โฆษกฯทัพไทย ยัน “ร้อยโท” แพทย์ทหารไทยถูก UN จับโกงวัคซีน เป็นเรื่องจริง
กองทัพไทย แถลง “ร้อยโท” แพทย์ทหารไทยใน South Sudan โดนปลด หลังถูกUN จับได้ โกง เอาน้ำยาฉีดบาดทะยัก-เกลือแร่ มาฉีดแทนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้ทหารไทย 272 นาย ยอดเงิน1.7 แสนบาท
อัพเดทล่าสุด : พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ "ถอดยศทหาร" อดีตแพทย์ทหารไทยฉาวขายวัคซีนปลอม
วันที่ 2 มี.ค. 2564 ที่ บก.กองทัพไทย พลโท เชาวลิตร สังฆฤทธิ์ โฆษกกองทัพไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้น เมื่อ ปี2563 ที่มี ทหารยศร้อยโท นายแพทย์ ประจำ รพ ทหาร ระดับ 1 ที่ทำความผิดวินัยร้ายแรง ในการนำวัคซีน ที่ทำจากสารอื่น มาฉีดให้กำลังพล ทบ.ไทย ที่ปฏิบัติภารกิจ ที่ South Sudan ถูกUN ตรวจสอบได้ และถูกสอบสวน และถูกส่งกลับไทย และหนีราชการ จนถูกปลดออกจากราชการ
โดยมีการตั้งกก.สอบสวน และรายงาน ผบ.กกล ฉก. UN ทราบ โดย ทบ. ต้นสังกัด ได้ตั้งกก. สอบสวน และส่งตัว กลับไทย ทันที เมื่อ มีค.63
กรณีนี้ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ของประเทศไทย และกองทัพ ไทย โดยกองทัพไม่ปกป้อง ผู้กระทำผิด โดยเรา ตั้ง กก สอบสวนวินัยร้ายแรง และส่งเรื่องให้ แพทยสภาตั้ง กก สอบ คุณธรรม จริยธรรม เพราะเป็นแพทย์และ พบว่า ทำผิดจริง หลอกลวง ผู้บังคับบัญชา
ทั้งนี้ เพราะ นายแพทย์ใหญ่ สั่งว่า กำลังพล ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ต้องฉีดวัคซีน และนำสารอื่น เข้าร่างกาย และเรียกเงินค่าวัคซีน จากกำลังพล คนละ 500 บาทกว่า 200 นาย รวมเงิน 1.7 แสนบาท
เมื่อกลับไทยมา นายแพทย์ ร้อยโท ได้ขาดการติดต่อ ทางทบ. จึง ปลดออกจากราชการเพราะขาดหนีราชการ เมื่อ 9 เมย.2563
ขณะที่ ศาลทหารกรุงเทพ ได้ ออกหมายจับ เพราะการหนีราชการและส่ง แพทยสภา ให้ ถอดถอน ใบประกอบวิชาชีพ แต่เจ้าตัว ไม่มาให้ปากคำ แพทยสภา จึงถอด ไม่ได้
ทั้งนี้ถือเป็น การกระทำส่วนบุคคล ที่สร้างความเสื่อมเสีย ร้ายแรง ต่อกองทัพ และประเทศชาติ ดังนั้น กองทัพไทย จึงได้ดำเนินการ ทันทีและ ทางUN เข้าใจ กองทัพไทย ดี
ทั้งนี้ การสอบสวนเกิดจากการที่ จนทUN สัวเกตุว่า วัคซีน ที่ฉีดนั้น มีลักษณะน้ำยาใส สีขุ่นและไม่มีฉลาก จึงเอาน้ำยามาตรวจสอบ พบว่า เป็นยาป้องกันบาดทะยัก บ้าง เป็นเกลือแร่ ไม่ใช่วัคซีนจริง โดยพบว่า ตัวยา นี้ ซื้อมาจาก อืนเดีย ไม่ใช่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
ทั้งนี้ แพทยสภา จะเรียกตัว ร้อยโท มาครั้ง2 แต่ถ้าไม่มาจะลงมติถอนใบนุญาตฯ ส่วนการที่ บิดา ของร้อยโท ฟ้องร้องว่าลูกชายถูกกันแกล้งนั้น พลโทเชาวลิตร กล่าวว่า จากผลการสอบสวนกำลังพลกว่า 200 นาย พบว่าไม่เป็นความจริงเลยที่ ร้อยโทนายแพทย์ผู้นี้ถูกกลั่นแกล้ง อีกทั้งการที่กองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายแพทย์ผู้นี้ก็ไม่เคยมาชี้แจงเลย นอกเสียจากที่เคยยอมรับว่ากระทำความผิดจริงกับผู้บังคับกองร้อยที่เซ้าท์ซูดาน "เรากับ UN ไม่มีอะไรกัน ยังคงชื่นชม ในการทำงานของไทยเรา และ ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของกองร้อยเฉพาะกิจทหารช่างไทยในเซาท์ซูดาน"
ทั้งนี้โฆษกกองทัพไทยยอมรับว่า 100 โทนายแพทย์ผู้นี้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่เสาร์ซูดานโดยไม่ได้ผ่านขั้นตอนการคัดกรองตามปกติเนื่องจากเป็นการเดินทางไปอย่างเร่งรีบไปเป็นตัวแทนนายแพทย์คนก่อนหน้านี้ ที่ต้องเดินกลับเดินทางกลับประเทศจึงไม่ได้ผ่านขั้นตอน เพราะรีบ ดังนั้นจึงถือเป็นบทเรียนว่าการคัดเลือกกำลังพลไปปฎิบัติหน้าที่จะต้องผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง
พลตรี ณัฐพล แสงจันทร์ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการเพิ่อสันติภาพ กล่าวยืนยันว่ากำลังพลในเซาท์ซูดานทุกคนยังคงปลอดภัยแข็งแรงดีไม่มีใครติดเชื้อโควิดทั้งนี้กองทัพไทยกำลังประสานกับกรมควบคุมโรคติดต่อในการขอวัคซีนเพื่อนำไปฉีดให้กลับกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจไทยในเซาท์ซูดาน ทั้ง 272 นาย
