svasdssvasds

"เพื่อชาติ" ดัน "สงคราม" เป็นหัวหน้าพรรค - อดีตการ์ดลั่นนปช.ยังอยู่แต่ไม่มีชุมนุม [คลิป]

"เพื่อชาติ" ดัน "สงคราม" เป็นหัวหน้าพรรค - อดีตการ์ดลั่นนปช.ยังอยู่แต่ไม่มีชุมนุม [คลิป]

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

ที่ทำการพรรคเพื่อชาติชั่วคราว อาคารอิมพิเรียลเวิล์ดลาดพร้าว พรรคเพื่อชาติ แถลงกำหนดการเปิดสาขาพรรค ประจำจังหวัดจากทั่วประเทศพร้อมทั้งเปิดตัวหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ  โดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับการทาบทามจากกรรมการบริหารพรรคชุดเก่าและจากหลายคนในพรรคเพื่อชาติ เพื่อขอให้ตนมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งตนได้ทบทวนอยู่หลายวัน เพราะจริงๆแล้วตนอยู่ที่เดิมก็สบายดีและหากพรรคเดิมที่ตนสังกัดอยู่ได้เป็นรัฐบาลตนก็มีโอกาสได้รัฐมนตรี  แต่ตนคิดดูแล้วทุกวันนี้ ถึงจะมีการเลือกตั้งไปแล้ว ไม่ว่าฝ่ายใดได้เป็นรัฐบาล การบริหารประเทศก็จะไม่ราบรื่น จะเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย และหากฝ่ายประชาธิปไตยได้เป็นรัฐบาลก็คงไม่ต่างกัน เพราะโครงสร้างเป็นเสมือนรัฐซ้อนรัฐ มีอีกหลายองค์กรที่สามารถอยู่เหนือกว่ารัฐบาลในอนาคต

แต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อชาติตามที่ตนได้รับทราบข้อมูลมาจากสมาชิก ตลอดจนคณะกรรมการบริหารพรรคชูนโยบายเกาะกลางทางการเมืองเพื่อเปิดพื้นที่พูดคุยกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนหรือสีอะไรก็วสมารถหารือกันได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนจุดยืน เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้  ดังนั้นตนตัดสินใจรับการทาบทามเป็นหัวหน้าพรรค ส่วนจะได้เป็นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ว่าจะเลือกตนเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่เพราะเท่าที่ตนทราบมาว่า พรรคนี้ไม่มีใครสั่งใครได้ แต่หากสมาชิกให้ความไว้วางใจเลือกตนเป็นหัวหน้าพรรคตนก็ยินดีรับใช้  หากถามว่าลำบากหรือไม่ตนก็ยอมรับว่าเหนื่อยยากกว่าเดิม แต่ในทางการเมืองหากไม่มีคนที่จะเสียสละเพื่อประเทศก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นตนขอทุ่มเทเวลาในช่วงบั้นปลายชีวิตให้กับประเทศ ส่วนตัวไม่สามารถยอมรับได้ที่จะเห็นประเทศต้องรับมรดกบาปจากที่ผ่านมา แต่ตนอยากเห็นประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง

ด้านนางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง ทีมงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อชาติกล่าวว่า สำกรับกำหนดการเปิดสาขาพรรคเพื่อชาติประจำจังหวัดจากทั่วประเทศ โดยจะมีการเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อ พบกับสมาชิกพรรค รวมถึงรับสมัครสมาชิกพรรคในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะเดินทางไปที่อำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมา

ส่วนวันที่ 16 พฤศจิกายน จะเดินทางไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์และศรีสะเกษ วันที่ 17 พฤศจิกายนจะเดินทางไปที่จังหวัดชัยภูมิ วันที่ 18 พฤศจิกายนจะเดินทางไปที่จังหวัดเลย ปิดท้ายที่จังหวัดเพชรบูรณ์สุดท้ายวันที่ 20 พฤศจิกายน จะเดินทางไปที่จังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี

ด้านนายอุสมาน ลูกหยี ทีมงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงการเดินทางไป เปิดสาขาพรรคประจำจังหวัดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า นอกจากมีความคึกคักสนใจ หลั่งไหลมาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อชาติแล้วประชาชนในสามจังหวัด ก็ตั้งตารอคอย การพบปะสวมกอดซึ่งกันและกัน ซึ่งมีอุดมการณ์เดียวกันคืออุดมการณ์ประชาธิปไตยในทางการเมือง ส่วนที่มีการกังวลกันถึงเรื่องความปลอดภัยในการลงพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น คนในพื้นที่ทราบดีว่าความไม่ปลอดภัยอันเกิดขึ้นจากอะไรในฤดูกาลใด ด้วยเรื่องอะไร และที่สำคัญที่สุดทุกฝ่ายทราบดี ว่าเวลานี้เป็นช่วงของการเมือง ที่นำไปสู่ประชาธิปไตยซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่าย ใฝ่ฝัน และเป็นบรรยากาศแห่งมิตรสัมพันธ์

ด้านนายวิโชติ วัณโณ ทีมงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้จะมีการประชุมใหญ่พรรคเพื่อชาติเป็นครั้งที่ 3 เพื่อเตรียมความพร้อมให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยในวันดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ในช่วงเช้าจะเป็นการประชุมพรรคใหญ่พรรค และในช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมพิเศษเชิญวิทยากรสถาบันพัฒนาการเมืองพรรคเพื่อชาติมาบรรยาย

 

ขณะที่ นายอารี ไกรนรา สมาชิกพรรคเพื่อชาติ อดีตหัวหน้าการ์ดนปช. กล่าวว่า นายสงครามดูแล และเป็นที่พึ่งของคนเสื้อแดงมาโดยตลอด เวลาเดือดร้อนมีปัญหาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าคนเสื้อแดงที่มีอยู่ทั่วประเทศจะให้การสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ โดยเฉพาะ นปช.ที่มีสมาชิกเป็นจำนวนมากมีการจัดตั้งเป็นองค์กรในแต่ละจังหวัด มีประธานจังหวัดและประธานอำเภอ ที่ยังอยู่ในแต่ละพื้นที่ เสียงตอบรับพรรคเพื่อชาติในต่างจังหวัดถือว่าดีมาก และ นปช.ก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นจำนวนมากในหลายจังหวัด และมีความประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ส่วนจะถูกจับตามองจากฝ่ายความมั่นคงหรือไม่นั้น นายอารีย์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูง แต่มุมมองของตนไม่ได้คิดเช่นนั้น ส่วนการที่นายจตุพร มาเชียร์พรรคเพื่อชาติเพื่อต้องการให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ เป็นพรรคเกาะกลางที่พยามให้ทุกคนทำกิจกรรมเพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ความสงบ ตามที่คสช.ก็ต้องการ  ถ้ามีอะไรก็ปรองดองพูดคุยกันในสภาฯซึ่งจะเห็นว่าตอนนี้มีพรรคการเมืองเกิดขึ้นเยอะมาก คาดว่าจะมีส.ส.หน้าใหม่เข้าสภาเป็นจำนวนมาก ส่วนนปช.ก็ยังเป็นองค์กรทางการเมืองที่ต้องมีอยู่ เมื่อถึงโหมดการเลือกตั้งนปช. มีสิทธิ์มาช่วยพรรคการเมืองใดก็ได้ ที่เห็นว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

related