10 เกร็ดสถิติ เอเชียน คัพ 2023 ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย
ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 โปรแกรมเริ่มวันนี้ 12 มกราคม 2024 โดยกาตาร์ เจ้าภาพ จะเปิดสนามกับ เลบานอนในเวลา 23.00 น. ในโอกาสนี้ SPRiNG ชวนทำความรู้จักกับศึกฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย "เอเชียนคัพ 2023" ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ทำความรู้จักกันทุกแง่มุม
1. ฟุตบอล "เอเอฟซี เอเชียนคัพ" AFC Asian Cup เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปที่เก่าแก่เป็นอันดับสอง ถัดจากศึก โกปา อเมริกา (ทวีปอเมริกาใต้) โดยแชมป์รายการนี้จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมในการแข่งขันฟุตบอล ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ ต่อไป ในฐานะแชมป์ทวีป
2. ศึก เอเชียน คัพ จัดขึ้นทุก 4 ปี เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ 1956 ที่ฮ่องกง และจัดต่อเนื่องทุก 4 ปีจนถึงปัจจุบัน แต่หลังจบการแข่งขันปี 2004 ที่ประเทศจีน ทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ตัดสินใจเลื่อนการจัดการแข่งขันครั้งต่อไปเป็นปี 2007 ด้วยเหตุผลว่าในปีเดียวกันนี้มีทั้งการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนและการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทำให้ตัดสินใจขยับการแข่งขันไม่ให้ชนกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่
3. ทีมชาติญี่ปุ่น ทำสถิติ คว้าแชมป์รายการ เอเชียน คัพ มากที่สุดถึง 4 ครั้ง รองลงมาก็คือ ซาอุดิอารเบีย กับ อิหร่าน ที่ 3 ครั้ง ,ในนปี 2005 ออสเตรเลีย ก็ได้ย้ายจาก โอเชียเนีย มาเป็น สมาชิกใหม่ของ เอเอฟซี และสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จในปี 2015 ที่พวกเค้าเป็นเจ้าภาพเอง ก่อนที่ในปี 2019 จะมีการเพิ่มทีมจาก 12 ทีมเป็น 24 ทีม รวมถึงนำเทคโนโลยี วีเออาร์ มาใช้ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรต เป็นครั้งแรก ด้วย
4. เอเชียนคัพ กับทีมชาติไทย หรือ "ช้างศึก" ในอดีต ทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพครั้งแรกเมื่อปี 1972 ด้วยการเป็นเจ้าภาพเอง จัดแข่งขันที่สนามศุภชลาศัย ไปไกลถึงอันดับที่ 3 ในรายการนี้ ส่วนแชมป์ปีนั้น เป็นของ อิหร่าน
5. เอเอฟซี มีการเปลี่ยนระบบ ที่ต้องมีรอบคัดเลือก ทำให้วงการฟุตบอลไทย ต้องรอถึง 20 ปีกว่าจะได้เข้ารอบสุดท้ายของรายการนี้ ในปี 1992 และได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาตลอด จนถึงปี 2007 แต่ก็ต้องตกรอบแรกทุกครั้ง โดยในปี 2011 และ 2015 ทีมชาติไทยไม่ผ่านรอบคัดเลือก จนกระทั่งปี 2019 ที่มีการเพิ่มทีมเป็น 24 ทีม ทีมชาติไทย ก็ได้เข้ารอบสุดท้ายอีกครั้ง และ ทีมชุดนี้ ที่นำ โดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ , ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราธร บุญมาทัน ก็พาทีมไทย ไปได้ไกลถึงรอบ 2 เป็นครั้งแรก หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะจบเส้นทางปีนั้นด้วยการแพ้ จีน 1-2
6. เปิดทำเนียบแชมป์เอเชียน คัพ จากอดีตถึงปัจจุบัน , แชมป์ เอเชียน คัพ จากอดีตถึงปัจจุบัน
1956 เกาหลีใต้
1960 เกาหลีใต้
1964 อิสราเอล
1968 อิหร่าน
1972 อิหร่าน
1976 อิหร่าน
1980 คูเวต
1984 ซาอุดีอาระเบีย
1988 ซาอุดีอาระเบีย
1992 ญี่ปุ่น
1996 ซาอุดีอาระเบีย
2000 ญี่ปุ่น
2004 ญี่ปุ่น
2007 อิรัก
2011 ญี่ปุ่น
2015 ออสเตรเลีย
2019 กาตาร์
7. ทีมชาติไทย ช้างศึก ชุดลุยเอเชียน คัพ 2023 ครั้งนี้ ต้องขาด 2 นักเตะตัวหลักอย่าง "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งคู่ รวมถึง "บุ๊ค" เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ขอถอนตัวเนื่องจากต้องเดินทางไปร่วมเก็บตัวปรีซีซั่นกับสโมสร อุราวะ เร้ดส์ ในญี่ปุ่นเพื่อโอกาสในการค้าแข้งในเจลีกต่อไป
8. สำหรับ เอเชียน คัพ 2023 ครั้งนี้ มี อินเดีย,กาตาร์,ซาอุดีอาระเบีย ,ยูเออี และ เวียดนาม 5 ประเทศ ที่ใช้นักฟุตบอลที่ค้าแข้งในลีกประเทศตัวเองทั้งหมด , ขณะที่ ทีมชาติไทย เรียกนักเตะมาจาก 11 สโมสร โดยสโมสรที่มีนักเตะติดทีมชาติมากที่สุด คือ การท่าเรือ เอฟซี และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสร ละ 5 คน
9. ในเอเชียน คัพ 2023 ครั้งนี้ มี 3 ผู้ตัดสินจากประเทศไทย หรือ "เชิ้ตดำ" ไปทำหน้าที่ ตัดสินเกมด้วย ได้แก่ ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินระดับ FIFA ELITE และ ราวุฒิ นาคฤทธิ์ กับ ธเนศ ชูชื่น ผู้ช่วยผู้ตัดสินระดับ FIFA ELITE
10. ในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ครั้งนี้ ทีมชาติที่มีค่าเฉลี่ยอายุมากที่สุด คือ เลบานอน 29.76 ปี ตามด้วย อิหร่าน 29.52 ปี และอันดับ 3 จีน 29.17 ปี
ขณะที่ นักเตะทีมชาติไทยชุดเอเชียนคัพ อยู่ที่ 28.34 ปี ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของเอเชียนคัพครั้งนี้ และ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย ด้วยวัย 39 ปี 267 วัน
ส่วนทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุนักเตะน้อยที่สุด คือ อินโดนีเซีย 24.33 ปี
Credit Youtube ช้างศึก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
