
SHORT CUT
กกต. ส่งหนังสือเตือนพรรคการเมืองทั่วประเทศ ให้ระมัดระวังการดำเนินกิจกรรมใน 5 ประเด็นสำคัญ ซึ่งหากทำผิดกฎหมายอาจมีโทษร้ายแรงถึงขั้นเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและยุบพรรค
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง มอบหมายให้สำนักงาน กกต. มีหนังสือกำชับไปยังทุกพรรคการเมืองทั่วประเทศ ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในช่วงก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
หนังสือดังกล่าวครอบคลุม 5 ประเด็นสำคัญ ที่พรรคการเมืองต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีโทษร้ายแรงตั้งแต่จำคุก ปรับ ไปจนถึงเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือยุบพรรค
พรรคการเมืองต้องดำเนินการรับสมัครสมาชิกอย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับของพรรค ห้ามให้หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ใดๆ เพื่อจูงใจให้บุคคลสมัครเป็นสมาชิก เว้นแต่สิทธิประโยชน์ที่สมาชิกพึงได้รับโดยชอบ หากกระทำผิดอาจเป็นเหตุให้พรรคถูกยุบได้
กรณีแอบอ้างว่า สมาชิกบางคนสมัครโดยไม่รู้เห็น หรือนายทะเบียนสมาชิกจัดทำทะเบียนเท็จ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
พรรคต้องแจ้งการจัดตั้งสาขาและแต่งตั้งตัวแทนประจำจังหวัดให้เป็นไปตามประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ปี 2566 หากไม่แจ้งภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด จะถูกปรับไม่เกิน 50,000 บาท และปรับเพิ่มวันละ 1,000 บาทจนกว่าจะดำเนินการถูกต้อง
พรรคการเมืองต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกอย่างกว้างขวาง ตามมาตรา 49–51 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง และเป็นไปตามประกาศ กกต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมสมาชิกเพื่อสรรหาผู้สมัคร ส.ส. หากหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหาร หรือตัวแทนพรรคในจังหวัดละเมิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
กรณีหัวหน้าพรรคออกหนังสือรับรองผู้สมัครเท็จ โทษหนักถึงจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
พรรคการเมืองต้องเปิดเผยรายละเอียดเชิงงบประมาณและผลกระทบของนโยบายอย่างโปร่งใส โดยเฉพาะนโยบายที่ต้องใช้เงิน ต้องระบุอย่างน้อย 3 รายการ ได้แก่
(1) วงเงินและที่มาของงบประมาณ
(2) ความคุ้มค่าและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น
(3) ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินการ
หากไม่ปฏิบัติตาม มีโทษปรับสูงสุด 500,000 บาท และปรับเพิ่มวันละ 10,000 บาทจนกว่าจะดำเนินการถูกต้อง
คณะกรรมการบริหารพรรคมีหน้าที่กำกับดูแลไม่ให้สมาชิก หรือบุคคลในพรรคกระทำการที่อาจทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต หรือไม่เที่ยงธรรม หากละเลยจะถูกพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ในพรรคเป็นเวลา 20 ปี
รวมถึงห้ามกระทำการก้าวก่าย หรือแทรกแซงกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือการแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งทางการเมือง
กกต.ต้องการให้พรรคการเมืองทุกพรรคยึดมั่นในหลักนิติธรรมและความโปร่งใส เพื่อพัฒนาให้พรรคเป็น “สถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง” และเป็นกลไกหลักในการพัฒนาประชาธิปไตยไทยภายใต้ระบอบ “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” อย่างแท้จริง
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง