ในวาระครบรอบ 9 ปีซึ่งถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ของ นิตยสาร Vogue Thailand (โว้ก ประเทศไทย) จึงได้จัดนิทรรศการ “A Fashion Journey – An Exhibition of Vogue Thailand’s Journey in the Fashion Industry” (อะ แฟชั่น เจอร์นี่ – แอน เอ็กซิบิชั่น ออฟ โว้ก ไทยแลนด์ เจอร์นี่ อิน เดอะ แฟชั่น อินดัสทรี) เพื่อบอกเล่าแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ และประวัติความเป็นมาของนิตยสารโว้ก ประเทศไทย ตลอด 109 ฉบับนิตยสารและอีกหลากหลายคอนเทนต์ออนไลน์มารวมไว้ให้ผู้ที่สนใจเข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ – 6 มีนาคม 2565 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok)
กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสาร โว้ก ประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดงานในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการฉลองครบรอบ 9 ปี ของนิตยสารโว้กประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าโว้กไม่เพียงโดดเด่นเรื่องแฟชั่น แต่ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องศิลปะและไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต จึงอยากนำเสนอออกมาในรูปแบบนิทรรศการ และหากมองย้อนกลับไปเมื่อครั้งรู้ตัวว่าจะได้เป็นบรรณาธิการนิตยสารโว้กประเทศไทย ภาพแฟชั่นในความทรงจำจากปี 1980เริ่มตั้งเค้าและจุดประกายจินตนาการในความคิดของผมอีกครั้งด้วยว่าเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันแจ่มชัดและเป็นเอกลักษณ์ อาทิ แจ็กเกตสูทเสริมไหล่ เครื่องประดับทองชิ้นโต ทรงผมยีฟู หากเมื่อกระบวนการทำงานที่แท้จริงเริ่มก้าวไปพร้อมกับทีมงานทุกชีวิตเป้าหมายของเราก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปด้วยเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า “แฟชั่น” และ “โว้ก” คือสมุดบันทึกความเป็นไปของโลก กาลเวลาผันเปลี่ยนเทรนด์แฟชั่นและนิยามของผู้หญิงก็ถูกเปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุนี้เส้นทางแห่งรสนิยมย่อมปรับตัวเป็นเงาตามกัน
ยิ่งในยุคที่โว้กประเทศไทยเปิดตัว ซึ่งตรงกับช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบดิจิทัล ภาพแต่ละภาพที่นำเสนอสู่สาธารณชนของโว้ก หาใช่เพียงภาพฝันแสนแฟนตาซีในจินตนาการที่ไกลเกินเอื้อม แต่ต้องเป็นผลงานที่ลอยสูงเหนือความงดงามแค่เปลือกนอก ทั้งสื่อสารถึงมิติที่หลากหลายและลึกลงของผู้หญิงยุคใหม่ รวมถึงต้องทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนความเป็นไปของสังคมอีกทั้งวัฒนธรรมในช่วงหนึ่งๆ ด้วย โว้กประเทศไทยมีจุดยืน ที่มั่นคงและเต็มไปด้วยความเชื่อในการนำเสนอภาพแฟชั่นที่ผสมผสานระหว่าง ความเป็นสากลกับวัฒนธรรมไทย สิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นในการทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ของผมและผลลัพธ์ท้ายสุดทั้งหมดจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากไร้ซึ่งแรงสนับสนุนจากทีมงานชาวไทยทุกคน ที่ผมเชื่อมั่นและไว้ใจ เพราะผมระลึกอยู่เสมอว่าความสามารถและทักษะของคนไทยนั้นไม่ด้อยกว่าใครในโลก ผมจึงถือโอกาสการครบรอบปีที่ 9 ของนิตยสารโว้ก ประเทศไทย นี้ เพื่อยกย่องความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยทุกๆ คนทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต”
ทางด้านของ คุณหมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา กล่าวแสดงความยินดีกับการครบรอบ 9 ปีในครั้งนี้ว่า “รู้สึกภูมิใจและมีความยินดีกับปีที่ 9 ของนิตยสารโว้ก ประเทศไทย นิตยสารที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย และความเป็นไทยไปสู่สากล ความพิเศษของนิทรรศการนี้ เสนอผ่านการร้อยเรียงลำดับความสำคัญของนิตยสาร ที่ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมและได้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของการทำนิตยสารตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ซึ่งคุณจะได้เห็นมาตรฐานการทำงานของโว้กที่ไม่ใช่แค่ความงาม แต่ผลงานทุกชิ้นของโว้กต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้เสมอ ถ้าใครได้มีโอกาสอยากให้ลองแวะมาชมนิทรรศการของโว้ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok) แห่งนี้นะครับ” คุณหมูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในส่วนของ คุณมี่-เนตรดาว วัฒนะสิมากร กล่าวเสริมด้วยรอยยิ้มว่า “ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของนิตยสารโว้ก ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ซึ่งเป็นปีแห่งความสร้างสรรค์และเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับแฟชั่นไทย ส่วนตัวมองว่าโว้กไม่ได้เป็นแค่เพียงนิตยสาร แต่โว้กทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนความเป็นไปของสังคม ทั้งแฟชั่น วัฒนธรรม และ ความงาม และมุมมองหลากมิติที่เป็นพลังให้กับผู้หญิงยุคใหม่ ซึ่งนิทรรศการครั้งนี้นำเสนอและผสมผสานระหว่างความเป็นสากลกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว ถ้าใครมีโอกาสอยากให้ลองมาชมนิทรรศการ“A Fashion Journey – An Exhibition of Vogue Thailand’s Journey in the Fashion Industry” ได้ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2565 นะคะ”
ปิดท้ายที่ คุณกิ๊ฟท์-สรัญทร เตชะไพบูลย์ กล่าวว่า “ส่วนตัวเราเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ชอบความรู้สึกที่ได้สัมผัส พลิกอ่านทีละหน้า อย่างนิตยสารโว้กเราก็เป็นแฟนคลับมานาน พอมาช่วงโควิดที่ผ่านมาก็เป็นช่วงที่ทำให้เราได้อยู่บ้านกันมากขึ้น และไม่สามารถออกไปซื้อตามแผงหนังสือได้ ก็ยังมีเว็บไซต์หรือช่องทางออนไลน์ที่ให้เราได้คอยติดตามอัพเดตเทรนด์แฟชั่น เรื่องความสวยความงาม ร้านอาหาร รวมไปถึงบทความดีๆ ที่สามารถเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วยค่ะ เลยรู้สึกยินดีกับความสำเร็จของโว้ก ในฐานะนิตยสารที่อยู่คู่กับคนไทยมานานถึง 9 ปี และเชื่อว่าก้าวต่อๆ ไปของโว้ก ประเทศไทยน่าจะมีอะไรที่รอเซอร์ไพรส์ผู้อ่านอย่างเราแน่นอน”
ความพิเศษของนิทรรศการนี้ จะทำให้ผู้เข้าชมดำดิ่งสู่โลกการทำนิตยสารแฟชั่น นำเสนอผ่านลำดับเหตุการณ์สำคัญของนิตยสาร เรื่องราวเริ่มต้นตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ.2555, ความเป็นมาของสื่อสิ่งพิมพ์, การจำลองบรรยากาศการทำงานของกองบรรณาธิการ, หน้าปกนิตยสารตั้งแต่เล่มแรกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาโดยจัดแบ่งเป็นหัวข้อหลักๆ ได้แก่
1. Evolution of Print Media
จัดแสดงวิวัฒนาการของสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งถ่ายทอดผ่านการทำงานตลอด 9 ปีที่ผ่านมาของนิตยสารโว้ก ประเทศไทย รวมถึงขั้นตอนและวิธีการเรียบเรียงเนื้อหา ไปจนถึงการถ่ายภาพ
2. The Troupe of Inspiration
อีกหนึ่งมุมไฮไลต์ในงานนิทรรศการ คือการจำลองมุมโต๊ะทำงานของบรรณาธิการบริหารโว้ก ประเทศไทย ที่หาชมได้ยาก ซึ่งทั้งหมดสะท้อนถึงแนวคิดและขั้นตอนการทำงานของนิตยสาร ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
3. Vogue Beliefs
3.1 Embracing Diversity
โว้ก ประเทศไทยได้สอดแทรกมุมมองและเรื่องราวความหลากหลายหรือ Diversity ไม่ว่าจะเป็นสไตล์รูปร่างหน้าตาสีผิว แนวคิดความเชื่อหรือความรัก เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนก้าวข้ามความแตกต่าง เลิกตั้งคำถามที่ไม่จำเป็นแล้วมองคนร่วมสังคมว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะแตกต่างอย่างไรก็ควรได้รับความเคารพในฐานะมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน
3.2 Thainess en Vogue
ยกระดับความเป็นไทย ยกระดับงานฝีมืองานคราฟท์ ยกระดับศิลปินและนักออกแบบไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากลให้ได้ และความตั้งใจนี้ก็ยังคงอยู่ในนิตยสารโว้ก ประเทศไทยในทุกๆ เล่ม ทั้งเล่มปัจจุบันสู่ดิจิทัล จนไปถึงงานโว้ก กาล่า เป็นมิชชั่นที่ไม่สิ้นสุดจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของโว้ก ประเทศไทยไปแล้ว”
4. Vogue Standard
มาตรฐานของโว้กไม่ใช่แค่งามแต่ยังต้องแสดงถึงคุณภาพการทำงานที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และผลงานทุกชิ้นของโว้กต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้เสมอ
โดยภายในงานนิทรรศการยังได้รับเกียรติจากคนดังหลากหลายวงการ อาทิ จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล, จงกล พลาฤทธิ์, สธน ตันตราภรณ์, คณชัย เบญจรงคกุล, วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา, สุวดี พึ่งบุญพระ, ชวมณฑ์-พัชรพิมล-ภณภิสา ปวโรดม, มิลิน ยุวจรัสกุล, พอล สิริสันต์, เจนสุดา ปานโต, แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส ฯลฯ ที่มาร่วมฉลองครบรอบ 9 ปีให้กับนิตยสารโว้กประเทศไทยอีกด้วย
พบกับนิทรรศการ “A Fashion Journey – An Exhibition of Vogue Thailand’s Journey in the Fashion Industry” ได้ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2565 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA Bangkok)