svasdssvasds

#ล้างหนี้กยศ พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวทวิตไม่เห็นด้วย กู้เอง ต้องใช้คืนเอง

#ล้างหนี้กยศ พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวทวิตไม่เห็นด้วย กู้เอง ต้องใช้คืนเอง

#ล้างหนี้กยศ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 หลังมีแคมเปญล่ารายชื่อ 10,000 รายชื่อผลักให้รัฐบาลมาเป็นลูกหนี้แทนผู้กู้หลังสำเร็จการศึกษา อ้างลดแรงจูงใจเกิดความเหลื่อมล้ำ ชาวทวิตถกกันสนั่น เงินภาษีประชาชน กู้เอง ต้องใช้คืนเอง “สิทธิ” และ “หน้าที่” ต้องรู้จักแยกให้ชัดเจน

หลังจากแฮชแท็ก #ล้างหนี้กยศ ถูกวิจารณ์สนั่นจนพุ่งขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว ภายหลังมีการแชร์ข้อความเชิญชวนลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เพื่อยื่นแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือที่เรียกกันว่า กฎหมายล้างหนี้ กยศ. ต่อรัฐสภา

#ล้างหนี้กยศ พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวทวิตไม่เห็นด้วย กู้เอง ต้องใช้คืนเอง

โดยให้รัฐบาลมีกลไกเข้ามาเป็นลูกหนี้แทนผู้กู้หลังสำเร็จการศึกษา 2 ปี พร้อมกับช่องทางลงชื่อผ่านเว็บไซต์ที่ชื่อว่า “ศูนย์วิจัยรัฐสวัสดิการ” ซึ่งในเว็บไซต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ ร่างกฎหมายดังกล่าว โดยที่มาระบุว่า ปัจจุบันหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ กยศ. สูงมากกว่า 60% และก่อหนี้โดยเฉลี่ย 150,000-200,000 บาทต่อคน ใช้เวลาผ่อนชำระถึง 15 ปี

และส่วนที่ชำระสูงสุดอาจถึง 50% ของค่าจ้างขั้นต่ำ หรือ 30% ของเงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น สภาพหนี้สินได้ลดแรงจูงใจในการเริ่มชีวิตประกอบธุรกิจ ใช้ชีวิตตามมาตรฐานสังคม รวมถึงการเข้าแหล่งทุนเพื่อการลงทุนต่างๆ ในช่วงเวลาสำคัญที่สุดของชีวิต

หนี้สินยังลดตัวทวีคูณทางเศรษฐกิจของบัณฑิตจบใหม่ ที่ไม่สามารถเพิ่มรายได้ หรือเปลี่ยนสายงานที่ถนัดได้ การคงอยู่ของสภาพหนี้สินจึงก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำมหาศาล ซึ่งทำลายเสรีภาพด้านการดำรงชีวิต สิทธิพื้นฐานในการแสวงหาความรู้ และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ซึ่งขัดกับในรัฐธรรมนูญมาตรา 4 แห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งระบุว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาคประชาชนจึงขอร่วมลงรายชื่อด้วยกันเพื่อให้เกิดการยกเลิกหนี้คงค้างเงินกู้ กยศ. สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาครบ 2 ปีแล้วทุกคน โดยให้สิทธิประโยชน์นี้ไม่มีผลย้อนหลังสำหรับผู้ที่ได้ชำระไปแล้ว เห็นเป็นการสมควรปรับปรุง พ.ร.บ.กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยแก้ไข มาตรา 44 เพิ่มเติม วรรคที่ 5 “ให้ผู้ทำการกู้ที่สำเร็จการศึกษาเกินสองปีและยังคงมียอดกู้คงเหลือให้ถือว่าสิ้นสุดสัญญาเงินกู้ โดยให้กองทุนเก็บยอดหนี้คงค้างจากรัฐบาลต่อไป

เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้ จึงทำให้ #ล้างหนี้กยศ เกิดขึ้นมาและมีชาวทวิตเตอร์มากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างแพร่หลายในหลายแง่มุมทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะหลายๆคนก็บอกว่า เป็นหนี้ที่เราต้องใช้ เพราะเรากู้เอง หรือบอกว่าสิ่งที่ควรแก้คือการทำจิตอาสาก่อนการกู้ต่างหาก และในเมนชั่นของทวิตเตอร์นั้น ก็มีการโต้เถียงกันอย่างหนัก เช่น

#ล้างหนี้กยศ พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวทวิตไม่เห็นด้วย กู้เอง ต้องใช้คืนเอง #ล้างหนี้กยศ พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวทวิตไม่เห็นด้วย กู้เอง ต้องใช้คืนเอง

#ล้างหนี้กยศ พุ่งเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวทวิตไม่เห็นด้วย กู้เอง ต้องใช้คืนเอง

“กู้เอง ก็ต้องใช้คืนเองสิ จะล้างหนี้อะไร เงินภาษีประชาชนทั้งนั้น เราคือคนนึงที่จ่ายคืนทุกเดือนไม่เคยขาด เพราะมันคือหน้าที่ที่ต้องทำ มันคือสิ่งที่ถูกต้อง บางทีเราควรแยก “สิทธิ” และ “หน้าที่” ให้ชัดเจนนะ อย่าเอามาปนกันมั่วๆ แท็กคิดน้อยมาก #ล้างหนี้กยศ”

ต้องเรียกว่าการ #ยกเลิกการกู้กยศ ไม่ใช่ #ล้างหนี้กยศ ยกเลิกโครงการนี้ซะ แล้วรัฐต้องเข้ามาสนับสนุนการศึกษาประชาชนทุกคน ให้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ ล้างหนี้ไม่ได้ คนที่เป็นหนี้ก็ใช้หนี้ให้หมดไม่ใช้หนีหนี้ให้ผู้ค้ำซวยและยกเลิกไม่ให้ต้องมีการกู้หนี้ยืมสินเพื่อการศึกษาอีก

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ณ วันที่ 28 ก.พ. 2565 พบว่า ตั้งแต่ กยศ.เปิดให้กู้ยืมตั้งแต่ปี 2539 ได้ปล่อยกู้แก่นักเรียน นักศึกษาแล้ว 6,215,161 คนชำระหนี้แล้วเสร็จ 1,565,712 คน หรือคิดเป็น 25% ของผู้กู้ยืมทั้งหมด อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,521,858 คน หรือ 57% อยู่ระหว่างการปลอดหนี้ 1,060,259 คน หรือ 17% และเสียชีวิต/ทุพพลภาพ 67,332 คน หรือ 1%

 

related