ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีมติปม 41 ส.ส. ขั้ว พปชร. ถือหุ้นสื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) จากที่การคาดการณ์จากพรรคอนาคตใหม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคดีการถือครองหุ้นสื่อของ 41 ส.ส. ขั้วพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏว่าศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมเมื่อเวลา 13.30 น. และเลิกประชุม เมื่อ 15.20น. โดยที่ประชุมได้พิจารณาวาระทั่วไป และคดีอื่น ๆ แต่ไม่ได้พิจารณาคดีดังกล่าวแต่อย่างใด

ในวันเดียวกัน นายทศพล เพ็งส้ม หัวหน้าทีมต่อสู้คดีหุ้นสื่อของ 27 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เข้าตรวจสำนวนคำร้องที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า 41 ส.ส.ที่ถือครองหุ้นสื่อ เข้าข่ายทำให้ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือไม่ โดยนายทศพล ระบุว่า เข้ามาตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาทางต่อสู้คดี โดยจะจำแนกออกเป็นกลุ่ม อาทิ กลุ่มเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย หรือเสี่ยงกลาง ๆ และต้องทำให้ศาลเห็นว่าคดีของพรรคไม่เหมือนกับกรณีนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร และนายคมสัน ศรีวนิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ จ.อ่างทอง และไม่เหมือนกับกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก่อนหน้านี้ ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าพรรคจะยื่นคำร้องพร้อมเหตุผลเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้สั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ 27 ส.ส. เพราะถ้าหากศาลสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ อาจจะกระทบกับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรเป็นอยากมาก

นายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วยที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุทำนองว่า หากพรรคพลังประชารัฐยื่นคุ้มครอง 27 .ส. ที่ถือครองหุ้นสื่อได้ ตนก็แนะนำว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ควรขอความคุ้มครองจากศาลรัฐธรรมนูญ ให้เปลี่ยนคำสั่งที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นกัน ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นข้อผิดพลาดทางกฎหมาย ที่ไม่ควรเอาชนะคละคลานกัน และถ้าเป็นดังนี้ ศาลรัฐธรรมนูญก็จะไม่เสียศรัทธา และไม่เกิดความเสียหายแก่ทุกฝ่าย