svasdssvasds

กรมวิชาการเกษตร วิจัยต่อยอด เพิ่มมูลค่า พืชสมุนไพรไทย เกษตรกรยั่งยืน

กรมวิชาการเกษตร วิจัยต่อยอด เพิ่มมูลค่า พืชสมุนไพรไทย เกษตรกรยั่งยืน

จากกระแส รักสุขภาพ (Health Conscious) ที่เพิ่มมากขึ้น กรมวิชาการเกษตร วิจัยต่อยอด เพิ่มมูลค่า พืชสมุนไพรไทย อนาคตสดใส รายได้มั่นคง เกษตรกรยั่งยืน

จากกระแส รักสุขภาพ (Health Conscious) ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ แนวทางขับเคลื่อนพืชสมุนไพรเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรม ของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2566 – 2570  โดยมีเป้าหมายเร่งการส่งเสริมการแปรรูปพืชสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่าสู่ อาหารสุขภาพและอาหารสัตว์สมุนไพร ที่หลากหลาย เช่น อาหารฟังก์ชัน , อาหารใหม่ (Novel Food)  อาหารนวัตกรรมใหม่ (innovative food) อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) และอาหารอินทรีย์

นอกจากนี้ภาครัฐเร่งส่งเสริมการฟื้นฟูผู้ป่วยระยะหลังโควิด-19 ด้วยพืชสมุนไพร อาโวคาโด เป็นต้น  การส่งเสริมการผลิตพืชสมุนไพรเพื่อป้อน โรงงานสกัดสารมูลค่าสูง ในพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ผ่านการส่งเสริมการลงทุนของ บีโอไอ ที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแล้วหลายโครงการ คิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ร่วมไปถึง การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาพืชสมุนไพรสู่ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์สมุนไพร ล้วนส่งผลให้มีความต้องการวัตถุดิบพืชสมุนไพรจำนวนมาก  พืชสมุนไพรมีการปลูกมากถึง 1.15 ล้านไร่ แต่ผ่านการรับรองมาตรฐานเพียง  6.4 หมื่นไร่ หรือ 5.6 % ทำให้ มาตรฐานการผลิตสินค้าพืชสมุนไพร ยังไม่ตอบสนองของอุตสาหกรรม เกิดปัญหาด้านคุณภาพที่หลากหลาย ล้วนต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานทางการแพทย์ 

"มะขามป้อม" กรมวิชาการเกษตร วิจัยต่อยอด เพิ่มมูลค่า พืชสมุนไพรไทย เกษตรกรยั่งยืน

กรมวิชาการเกษตร” เป็นหนึ่งในหน่วยงานสำคัญที่ทำการวิจัยพืชสมุนไพรและเครื่องเทศเศรษฐกิจมากกว่า 20 ชนิด เพื่อให้ได้ผลผลิตตามมาตรฐาน GAP พืชอาหาร (มกษ.9001-2556) เดิมมุ่งพัฒนาด้านเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ยกระดับคุณภาพและปลอดโรค รวมทั้งยังได้รวบรวมและอนุรักษ์พันธุ์พืชสมุนไพรไทยจากทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 200 ชนิด

ปัจจุบัน กรมวิชาการเกษตร เร่งวิจัย เพื่อเป็น ยกระดับพืชสมุนไพรสู่สู่ มาตรฐานใหม่ GAP พืชสมุนไพร (มกษ.3502-2561)  ตามเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข  11 ชนิด ได้แก่  ขมิ้นชัน บัวบก กระชายดำ มะขามป้อม ฟ้าทะลายโจร พลูคาว ว่านหางจระเข้ หญ้าหวาน มะแขว่น กระดอม และจันทน์เทศ (แผนแม่บทว่าด้วยสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่1 ) รวมถึงศึกษากระตุ้นการเพิ่มสารสำคัญในกล้วยไม้สมุนไพรไทยและการเพาะเลี้ยงรากของตังกุยและโสมให้ได้ สารจินเซนโนไซด์ ในห้องปฏิบัติการแทนการปลูกในแปลง

"ไพล" กรมวิชาการเกษตร วิจัยต่อยอด เพิ่มมูลค่า พืชสมุนไพรไทย เกษตรกรยั่งยืน

ในอนาคต (ปี 2568 – 2570) กรมวิชาการเกษตรจะเร่งวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับพืชสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ให้เข้าสู่มาตรฐาน  GAP พืชสมุนไพร อีก 4 ชนิด ได้แก่ กระชาย ไพล เพชรสังฆาต และมะระขี้นก (แผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2)  และเร่งสร้างชุดเทคโนโลยีการผลิตพืชสมุนไพรเชิงอุตสาหกรรม 3 ชนิด ได้แก่ ขมิ้นชัน บัวบก และว่านหางจระเข้

ทั้งนี้ งานวิจัยพัฒนาพืชสมุนไพรของกรมวิชาการเกษตร จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกร /ภาคเอกชน สามารถผลิตวัตถุดิบสมุนไพรได้ตาม มาตรฐานสมุนไพรไทย (Thai Herbal Pharmacopoeia)  ยกระดับทั้งปริมาณผลผลิตและปริมาณสารสำคัญให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานทางการแพทย์ ปลอดภัยจากสารพิษและโลหะหนัก  เป็นผลผลิตที่เป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อป้อนวัตถุดิบให้กับ ภาคอุตสาหกรรมการแปรรูป เช่น ยาสมุนไพร  อาหารเสริมสุขภาพ เวชสำอาง และต่อยอดสู่อาหารและอาหารสัตว์สมุนไพร ซึ่งจะสร้าง อนาคตที่สดใส และ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่เกี่ยวเนื่องอย่างยั่งยืน

related