เฮดโค้ชทีมบาห์เรน ยอมรับหลังเปลี่ยนโค้ช ทีมชาติไทยเล่นได้ดีขึ้นมาก พยายามกระตุ้นลูกทีมเต็มที่แล้วแต่สู้ไม่ไหว ด้านโค้ชโต่ย กล่าวขอบคุณนักเตะทุกคนที่เล่นแบบกระหายชัยชนะในเกมนี้
นายศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนรักษาการทีมชาติไทย กล่าวภายหลังจบเกมที่ช้างศึกเอาชนะ บาห์เรน 1-0 ในเอเชียนคัพ 2019 รอบสุดท้าย นัดที่ 2 ของกลุ่ม เอ ที่ สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า ขอขอบขอบคุณสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่ให้โอกาส พร้อมขอบคุณนักเตะ และแรงเชียร์จากคนไทยทุกคน ซึ่งเกมดังกล่าว ครึ่งแรกถือว่าอึดอัดมาก เนื่องจากไทยปรับแท็คติกใหม่ แต่ด้วยความที่นักเตะอยู่ด้วยกันมานาน จึงทำให้ครึ่งหลังเริ่มเดินเกมได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งนี้ก็ต้องชมทีมบาห์เรนด้วย ที่เล่นด้วยความมุ่งมั่น แต่บังเอิญทีมชาติไทยมีความมุ่งมั่นมากกว่า และหากทีมไทยมีเกมรับที่แน่น ก็จะส่งผลให้เกมรุกทำได้หลากหลายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้าน เมสซีเจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางทีมชาติไทย ผู้ยิงประตูให้ทีมไทยในเกมนี้ เปิดใจว่า นักเตะมีความมุ่งมั่นเพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือต้องผ่านเข้ารอบให้ได้ ที่ผ่านมาทีมอาจจะมีปัญหาหลายอย่าง แต่ความมีสปริตรของทีมยังเป็นหนึ่งเดียว โดยเกมการแข่งขันนัดดังกล่าวทุกคนต่างช่วยกันวิ่ง สุดท้ายก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยที่สูญเสียไป
ขณะที่ มิโลสลาฟ โซคุป กุนซือบาห์เรน ออกอาการเครียด หลังแพ้ทีมไทย โดยยอมรับ ภายหลังเปลี่ยนโค้ช ทีมชาติไทยมีความแข็งแกร่งมากกว่านัดแรก ซึ่งอาจจะมาจากการปรับแท็คติกใหม่ และทีมไทยก็ทำได้ดี ภายหลังบาห์เรนเสียประตู ก็พยายามจะเจาะทีมไทยให้ได้ แต่บังเอิญลูกทีมต่อบอลไม่คมพอ จึงพ่ายให้กับไทยไป 1 ประตู ต่อ 0
อย่างไรก็ตาม ผลคะแนนดังกล่าวส่งผลให้แฟนฟุตบอลชาวไทยกลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลังจากพักหลังทีมช้างศึกทำให้ผิดหวังมาอย่างต่อเนื่อง บางรายถึงกับบอกว่า เกมดังกล่าวพิสูจน์ได้ชัดเจนแล้ว ปัญหาของทีมชาติไทย คือ มิโลวาน ราเยวัช อดีตเฮดโค้ชของทีมชาติไทย