"ตาต้อย" ชายเก็บของเก่า สั่งเสียพี่สาวไว้ หากตายให้เอาไปบริจาควัด

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 62  ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เกียรติศักดิ์ เสาที โพสต์เรื่องราวพร้อมรูปภาพชายสูงวัย ทราบชื่อว่า ตาต้อย ซึ่งเป็นคนเก็บของเก่าหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ใน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี แม้เสียชีวิตไปแล้ว ได้สร้างความดีทำบุญด้วยการถวายเงินเหรียญทุกบาททุกสตางค์ที่เก็บมาทั้งชีวิตเป็นจำนวนมากให้กับวัด

ด้านผู้โพสต์ระบุว่า "RIP ตาต้อย ชายเก็บของเก่า หน้า7/11 บ้านหมี่ ถึงแกจะจากไปแกยังให้ญาติๆเอาเงินทั้งหมดที่หามาทั้งชีวิตไปถวายวัด จิตใจแกช่างยิ่งใหญ่จริงๆ #ดูคนอย่าดูแค่ภายนอก หลับให้สบายนะตาต้อย"  ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่สู่โลกออนไลน์ และมียอดแชร์กว่า หนึ่งหมื่นครั้ง ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมชายรายดังกล่าว พร้อมขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี และยังมีน้ำใจอันเป็นกุศลที่ยังถวายเงินให้พระพุทธศาสนาแม้กระทั่ง

เวลา 11.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังซอยศาลเจ้า เลขที่ 107 หมู่ที่ 6 ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้าของนางนางรำพึง (นามสมมุติ) พี่สาวนายปรีชา วงศ์สา อายุ 64 ปี หรือลุงต้อย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่เก็บของเก่า เป็นที่อยู่อาศัย และเป็นบ้านที่ลุงต้อยเสียชีวิต ซึ่งนี้นางสุปราณี วงศ์เสา อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า ลุงต้อยอาศัยอยู่บ้านหลังนี้มานานหลายสิบปี แล้ว อยู่ตัวคนเดียว สันโดษ เป็นคนเอื้อเฟื้อ และประหยัดอดออม มีเสื้อผ้าเก่าๆ เพียง 2-3 ชุดเท่านั้น รู้สึกเศร้าใจที่แกตายโดยที่ไม่มีใครรู้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอาการบ่งชี้ว่าเจ็บป่วยไข้

ด้านนายฉัตรชัย ยงทอง อายุ 68 ปี ไวยาวัจกรวัดบ้านหมี่ใหญ่ ผู้หนึ่งซึ่งทราบเหตุการณ์เล่าว่า ลุงต้อย หรือ นายปรีชา ชอบมาที่วัด เพื่อมาขอข้าว ขอน้ำกินในวันพระ และเทศกาลสำคัญ ที่มีผู้มาทำบุญเยอะๆ เพื่อขอเงินบ้าง ซึ่งแล้วแต่ใครจะให้ และ เพิ่งทราบจากพี่สาวของลุงต้อยว่า ก่อนตายได้สั่งพี่สาวไว้ว่าเงินของที่เก็บสะสมทั้งหมด ให้นำไปบริจาคให้กับวัดบ้านหมี่ใหญ่ วัดที่ไปขอข้าวขอน้ำเขากิน

เช่นเดียวกันกับ พระครูปิยะคามพัฌนกิจ อายุ 49 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านหมี่ใหญ่ ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ ลพบุรี ซึ่งได้เล่าว่าพี่สาวของลุงต้อยได้นำเงินเหรียญ ที่ใส่กาละมังซักผ้า ถังน้ำ ซึ่งเป็นเงินเหรียญทั้งหมด ตั้งแต่เหรียญ 10 เหรียญ 5 เหรียญ 2 บาท และเหรียญ 1 บาท โดยที่ไม่มีเงินเป็นแบ้งค์เลย ซึ่งนับแล้วจำนวนได้ทั้งสิ้น 74,909 บาท มาบริจาคให้กับวัดตามจุดประสงค์ของคนตาย ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวได้ฝากไว้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านหมี่ โดยหลวงพ่อยังเล่าอีกว่ารู้สึกสงสารคนตาย โดยที่มูลนิธิอริโยธรรมสถานนำศพมาจากบ้านหลังเกิดเหตุในเย็นวันที่ 21 ธ.ค. และได้ทำการสวดมาติกาบังสุกุลให้จำนวน 1 คืนตามประเพณี และทำการฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.62 เนื่องจากศพมีสภาพเน่าเปื่อยเนื่องจากเสียชีวิตมาแล้วหลายวันก่อนพบศพ

พนักงานเซเว่นสาขาบ้านหมี่ สถานที่ลุงต้อยนั่งอยู่ประจำเพื่อขอเศษเงินทอนจากชาวบ้าน เล่าว่ารู้สุกตกใจ และสงสารลุง เพราะแกเป็นเพื่อนที่คอยเฝ้าหน้าประตู เห็นแกมาตั้งแต่เริ่มเป็นพนักงาน ไม่เคยสร้างความเดือดร้อน ให้ใคร ขอเศษเงิน และของเก่า เช่นขวดพาสติก ขวดแก้วที่ทิ้งแล้วเท่านั้นเอง เมื่อรู้ว่าเงินที่แกขอจากชาวบ้านทั้งชีวิตแกนำไปมอบให้กับวัดก็รู้สึกซาบซึ้งใจ โดยพนักงานทุกคนอธิฐานจิตให้ลุงต้อยเศษตังค์ หรือลุงต้อย 5 บาท ไปสู่ภพที่ดี สู่สรวงสวรรค์