึงกรณีสถานที่คุมขังนอกเรืองจำ ที่โยงกับคดี นายทักษิณ โดยระบุว่า ประกาศกรมราชทัณฑ์ สถานที่คุมขังนอกเรือนจำ

ตามประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้าม และวิธีการคุมขังผู้ต้องขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมชัง พ.ศ. 2568 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับประกาศนี้ 3 ฉบับ คือ

พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 33 และมาตรา 34 กฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2563 ข้อ 3 และระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ข้อ 20

 

 

โดยต่อไปนี้จะขอเรียกประกาศกรมราชทัณฑ์ฉบับนี้ว่า ประกาศสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ ประกาศฉบับนี้ได้กำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขต่างๆ ในการคุมขังผู้ต้องขังในสถานที่อื่นนอกเรือนจำไว้

ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

1. กรณีสถานที่คุมขังเป็นสถานที่อยู่อาศัย

ผู้ต้องขังที่อยู่ในเกณฑ์ตามประกาศนี้ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องโทษจำคุกครั้งแรก หรือเป็นกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือเป็นนักโทษเด็ดขาดซึ่งเหลือโทษจำคุกต่อไปไม่เกิน 4 ปี หากมีการพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษให้ถือเอากำหนดโทษตามหมายแจ้งโทษเด็ดชาดหรือคำสั่งให้ลดโทษฉบับหลังสุด

ต้องผ่านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังจากคณะทำงานจำแนกลักษณะผู้ต้องขังประจำเรือนจำเพื่อกำหนดแผนการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายบุคคล (Sentence Plan) และนักโทษเด็ดขาดต้องสมัครใจในการออกไปคุมขังในสถานที่อื่นแทนเรือนจำ รวมทั้งต้องมีความเสี่ยงน้อยในการกระทำผิดซ้ำ

นอกจากนี้ นักโทษเด็ดขาดผู้นั้น ต้องไม่เคยถูกส่งออกไปคุมขังในสถานที่คุมขังอื่นและกระทำผิดเงื่อนไขหรือกระทำผิดอาญาในระหว่างถูกคุมขังในสถานที่คุมขังอื่น และต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดตามที่กำหนดไว้ เช่น ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นต้น

2. กรณีสถานที่คุมขังเป็นสถานพยาบาล

ผู้ต้องขังต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดที่คดีถึงที่สุดทุกคดี และมีอาการเจ็บป่วยร้ายแรง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาด เป็นผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง หรืออยู่ในภาวะวิกฤติเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือก่อให้เกิดความพิการ หรือไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง หรือเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะติดเตียง เป็นภาวะให้ผู้อื่นดูแล หรืออยู่ในภาวะพึ่งพิง (Dependent) และต้องมีใบรับรองความเห็นแพทย์ของทางราชการ จำนวน 2 คน ให้การรับรอง

 

 

 

 

นอกจากนี้ ตามประกาศสถานที่คุมขังนอกเรือนจำได้กำหนดเงื่อนไขต่างๆ ให้ผู้ต้องขังต้องปฏิบัติตามในระหว่างถูกคุมขังในสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ และกำหนดหลักเกณฑ์การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวกับผู้ต้องขัง การติดตั้งกล้องวงจรปิดในสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ รวมทั้งหลักเกณฑ์อื่นๆ ในการบังคับใช้และดำเนินการกับผู้ต้องขังในสถานที่คุมขังนอกเรือนจำด้วย

เพราะเหตุใด "ทักษิณ" อาจเข้าเกณฑ์คุมขังนอกเรือนจำ

ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในฐานะนักโทษเด็ดขาดที่เป็นผู้ป่วย และถูกส่งไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ซึ่งเรื่องนี้สามารถทำได้ตามกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ที่บอกไว้ว่า เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานว่า "ผู้ต้องขังคนใดป่วย มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต หรือเป็นโรคติดต่อ" ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาลของเรือนจำ และหากอาการไม่ดีขึ้น สามารถส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลของรัฐนอกเรือนจำได้ โดยผู้บัญชาการเรือนจำจะยึดความเห็นของแพทย์เป็นหลัก

แต่ในกฎกระทรวงฉบับนี้ มีข้อกำหนดถึงการพักรักษาตัวเป็นเวลานานระบุไว้ว่า 

“หากพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ” 

ขั้นตอนการพิจารณา "จำคุกนอกเรือนจำ"

กฎระเบียบใหม่ ผู้ต้องขังบางรายก็สามารถถูกคุมขังในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำได้ กระบวนการพิจารณาเรื่องนี้มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ใครมีอำนาจตัดสินใจ และทำไมต้องมีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ

ขั้นตอนที่ 1 เสนอชื่อเข้าที่ประชุม 

เริ่มต้นจาก คณะทำงาน ที่มีหน้าที่พิจารณาคุณสมบัติของผู้ต้องขังแต่ละราย ว่าใครมีโอกาสเข้าเกณฑ์ที่จะได้ไป "จำคุกนอกเรือนจำ" จากนั้นจึงรวบรวมรายชื่อและเสนอให้ ผู้บัญชาการเรือนจำ พิจารณา

ขั้นตอนที่ 2 ด่านสำคัญที่ผู้บัญชาการเรือนจำ 

เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายชื่อมาแล้ว จะมีผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ 2 อย่าง

  • เห็นชอบ: หากเห็นด้วยกับข้อเสนอ ก็จะส่งเรื่องพร้อมแผนการไปยัง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขออนุมัติขั้นสุดท้าย
  • ไม่เห็นชอบ: หากไม่เห็นด้วย จะตีเรื่องกลับและ ห้ามนำรายชื่อผู้ต้องขังคนเดิมกลับมาพิจารณาอีกเป็นเวลา 5 เดือน เพื่อไม่ให้มีการเสนอเรื่องซ้ำซ้อน

ขั้นตอนที่ 3 อธิบดีอนุมัติและเปิดเผยข้อมูล 

นี่คือขั้นตอนสุดท้ายและสำคัญที่สุด หาก อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อนุมัติ

เปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ กรมราชทัณฑ์จะเปิดเผยข้อมูลของสถานที่คุมขังบนเว็บไซต์ เพื่อความโปร่งใสและให้สาธารณชนสามารถตรวจสอบได้

ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ: ผู้บัญชาการเรือนจำจะส่งพนักงานลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานที่คุมขังจริง เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนด

ขั้นตอนที่ 4 การควบคุมและเงื่อนไขที่ต้องทำตาม 

เมื่อการอนุมัติเสร็จสิ้น ผู้ต้องขังจะถูกย้ายไปอยู่ยังสถานที่ที่กำหนด โดยมี ผู้ดูแลสถานที่คุมขัง ทำหน้าที่ควบคุมและดูแลให้ผู้ต้องขังปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อห้ามที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด

ขั้นตอนที่ 5 เพิกถอนได้หากไม่เป็นไปตามข้อตกลง 

หากระหว่างการคุมขังพบว่า สถานที่นั้นไม่เหมาะสม หรือผู้ต้องขังไม่ปฏิบัติตามกฎที่ตกลงกันไว้ คณะทำงานมีอำนาจยื่นเรื่องขอเพิกถอน การอนุญาตได้ทันที ทำให้ผู้ต้องขังต้องกลับไปรับโทษในเรือนจำตามเดิม การเพิกถอนนี้เป็นการรับประกันว่าการ "จำคุกนอกเรือนจำ" จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่รัดกุมและเป็นไปตามระเบียบที่วางไว้

ที่มา : กฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ , Thanakrit Vorathanatchakul

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related