svasdssvasds

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม "มิสลิลลี่ ฟาร์มา"

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม "มิสลิลลี่ ฟาร์มา"

ม.ขอนแก่น ร่วมทุน มิสลิลลี่ เปิดบริษัทโฮลดิ้ง ปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม "มิสลิลลี่ ฟาร์มา" ดันนวัตกรรม "แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชั่น" สู่ตลาดโลก ขณะที่ตลาดภายในประเทศพร้อมวางจำหน่าย ตามโรงพยาบาล ร้านขายยาและโมเดิร์นเทรดชั้นนำทั่วไป ภายในเดือนเมษายนนี้

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 29 มี.ค.2565 ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ผศ.นพ.ธรา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกที่ มข.ได้ร่วมกับภาคเอกชนในการเปิดบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีบริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด เป็นผู้ร่วมทุนในการจัดตั้งบริษัท เคเคยู มิส ลิลลี่ โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดยที่มิส ลิลลี่ ถือหุ้น 51% และมหาวิทยาลัยฯ ถือ 49% ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมรวมถึงสภามหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ต้องการผลักดันงานวิจัยเชิงพาณิชย์ ร่วมกับภาคเอกชน ด้วยทางมหาวิทยาลัยฯ มีทรัพยากรและบุคลากรที่มีศักยภาพในการทำงานวิจัย แต่ติดข้อจำกัดในเรื่องกฎระเบียบราชการและเวลาการทำงานของอาจารย์นักวิจัยที่มีภาระด้านงานสอน จึงไม่สามารถทำให้งานวิจัยออกมาใน รูปแบบผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม \"มิสลิลลี่ ฟาร์มา\"

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม \"มิสลิลลี่ ฟาร์มา\"

"งานวิจัยในมหาวิทยาลัยฯส่วนใหญ่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดจึงไม่ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของท่านอธิการบดี ที่ผลักดันให้เกิดการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้น ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ จึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีศักยภาพและมีมุมมองในการสร้างธุรกิจ อย่างมิส ลิลลี่ เพื่อก่อตั้งคณะทำงานในรูปแบบผสมผสาน ที่รวมเอาจุดแข็งในด้านต่างๆ 

ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัย เครื่องมือ และองค์ความรู้ เข้าด้วยกันเพื่อผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่างานวิจัยที่ดำเนินการโดยภาคเอกชนหรือภาครัฐเพียงลำพัง โดยบริษัทโฮลดิ้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมด้านสุขภาพและเทคโนโลยีในสาขาต่างๆ ที่สามารถส่งออกไปสู่ตลาดโลก”

ขณะที่ นายเรวัต จินดาพล ผู้ก่อตั้ง บริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด ผู้บุกเบิกธุรกิจสั่งดอกไม้ออนไลน์เจ้าแรกของประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยฯ ในการสร้างสตาร์ทอัพ โดยใช้แนวคิดในการสร้างงานวิจัยออกสู่ตลาด มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่ออกมา Disrupt ตลาดในปัจจุบัน และต้องมีจุดเด่นที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ที่จะมอบแก่ผู้คน ชุมชน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ บริษัทฯ จึงใช้การวิเคราะห์และสร้างรูปแบบธุรกิจ (Business Model) เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางด้านการตลาดและใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันกับผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ในตลาด 

บริษัทฯ ยังได้ส่งทีมนักวิทยาศาสตร์เข้าทำงานวิจัยในห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยฯ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 รวมถึงทีมงานสาขาแพทย์ศาสตร์,เภสัชกรรม และวิศวกรรมศาสตร์ เข้ามาร่วมทำงานกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ จึงเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในรูปแบบไฮบริด เพื่อตัดข้อจำกัดในรูปแบบระบบราชการ ทำให้โครงการมีความคืบหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นตัวอย่างได้อย่างชัดเจนจากการที่บริษัทฯ สามารถนำผลงานวิจัย แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชั่น จากห้องวิจัยออกมาสู่โรงงานผลิตได้ภายในระยะเวลาเพียง 7 เดือน

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม \"มิสลิลลี่ ฟาร์มา\"

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม \"มิสลิลลี่ ฟาร์มา\"

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม \"มิสลิลลี่ ฟาร์มา\"

"บริษัท ลิลลี่ ฟาร์มา จำกัด  เป็นสตาร์ทอัพไฮบริดบริษัทแรกของบริษัทโฮลดิ้ง ได้นำผลงานวิจัยด้านแอนโดร กราโฟไลด์ นาโน อิมัลชั่น มาพัฒนาขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสเปรย์พ่นคอ โดยจดแจ้งทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นเครื่องสำอาง เพื่อความรวดเร็วในการนำสินค้าสู่ตลาด ทั้งนี้หากจดทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ยาอาจใช้เวลานาน 3-5 ปี ซึ่งจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที 

จากผลการศึกษาผลงานวิจัยพบว่า แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชั่น มีอนุภาคเล็กกว่า 50 นาโนเมตร จะถูกดูดซึมได้ไวกว่าทานยาเม็ดถึง 8 เท่าซึ่งคุณสมบัติของแอนโดรกราโฟไลด์ ได้รับการยืนยันจากผลงานวิจัยในหลายประเทศว่า สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ตรวจจับการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติ และระงับการปล่อยสารอักเสบ ด้วยคุณสมบัติ 3 ข้อนี้ สามารถต่อยอดพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ได้อีกมากมาย 

โดยในขั้นต้น ลิลลี่ ฟาร์มา ได้ทำการทดสอบในผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม และได้เก็บข้อมูลเชิงสถิติ พบว่าให้ผลดีจริง จึงเร่งทำการผลิตเพื่อให้สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ได้ทันความต้องการของตลาด การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเครื่องสำอางทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตออกมาจำหน่ายได้รวดเร็วโดยเริ่มที่ร้านขายยาและโรงพยาบาลทั่วประเทศ เช่น ร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกำลังเจรจากับร้านขายยาในกลุ่มโมเดิร์นเทรดไม่ว่าจะเป็น 
ร้านยา eXta ในเซเว่น อีเลฟเว่น, ร้านยา Pure ในบิ๊กซี ,ร้านยาในโลตัส รวมถึงร้านขายยาเครือใหญ่ เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น 

ซึ่งผู้ที่สนใจ “N DRO CARE” สเปรย์พ่นคอสูตรแอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชั่น จากลิลลี่ ฟาร์มา ได้ตามร้านค้าในโรงพยาบาล ร้านขายยา และโมเดิร์นเทรดชั้นนำทั่วไป ในเดือนเมษายนนี้ สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ไลน์ @lilypharma"

ม.ขอนแก่น เปิดบริษัทปั้นสตาร์ทอัพไทยโกอินเตอร์ ประเดิม \"มิสลิลลี่ ฟาร์มา\"

ด้าน  เภสัชกร พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ กล่าวว่า   จากการได้ร่วมเป็นชุมชนต้นแบบทดลองใช้ แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชั่น ในรูปแบบของสเปรย์พ่นคอ ที่ได้จากห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ ธ.ค.2564 - มี.ค. 2565 และได้เริ่มต้นแจกจ่ายให้ประชาชนในงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ในเมืองยะลา 500 กว่าคน และนักเรียนในโรงเรียนเทศบาลทั้ง 5 โรงเรียนในพื้นที่เทศบาลนครยะลาจำนวนกว่า 3,000 คนรวมถึงผู้ร่วมกิจกรรมงานประกวดนกเขา 2,000 กว่าคน 

พบว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนได้มีการใช้สเปรย์พ่นคอให้กับนักเรียนทุกคน จนทำให้โรงเรียนกลับมาเปิดเรียนปกติ ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้นับเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ จ.ยะลาเปิดเมืองได้อีกครั้ง เพื่อให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

related