svasdssvasds

อยากรู้ต้องอ่าน! เสริมหน้าอกให้ปลอดภัย ทำนมทรงไหนก็มั่นใจแน่นอน

อยากรู้ต้องอ่าน! เสริมหน้าอกให้ปลอดภัย ทำนมทรงไหนก็มั่นใจแน่นอน

การเสริมหน้าอกมีหลากหลายวิธี หลากหลายเทคนิค ใครที่กำลังสนใจ อยากต้องทราบเกี่ยวกับการทำหน้าอกเพิ่มเติม ไขข้อสงสัยไปพร้อมๆ กัน

เป็นไหม? แต่งตัวแล้วยังดูไม่มีส่วนเว้า ส่วนโค้ง ส่วนนูน รูปร่างดูขาดมิติ ทำให้หลายคนเลือกการทำนมเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เห็นผล และสร้างความมั่นใจได้ในพริบตา ซึ่งการเสริมหน้าอกมีหลากหลายวิธี หลากหลายเทคนิค ใครที่กำลังสนใจ อยากต้องทราบเกี่ยวกับการทำหน้าอกเพิ่มเติม เราจะมาไขข้อสงสัยไปพร้อมๆ กัน

รูปแบบการทำนม

ก่อนจะไปขึ้นเตียงเสริมหน้าอก เพิ่มความมั่นใจอย่างจริงจังนั้นเรามารู้จักรูปแบบการทำนมกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าการทำนมแต่ละรูปแบบมีจุดเด่น มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งรูปแบบการทำนมมีทั้งหมด 3 รูปแบบดังนี้

Alt: รูปแบบทำนม

เสริมหน้าอกไฮบริด

เป็นการผสมผสานของทั้งสองวิธีทั้งแบบซิลิโคน และแบบฉีดไขมัน เทคนิคใหม่ในการเสริมหน้าอก ให้ใหญ่ขึ้น ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นหลายไซส์จากการใส่ซิลิโคน แต่ยังต้องการความเป็นธรรมชาติด้วยการเติมไขมัน เนื่องจากกลัวหน้าอกดูเป็นบล็อก

เสริมหน้าอกมีเทคนิคแบบใดบ้าง

การทำนมยังมีเทคนิคหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละเทคนิคในการเสริมหน้าอกจะมีความเหมาะสมในคนไข้ต่างกันออกไป แบ่งได้เป็น 3 เทคนิค ดังนี้

1. เสริมนมเหนือกล้ามเนื้อ

เป็นการเสริมซิลิโคนไว้บนกล้ามเนื้อหน้าอก เหมาะกับคนที่มีเนื้อและไขมันที่หน้าอกเยอะ สามารถทำได้ง่าย พักฟื้นไม่นาน ผลข้างเคียงน้อย แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้น้ำนมมีสารปนเปื้อน หรือผู้ที่มีเนื้อและไขมันที่หน้าอกน้อย เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

2. เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ

เป็นการเสริมซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก เหมาะกับคนที่มีเนื้อและไขมันที่หน้าออกน้อย ใช้เวลาทำนาน พักฟื้นนาน แต่จะช่วยให้หน้าอกดูกระชับเป็นธรรมชาติ โอกาสเกิดปัญหาพังผืด หน้าอกแข็งได้น้อยกว่า

 

 

 

 

3. เสริมนม Dual Plane

วิธีนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นการเสริมซิลิโคนแบบกึ่งใต้กล้ามเนื้อ โดยซิลิโคนส่วนบนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อ ซิลิโคนส่วนล่างอยู่บนกล้ามเนื้อ ซึ่งจะเป็นการนำข้อดีของการเสริมหน้าอกทั้งสองแบบมาไว้ด้วยกัน ช่วยให้รูปทรงของหน้าอกดูสวยเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ซิลิโคนทำนม

 หลายคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมหน้าอก หรือกำลังตัดสินใจจะทำหน้าอกคงลังเลใจมากๆ โดยเฉพาะเรื่องจะทำนมทรงไหนดีถึงจะเหมาะกับตัวเอง บางคนอยากได้ใหญ่ อยากได้พอดีไม่เยอะเกิน จะเลือกหน้าอกทรงไหน ซิลิโคนทำนมแบบไหนดี? เพราะเป็นรายละเอียดสำคัญที่จะทำให้การศัลยกรรมออกมาสวยหลายๆ คนจึงคิดเยอะหน่อย เดี๋ยวเราลองมาดูรายละเอียดเกี่ยวกับซิลิโคนก่อนตัดสินใจทำนมกัน

ทรงซิลิโคนหน้าอก

ปกติแล้วการเสริมหน้าอกจะมีทรงซิลิโคนให้คนไข้เลือกด้วยกัน 2 แบบ

• ซิลิโคนทรงกลม : มีความยืดหยุ่น เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มขนาดให้ดูใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องการเติมเต็มบางส่วนบริเวณของเต้านม หน้าอกหย่อน ไม่ค่อยมีเนินอก

• ซิลิโคนทรงหยดน้ำ : เป็นทรงมีความคล้ายลักษณะหยดน้ำ ที่ช่วงบนจะแบน และช่วงล่างจะป่องดูมีน้ำหนัก ลักษณะซิลิโคนทรงนี้จะมีความคล้ายคลึงกับหน้าอกแบบธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมหน้าอกแบบเสมือนของจริง ไม่ต้องการให้ดูใหญ่จนเกินไป

 

ผิวซิลิโคนหน้าอก

 นอกจากทรงซิลิโคนหน้าอกที่คนไข้ต้องตัดสินใจตามความต้องการแล้ว ยังมีผิวซิลิโคนหน้าอก 3 แบบที่มีให้คนไข้ตัดสินใจเลือกด้วยเช่นกัน เพราะผิวซิลิโคนมีผลต่อการเกิดพังผืดภายในร่างกายของเรา ซึ่งแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกันออกไป ได้แก่

•  ซิลิโคนผิวเรียบ : มีผิวเรียบ มีโอกาสเกิดริ้วรอยน้อยกว่าซิลิโคนผิวทราย แต่ต้องดูแลด้วยการนวดเต้านมบ่อยๆ เพื่อลดการเกิดพังผืด 

• ซิลิโคนผิวทราย : มีเนื้อละเอียดช่วยยึดเกาะกับเนื้อเยื่อ ทำให้ไม่ค่อยเคลื่อนตำแหน่ง มีความนิ่มมากกว่าซิลิโคนผิวเรียบ โอกาสเกิดพังผืดน้อย

• ซิลิโคนผิวกำมะหยี่ : เป็นซิลิโคนกึ่งเรียบกึ่งทราย มีทั้งความนิ่ม โอกาสเกิดพังผืดน้อย ไม่จำเป็นต้องนวดเต้านมบ่อยๆ 

ซิลิโคนน้ำเกลือหรือซิลิโคนเจล

 เลือกทรงซิลิโคน ผิวซิลิโคนกันเรียบร้อยแล้ว หลายๆ คนคงเกิดความสงสัยถึงสิ่งที่อยู่ภายในซิลิโคนว่าคืออะไร เป็นสารที่เป็นอันตรายหรือไม่ หลายคนกังวลว่าถ้าซิลิโคนแตก สารเหล่านั้นเข้าร่างกายเป็นอะไรหรือไม่? เราจะมาอธิบายกัน ว่าสารภายในซิลิโคนจะมี 2 แบบ คือ

• ซิลิโคนน้ำเกลือ : เป็นซิลิโคนที่ภายในบรรจุน้ำเกลือ ซึ่งน้ำเกลือไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากซิลิโคนรั่วร่างกายสามารถดูดซึมได้ตามธรรมชาติ แต่ข้อเสียคือหน้าอกข้างที่มีการรั่วจะมีขนาดเล็กลง

• ซิลิโคนเจล : ภายในบรรจุด้วยเนื้อเจลที่มีความยืดหยุ่นหลากหลายทั้งแบบแข็ง แบบนิ่ม แม้จะเป็นที่นิยมของการเสริมหน้าอกในปัจจุบัน แต่หากมีการรั่วขึ้นจะน่ากังวลกว่าแบบน้ำเกลือ เพราะร่างกายจะมองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และสร้างพังผืดขึ้นมา นอกจากนั้นอาจลามไปถึงการติดเชื้อที่หน้าอกได้ มีโอกาสเสี่ยงถึงชีวิตได้หากไม่รีบพบแพทย์

ทำนมมีแผลไหม

 เป็นคำถามที่สงสัยกันจำนวนมากถึงการเสริมหน้าอก ทำนมในปัจจุบันว่ามีแผลไหม มีแผลจุดใดบ้างถ้าทำหน้าอก ซึ่งปกติแล้วการเสริมหน้าอกจะมีแผลอยู่ 3 บริเวณ ได้แก่ ใต้รักแร้ รอบปานนม และใต้ราวนม โดยแต่ละบริเวณจะมีความเจ็บ และแผลหลังทำที่แตกต่างกันออกไป

 อย่างรอบปานนมจะเป็นตำแหน่งที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม เมื่อเทียบกับใต้ราวนมซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความนิยม เพราะทิ้งแผลผ่าตัดไว้น้อย และฟื้นตัวเร็ว ไม่เจ็บมาก นอกจากนั้นใต้รักแร้ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน สาเหตุเพราะมักจะไม่เกิดปัญหาเรื่องแผลคีลอยด์ 

พออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจทำให้หลายคนที่กำลังอยากทำนมสงสัยว่าแผลคีลอยด์คืออะไร?

คีลอยด์คือ

 คีลอยด์ คือ แผลเป็นชนิดหนึ่งที่มีลักษณะนูนมีสีแดง ชมพูเข้ม หรือมีสีเข้มกว่าสีผิวหนัง ซึ่งคีลอยด์อาจขยายพื้นที่ได้ใหญ่กว่าขนาดแผลเดิม ด้วยลักษณะนี้ของคีลอยด์มักทำให้ผู้ที่มีแผลชนิดนี้เกิดความไม่มั่นใจในบริเวณผิวหนังที่มีคีลอยด์ขึ้น แต่ความจริงแล้วคีลอยด์ไม่ใช่แผลที่อันตราย และสามารถรักษาให้หายได้ โดยจะรักษาด้วยตัวเอง หรือเข้ารับการรักษาคีลอยด์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ผ่าตัด เลเซอร์ ฉีดสเตียรอยด์ เป็นต้น

ก่อนเสริมหน้าอก ทำอย่างไร

ก่อนจะเสริมหน้าอกหลายๆ ท่านความเตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัดอัพไซซ์ความสวย ความมั่นใจ ซึ่งวิธีการเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก ได้แก่

• ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการทำนม แพทย์จะซักประวัติต่างๆ เพื่อประเมินการผ่าตัดเสริมหน้าอก

• เตรียมร่างกายให้พร้อม เช่น ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจแมมโมแกรม ตรวจอัลตร้าซาวด์ เป็นต้น

• 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาบางชนิด เช่น แอสไพริน  วิตามินอาหารเสริม สมุนไพร

• พักผ่อนให้เพียงพอ

• งดดื่มเครื่องดื่มทุกชนิด และงดรับประทานอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง

Alt: ทำนมราคา

การดูแลตนเองหลังเสริมหน้าอก

หลังเสริมหน้าอกสาวๆ ควรดูแลตัวเอง แม้จะสวยขึ้นแล้ว มั่นใจขึ้นแล้ว แต่การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกมาก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งวิธีการดูแลสามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ยาก ได้แก่

• ไม่ควรขยับตัวมากหลังทำหน้าอกเสร็จใหม่ๆ 

• ให้ความสำคัญในการทำความสะอาด หมั่นทำความสะอาดแผลทุกวัน งดการโดนน้ำ จนแผลแห้งซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน

• ควรนอนหงาย หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ นอนตะแคง

• ในช่วง 1  เดือนแรกหลังทำ เลือกใส่สปอร์ตบราแทนบราอื่นๆ แทน และระวังไม่ให้หน้าอกกระแทกกับอะไรแรงๆ 

• พันผ้าหลังทำนมเป็นเวลา 2 สัปดาห์

• งดออกกำลังกายหนัก โดยเฉพาะท่าออกกำลังกายที่มีการใช้แขน

• ดูแลอาหารการกิน ไม่รับประทานของแสลงต่อแผลผ่าตัด เช่น ของหมักดอง อาหารทะเล

• นวดหน้าอกประจำเพื่อให้หน้าอกมีความสวยงาม ซึ่งขึ้นอยู่กับซิลิโคนที่ใส่ และตามคำแนะนำแพทย์

ทำนมอยู่ได้กี่ปี

เสริมหน้าอกอยู่ได้กี่ปี? ปัจจุบันซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอกมีการพัฒนากว่าอดีตมากขึ้นทำให้มีอายุการใช้งานได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น เมื่อเสริมหน้าอกแล้วสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิต แต่ก็ยังต้องหมั่นตรวจสุขภาพ ตรวจเช็คหน้าอก โดยเฉพาะผู้ที่เสริมหน้าอกมานานเกิน 10 ปี รวมถึงดูแลหน้าอกตัวเองอยู่เสมอ 

สรุปเรื่องทำนม

การทำนมเป็นการศัลยกรรมรูปร่างบริเวณหน้าอกที่ช่วยเพิ่มขนาดของหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าก่อนทำ ซึ่งมีหลากหลายวิธีทั้งการใช้ซิลิโคน ใช้ไขมันตัวเองในการทำนม ซึ่งการทำนมเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และยังคงได้รับมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน เสริมหน้าอกที่ไหนดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด ฉะนั้นการทำนมเราควรจะเลือกสถานที่ในการเสริมหน้าอกที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน มีประสบการณ์ในด้านนี้โดยเฉพาะ 

 ซึ่งทาง Amara Clinic ตอบโจทย์ทั้งในความปลอดภัย มีมาตรฐาน และประสบการณ์ ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้มามากมาย ทำให้คนไข้นอกจากการทำนมแล้วได้รับความมั่นใจในรูปร่างกลับบ้านแล้ว ยังได้รับความปลอดภัย และการใส่ใจดูแลหลังทำอย่างดี หมดกังวลเรื่องการทำนมไปได้ทันที

related