เกาะพีพีฉาว! นทท.พลเมืองดีโดนโจรรุมยำเลือดอาบ ซ้ำแจ้งความคดีไม่คืบ

สตีเฟ่น ทริมเบิ้ล (Stephen Trimble) นักท่องเที่ยวและช่างภาพชาวอเมริกัน ที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ออกมาเล่าเหตุการณ์ผ่านอินสตาแกรม @trimbleezy ที่ตนถูกกลุ่มมิจฉาชีพท้องถิ่นทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ เพราะตนเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวที่กำลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ขโมยกระเป๋า และเมื่อไปแจ้งความ คดีกลับไม่คืบหน้า ไม่สามารถตามจับตัวคนร้ายได้

โดย สตีเฟ่น เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่เกาะพีพี เขาได้พยายามหยุดโจรท้องถิ่นที่พยายามจะขโมยกระเป๋าเงินหญิงสาวรายหนึ่งที่ทิ้งของไว้บนชายหาด และลงไปเล่นน้ำ มิจฉาชีพเข้ามาหยิบกระเป๋าเงินและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเริ่มหยิบของมีค่าในกระเป๋า ตนจึงตะโกนให้มิจฉาชีพรายนี้หยุด และบอกมิจฉาชีพว่านั่นไม่ใช่กระเป๋าของคุณ มิจฉาชีพจึงโยนกระเป๋าลงในพุ่มไม้และเดินหนีไป

ถัดมาแค่ 2 นาที มิจฉาชีพรายเดิมได้วกกลับมาพร้อมพวกอีก 3 คน โดยมีอาวุธคือท่อนไม้ และไม้พายเรือคายัค ก่อนจะเข้ามารุมทำร้ายตนอย่างหนัก จนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบที่ศีรษะแขน และขา จากนั้นได้หลบหนีไป ตนจึงเดินมายังโฮสเทลที่ใกล้ที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนจะพบกับตำรวจนายหนึ่งขี่จักรยานยนต์มาพอดี จึงได้แจ้งตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้ตนเข้ามาแจ้งความที่สถานี รวมถึงให้ปากคำอีกครั้งเวลา 10.00 น. ในวันรุ่งขึ้น มันช่างมีประโยชน์สุดๆ

อย่างไรก็ตามตนต้องเย็บแผลที่ศีรษะและขา มีอาการเอ็นหัวเข่าฉีก รวมถึงมีรอยฟกช้ำที่หลัง โชคดีที่ยังไม่ถึงแก่ชีวิต โดยหลังแจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้วจนถึงตอนนี้คดียังไม่คืบ ตำรวจยังไม่สามารถตามตัวคนร้ายได้ หลังจากนี้ตนจะพักผ่อนสองสามวัน และรอความคืบหน้าของคดีต่อไป

ส่วนเหตุผลที่นำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังไม่ได้ต้องการความเห็นอกเห็นใจ แต่ต้องการเตือนนักท่องเที่ยวทุกคน อย่าทิ้งของมีค่าไว้บนชายหาดโดยไม่มีคนดูแล เพราะอาจจะถูกขโมยจากมิจฉาชีพ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าตำรวจอาจมีการรู้เห็นกับคนร้าย นอกจากนี้ยังต้องระวังสถานที่เปลี่ยวในเวลากลางคืน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมสูง และพยายามอย่าอยู่คนเดียว แต่ให้รวมกลุ่มไว้ และเก็บของมีค่าให้กับตัว