svasdssvasds

ป.ป.ช.รับลูกสอบ 5 พระเถระเอี่ยวเงินทอนวัด

ป.ป.ช.รับลูกสอบ 5 พระเถระเอี่ยวเงินทอนวัด

ป.ป.ช.รับลูกลุยสอบ 5 พระเถระ เกี่ยวพันทุจริตเงินทอนวัด สั่งเจ้าหน้าที่หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พร้อมยืนยันมีอำนาจแสวงหาข้อเท็จจริง แม้พระจะไม่ใช้เจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายป.ป.ช.

วันนี้(18 เม.ย.) พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยภายหลังการประชุม ป.ป.ช. กรณีกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.

ส่งสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 ที่มีพระเถระผู้ใหญ่ 5 รูป มาให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณา ว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ของสำนักไต่สวนภาครัฐ 1 ซึ่งหากมีข้อมูลเพียงพอ ก็จะสามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ทันที

โดยตนได้กำชับให้ นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.เร่งดำเนินการ เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจ และ เกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่

ส่วนจะสามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้เลยหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของเลขาธิการ ป.ป.ช.พิจารณาว่า มีข้อมูลเพียงพอต่อการไต่สวนหรือไม่ หากยังไม่สมบูรณ์ ก็สามารถสั่งให้ไปแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้

ด้าน นายวรวิทย์ ระบุ ที่ผ่าน ปปป.ได้ส่งสำนวนทุจริตเงินทอนวัดมายัง ป.ป.ช.แล้ว 34 เรื่อง แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปแล้ว 11 เรื่อง อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงอีก 23 เรื่อง

ส่วนของใหม่ที่เพิ่งส่งมานั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นเรื่องที่ ปปป.กับตำรวจรับเรื่องกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ และเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช. จึงส่งเรื่องมาให้พิจารณาภายใน 30 วันตามกฎหมาย

ตนจึงสั่งให้สำนักไต่สวนภาครัฐ 1 (สตร.1) เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ โดยขั้นแรก คือการตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งหากพยานหลักฐานที่ได้มามีมูลก็จะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขอมูลที่ได้มาจาก ปปป.ยังมีไม่มากเพราะมีเวลาแค่ 30 วัน ก่อนที่จะส่งให้ ป.ป.ช. ซึ่งตนเร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการ

นายวรวิทย์ ระบุอีกว่า แม้พระสงฆ์จะไม่ใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐตามคำนิยามในกฎหมายป.ป.ช.ปัจจุบัน แต่ป.ป.ช.ก็มีอำนาจที่จะสามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้

related