เตรียมขนย้าย13 ชีวิต ทางบก-ทางอากาศ ทันทีที่พบเพื่อรักษาอาการ

การเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยงานต่างมีความสำคัญ ทันทีที่สามารถนำทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำได้ การให้ความช่วยเหลือจากการเจ็บป่วย – การบาดเจ็บ จะเป็นสิ่งแรกที่ต้องดำเนินการทันที ทีมแพทย์-พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ ต้องมีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง

พลตำรวจตรี นายแพทย์ ธนา ธุระเจน  รองนายแพทยใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยถึง การดูแลในภาวะวิกฤตเฉพาะในเด็ก มี 3 ประเภท คือ การบาดเจ็บทางสายตา เพราะอยู่ในที่มืดนานหลายวัน  เบื้องต้นได้เตรียมแว่น และอายแพ็กไว้  ส่วนที่ 2 คือภาวะอุณหภูมิต่ำ ได้เตรียมผ้าห่มสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย  และส่วนที่ 3 สำหรับการช่วยเหลือภาวะวิกฤต เนื่องจากเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี การใส่ท่อช่วยหายใจ ต้องใช้ท่อช่วยหายใจแบบชนิดพิเศษ

สำหรับการลำเลียงคนไข้มี 2 แบบ ที่ได้เตรียมความพร้อมไว้ คือ ลำเลียงขึ้นรถพยาบาล  / ลำเลียงแบบพิเศษ ทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้สี่งเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้  4 ลำ และทีมแพทย์เตรียมไว้แล้ว ทั้งนี้จะต้องดูสภาพร่างกายของเด็กว่าทนต่อแรงกระเทือนมากขนาดไหน และจำเป็นต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลหรือไม่ ด้วยทางเลือกว่าหากมีความจำเป็นเร่งด่วนก็มีอากาศยานที่จะสามารถนำส่งได้โดยใช้เวลารวดเร็ว

ในส่วนของทางโรงพยาบาล เบื้องต้นเตรียมพร้อมโรงพยาบาลไว้ 3 โรงพยาบาลด้วยกัน ถ้าอาการไม่หนักมากก็จะส่งไปที่โรงพยาบาลแม่จัน หรือโรงพยาบาลแม่สาย แต่หากอาการมีความวิกฤต ก็จะต้องนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่ระยะทางนั้นไกลกว่า

สำหรับเส้นทาง จากถ้ำหลวงไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง

- ถ้ำหลวง ไป โรงพยาบาลแม่สาย ระยะทาง 9.7 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 17 นาที

- ถ้ำหลวง ไป โรงพยาบาลแม่จัน ระยะทาง 33.1 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 38 นาที

- ถ้ำหลวง ไป โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช ระยะทาง 59.2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 7 นาที

- ถ้ำหลวง ไป โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ระยะทาง 60.2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 8 นาที