ตำรวจตั้งด่านตรวจเข้มควันดำ ช่วงเวลา 10.00 -14.00 น. หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
ควันดำมีลักษณะเป็นผงเขม่าสีดำขนาดเล็กที่เหลือจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งมักจะมาจากรถยนต์ที่มีระบบจ่ายน้ำมันไม่เหมาะสม ไส้กรองอากาศสกปรกเกิดการอุดตัน เครื่องยนต์เก่า ชำรุด ขาดการบำรุงรักษา บรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กำหนด และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงรถยนต์ที่มีการปรับแต่งเครื่องยนต์อีกด้วย
PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล กว่า 72% มาจากการขนส่งทางบก โดย 80-90% เป็นมลพิษจากเครื่องยนต์ดีเซล วิธีการการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยการลดปริมาณควันดำจากผงเขม่าสีดำขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล ควรหมั่นดูแลเครื่องยนต์ทำความสะอาดไส้กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะกำหนด โดยรถยนต์ที่ใช้งานเป็นประจำจะต้องเปลี่ยนทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุก 3 เดือน ส่วนรถที่ใช้งานทั่วไปจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อขับถึงระยะ 8,000-10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน ตรวจดูไส้กรองอากาศที่ทำหน้าที่ดักจับฝุ่น เศษต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่น้ำมันเครื่องรถยนต์ ตรวจเช็กไส้กรองอากาศรถยนต์โดยควรทำความสะอาดทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร ชำระล้างสิ่งสกปรกในท่อไอเสียโดยทำการฉีดน้ำเข้าไปทำความสะอาดภายในท่อไอเสีย และตรวจเช็คหัวฉีดและปั๊มหัวฉีดน้ำมันให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานโดยนำเข้าศูนย์บริการ ทำการตรวจเช็กปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดสึกหรอ รวมทั้งตรวจเช็กหัวฉีดน้ำมันและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ เพื่อไม่ให้รถเกิดควันดำเมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนน รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการขับรถแบบกระชากหรือเหยียบแรงเกินไป และการบรรทุกของหนักที่ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้รถควันดำได้เช่นกัน
ปัจจุบันค่าปริมาณ PM2.5 สูงขึ้น ควันดำเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ หน่วยงานต่างๆ จึงมีมาตรการคุมเข้มในการควบคุมตรวจสอบค่าไอเสียจากรถยนต์
1. การเตรียมรถยนต์ก่อนการตรวจวัด
1.1 จอดรถอยู่กับที่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง
1.2 ปิดแอร์ และระบบเบรกไอเสีย (ถ้ามี)
1.3 เดินเครื่องยนต์ให้อยู่ในอุณหภูมิใช้งานปกติ
1.4 ตรวจสอบความผิดปกติของเครื่องยนต์ ถ้าพบอาการที่ทำให้เครื่องยนต์เสียหาย หรือไม่ปลอดภัยให้ซ่อมแซมให้อยู่สภาพสมบูรณ์ก่อน
2. เครื่องมือตรวจวัดที่ถูกต้องตามมาตรฐานเครื่องวัดควันดำระบบทึบแสง
3. วิธีการตรวจวัดควันดำ ให้เร่งเครื่องยนต์อย่างรวดเร็วจนสุดคันเร่ง พร้อมตรวจวัดควันดำขณะเริ่มเร่ง ทำการวัดสองครั้ง ซึ่งค่าควันดำจะแตกต่างกัน น้อยกว่าร้อยละ 5 โดยให้ใช้ค่าสูงสุดที่วัดได้เป็นเกณฑ์ตัดสิน
4. มาตรฐานค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์ ขณะเครื่องยนต์จอดอยู่กับที่ กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 50 (เมื่อตรวจด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบกระดาษกรอง) หรือไม่เกินร้อยละ 45 (เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบทึบแสง)
รถยนต์ที่ปล่อยควันดำ เกินร้อยละ 50 เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบกระดาษกรอง หรือเกินร้อยละ 45 เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่อวันควันดำระบบทึบแสง จะถูกติดสติ๊กเกอร์ห้ามใช้รถชั่วคราว หรือ ห้ามใช้เด็ดขาด พร้อมทั้งบันทึกหมายเลขทะเบียนลงในคอมพิวเตอร์ เพื่อแจ้งไปยังนายทะเบียนของกรมขนส่งทางบกพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อลด #ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผู้ใช้รถควรดูแลและตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้น ทำความสะอาดไส้กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด ร่วมแก้ไขปัญหา PM 2.5 ไม่ให้รถก่อปัญหาควันดำส่งผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศ