"บิ๊กตู่" แถลงครม.นัดแรกชื่นมื่นเป็นมิตร-ย้ำรัฐบาลใหม่ ไร้อำนาจพิเศษ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุม ครม.ว่า วันนี้จะเห็นว่านายกฯ มีใบหน้ามีความสุข มีความสุขที่ทุกคนได้มาร่วมกันทำงาน โดยขอบคุณ ครม.ทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันและได้หารือในหลายประเด็น ซึ่งชี้แจงระบบการทำงานที่ผ่านมา และการทำงานที่ต้องมีการพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงานเอกสาร และกฎหมาย ก็ได้มีการเตือนทุกคน ขอให้ระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด

เราในฐานะรัฐบาลใหม่ก็ต้องทำสิ่งที่ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนให้มากที่สุด รัฐบาลเก่าก็คือรัฐบาลเก่าจบไปแล้ว นี่คือรัฐบาลใหม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ วันนี้ก็เป็นการหารือเรื่องระเบียบราชการต่างๆ การประชุมครม. และนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ค.

ซึ่งหลังจากการแถลงนโยบายแล้ว คงเป็นเรื่องของการจัดสรรหน้าที่กันของแต่ละกระทรวง แต่ทั้งหมดก็ต้องทำงานเพื่อประเทศไทย เพราะเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ทุกคนก็เข้าใจกันดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีบรรยากาศมิตรไมตรี ซึ่งตนก็ขอในเรื่องของความรักความสามัคคี  ทั้งนี้การทำงานของรัฐบาลนี้ ตอบสนองนโยบายทุกพรรค อย่างเหมาะสม สมดุล และทุกคนพอใจ

นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้มีการเห็นชอบแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนโฆษกพรรคยังไม่ได้แต่งตั้ง โดยมองทั้งคนนอกและคนใน ต้องเป็นคนที่รอบรู้ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะยุคโซเชียล และต้องมีความรู้เรื่องระบบราชการด้วย ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่

นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวต่อว่า วันนี้เราเริ่มต้นในสิ่งที่ดีๆ กันดีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยรัฐบาลกันด้วย อะไรที่เป็นความขัดแย้ง อะไรที่มีปัญหา จบแล้วก็คือจบ วันนี้เราเริ่มต้นเดินหน้าใหม่ ก้าวใหม่ของเรา ถึงแม้อาจจะไม่ชอบตน เบื่อตน ก็อยู่กับตนไปก่อน ก่อนจะถามนักข่าวว่าวันนี้เป็นอย่างไร ตนยิ้มพอได้หรือมั้ย จากนั้นนายกฯ ก็พูดออกมาว่า “มีความสุข วันนี้มีความสุขจริงๆ เพราะทุกคนก็น่ารักทุกคน”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากนี้จะร่นระยะระหว่างนายกฯ ลงมาอีกได้หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ทุกวันนี้ยังไม่ใกล้พออีกหรอ ใกล้มากอันตราย ใกล้ตามวาระต่างๆ ที่สำคัญก็พอไม่ใช่พูดกันทุกวันทุกเรื่อง ความขัดแย้งมันสูง อย่าให้ใครไปขยายความขัดแย้ง อย่าไปเปิดประเด็นที่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ มุมมองก็มองกันคนละมุม ต้องมีหลักการและเหตุผล การทำงานต้องบริหารราชการแบบนี้ ตนต้องระมัดระวังที่สุด ไม่ใช่ว่าตนไม่ถูกตรวจสอบ ตนโดนหมดต้องชี้แจงทุกอย่าง

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั้น นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยอมรับว่า ในร่างนโยบายรัฐบาล มีการบรรจุ ว่าสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้การแก้ไขนั้น จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน มีการสอบถามประชาชน และทำประชาพิจารณ์ พร้อมยอมรับว่า ตนเองก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับสื่อมวลชน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยห้ามในเรื่องของการสัมภาษณ์ แต่ทั้งนี้เห็นว่า ในบางเรื่องไม่อยากให้จุดประเด็นไปสู่ความขัดแย้ง ขณะเดียวกันยืนยันว่า การทำงานนับจากนี้ จะไม่มีอำนาจพิเศษใดๆ อีกแล้ว เพราะเป็นรัฐบาลที่มาประชาธิปไตย