svasdssvasds

นายกฯ ลั่นไม่ได้หวงตำแหน่งเหน็บเด็กคิดไวเหมือนโทรศัพท์

นายกฯ ลั่นไม่ได้หวงตำแหน่งเหน็บเด็กคิดไวเหมือนโทรศัพท์

บิ๊กตู่ พ้ออยากให้ดูผลงานบ้าง ลั่นไม่ได้เป็นคนหวงตำแหน่ง เหน็บเด็กเข้าใจว่าคิดไวเหมือนโทรศัพท์

นายกฯ ลั่นไม่ได้หวงตำแหน่งเหน็บเด็กคิดไวเหมือนโทรศัพท์

ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาและปาฐกถา ในงานสัมมนา “ภาคธุรกิจไทยในวิถียั่งยืน” ณ แกรนด์ฮอลล์ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

โดย พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า เราต้องร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ในท่ามกลางปัญหาโควิด-19 ที่ถึงแม้เราจะจัดการได้ดี แต่ก็มีผลกระทบเศรษฐกิจ ซึ่งเราจำเป็นต้องหามาตรการที่เหมาะสม กับการพัฒนาที่ยั่งยืน เพราะเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อให้ทุกคนเข้มแข็ง พร้อมให้ทุกคนหันมาหารือกัน เพราะรัฐบาลไม่สามารถขับเคลื่อนโดยรัฐอย่างเดียวได้ และถ้าเราขับเคลื่อน โดยไม่มีการประเมินผล ก็ยากที่ไปสู่ผลสำเร็จ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงตลอด

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า ทุกประเทศ ก็มีมหาเศรษฐี โดยเฉพาะประเทศ ที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเราต้องให้คนไทย มอง 2 อย่าง คือ ปัจจุบัน กับ อนาคต โดยเราต้องช่วยกันว่าจะอยู่อย่างไร  ให้คนเข้าถึงโอกาสใช้ทรัพยากรของประเทศ เพื่อไปแสวงหาประโยชน์ และรายได้ ซึ่งไม่ใช่ทำเพื่อคนรวย หรือ คนจน ขณะเดียวกัน ยอมรับ อุปสรรค มีอยู่ แต่ตนเองมองว่า โอกาสไทยก็มีจำนวนมาก แต่เราต้องไม่ทำลายด้วยความไม่มีเสถียรภาพ เพราะไม่อย่างนั้น การท่องเที่ยวจะไปหมด 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า ต่างประเทศ ก็เชิญตนเองหมด ซึ่งไม่เห็นมีปัญหา พร้อมย้ำว่า เราต้องฟังทุกคนว่า ดีหรือยัง โดยถ้าไม่ดีจะทำอย่างไร ส่วนการทุจริต หากมีข้อมูลก้แจ้งมา ซึ่งหากผิดจริง ก็ลงโทษไป แต่ถ้าเอามาพันกัน ทุกอย่างก็ไม่ดีทั้งหมด 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยอมรับว่า เรื่องความเหลื่อมล้ำมีมานานแล้ว แต่ก็ต้องมองว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ที่รัฐบาลได้ทำไป โดยอะไรที่เป็นประโยชน์เปิดดูบ้าง ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ซึ่งขอยืนยันว่า ตนเองไม่หวงตัว ไม่หวงตำแหน่ง แต่ห่วงประเทศ หากไม่มีคนมาลงทุนจะทำอย่างไร โดยตนเองไม่ต้องการอำนาจ ต้องการแค่ความเข้าใจ ความร่วมมือ พร้อมถามกลับว่า ตนจะอยู่ถึงอายุ 100 ปีหรือไง ซึ่งหลายเรื่องเอามาพันกันจนมีปัญหา ทั้งสิ่งที่ดีก็มีจำนวนมาก

พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า ตนเองก็กลัวติดคุกเหมือนกัน แต่มีบางคนไม่กลัว ดังนั้น กฎหมายคือ สิ่งสำคัญที่ทำให้คนเท่าเทียม โดยใครไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ไปฟ้องรื้อคดี ซึ่งบางอย่างปัญหามีไว้แก้ และประวัติศาสตร์มีไว้เป็นบทเรียน พร้อมย้ำว่า ต้องไม่ทิ้งลูกหลานไว้ข้างหลัง แต่คนช่วงอายุ 10-20 ปี เติบโตมาเห็นสิ่งที่ดีแล้ว โดยที่เขาไม่รู้ว่า กว่าจะผ่านมาได้ ผ่านอะไรมา ซึ่งตนเข้าใจว่า เด็กคิดไว เหมือนในโทรศัพท์ อ่านแว็ปเดียว ก็มองอย่างนั้น 

related