พลังประชารัฐ ยืนยัน ไม่ได้กดดัน “กกต.” แบ่งเขตเลือกตั้งเอื้อประโยชน์ให้ ขณะที่นักวิชาการ มองคำสั่ง คสช.เป็นเหตุทำการแบ่งเขตของ กกต.ไม่โปร่งใส
นายเจษฎ์ โทณะวณิก เป็นนักวิชาการทางกฎหมาย กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ถูกกระแสโจมตี เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองบางพรรค ว่า การแบ่งเขตใหม่ทุกครั้ง ต้องยอมรับว่าต้องมีผลกระทบกับพรรคการเมืองทุกพรรค แต่การที่ คสช. ออกคำสั่ง ที่ 16/2561 มา ก็อาจทำให้ทุกคนคิดได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองของตนเอง เพราะหากรูปแบบที่ 1- 3 ดีอยู่แล้ว จะออกคำสั่งให้ใช้รูปแบบที่ 4 ได้ทำไม แต่ส่วนตัวไม่สามารถบอกได้มีผลดีต่อพลังประชารัฐมากหรือน้อย
ด้านนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ มองว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 เขตเป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. พรรคพลังประชารัฐไม่ได้กดดันหรือชี้นำ ซึ่งกรณีที่เป็นข่าว ก็เป็นเพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น
ขณะที่การเตรียมความของพรรคพลังประชารัฐนั้น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จนถึงช่วงกลางเดือนธันวาคม จะลงไปสนับสนุนการทำงานของสมาชิกที่จังหวัดร้อยเอ็ด กระบี่ ลำปาง เพื่อประชุมจัดตั้งสาขาของพรรคในภาคต่างๆ โดยตามกฎหมาย
พรรคการเมืองต้องมีการเลือกหัวหน้าสาขาของพรรคประจำภาคและกรรมการรวม 9 คน ซึ่งเมื่อมีสาขาภาคครบถ้วนแล้วจะเป็นขั้นตอนในเรื่องการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งคาดว่าในกลางเดือนนี้ พรรคจะจัดประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 เพื่อทำการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. อย่างเป็นทางการ รวม 11 คน
พร้อมยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐยังไม่ได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขตเหมือนที่ใครหลายคนวิจารณ์ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตมกฎหมาย และมั่นใจว่าเมื่อถึงกระบวนการสรรหาผู้สมัครแล้วจะไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งในเรื่องการทับซ้อนพื้นที่