ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018/2019 ได้รูดม่านปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความยินดีปรีดาของเหล่าสาวก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และความโศกเศร้าของบรรดา “เดอะค็อป” สาวกของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซั่นนี้มีบทสรุปที่มากกว่านั้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ทีมข่าวสปริงนิวส์ออนไลน์รวมรวบมาให้อ่านกันจ๊ะ
ทีมแชมป์-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แต้มรวม 98 คะแนน พร้อมได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ปีหน้าแบบอัตโนมัติ
รองแชมป์-ลิเวอร์พูล มีแต้ม 97 คะแนน ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แบบอัตโนมัติเช่นเดียวกัน และยังเหลือโปรแกรมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ สเปอร์ส ในวันที่ 1 มิ.ย.
[caption id="attachment_492711" align="alignnone" width="1280"] ลิเวอร์พูล เป็นรองแชมป์ที่แต้มเยอะสุดในประวัติศาสตร์[/caption]
อันดับ 3-เชลซี มี 72 คะแนน ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม และเหลือเกมนัดชิงยูโรป้าลีก กับ อาร์เซน่อล ในวันที่ 29 พ.ค.
อันดับ 4-ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ จบ 71 แต้ม ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเหลือโปรแกรมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ ลิเวอร์พูล อีก 1 นัด
อันดับ 5-อาร์เซน่อล จบที่ 70 คะแนน ได้สิทธิ์ไปเล่นยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาลหน้า แต่ถ้าหากเอาชนะ เชลซี แล้วได้แชมป์ยูโรป้าลีก ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ อาร์เซน่อล จะเป็นทีมที่ 5 จากอังกฤษ ที่ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทันที
อันดับ 6- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบที่ 66 แต้ม ได้สิทธิ์ไปเล่นยูโรป้า ลีก รอบคัดเลือกในฤดูกาลหน้า
ทีมตกชั้น-คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (อันดับ 18 มี 34 คะแนน), ฟูแล่ม (อันดับ 19 มี 26 คะแนน) และฮัดเดอร์ฟิลด์ (อันดับ 20 มี 16 คะแนน)
[caption id="attachment_492708" align="alignnone" width="1280"] ยูไนเต็ด ได้เต็มที่แค่ยูโรป้า ลีก[/caption]
ทีมเลื่อนชั้น-นอริช ซิตี้ (แชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพ) กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (อันดับ 2 แชมเปี้ยนชิพ) ได้เลื่อนชั่นอัตโนมัติ ส่วน ลีดส์ ยูไนเต็ด, เวสต์บรอมวิช อัลเบียน, แอสตัน วิลล่า และดาร์บี้ เคาน์ตี้ ต้องไปลุ้นเพลย์ออฟเพื่อแย่งตั๋วอีก 1 ใบเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ดาวซัลโว-มีด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ สองกองหน้าลิเวอร์พูล และ ปิแอร์ โอเมริค โอบาเมยอง กองหน้ากาบองของอาร์เซน่อล ยิงเท่ากันที่คนละ 22 ประตู
แชมป์แอสซิสต์-เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์เชลซี จ่ายให้เพื่อนไป 15 ครั้ง เอาชนะ ไรอัน เฟรเซอร์ ของบอร์นมัธ ที่จ่ายไป 14 ครั้งแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม-อลิสซง เบคเกอร์ ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล ที่เก็บคลีนชีตในปีนี้ไปได้ถึง 21 เกม เฉือนชนะ เอแดร์สัน ประตูเพื่อนร่วมชาติจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บคลีนชีตไป 20 เกม
[caption id="attachment_492716" align="alignnone" width="1280"] ดาวซัลโวมีถึง 3 คนด้วยกันในปีนี้[/caption]
นักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก-เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เซ็นเตอร์ค่าตัวแพงที่สุดในโลกของลิเวอร์พูล ที่ลงเล่นให้กับทีมครบทุกนัดในลีก และช่วยให้ทีมไม่เสียประตูถึง 21 เกม แถมยังยิงไปอีก 4 ประตู และทำอีก 2 แอสซิสต์
นักเตะที่โดนใบแดงเยอะสุด-ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก กองกลางเซาแธมป์ตัน และ เวสต์ มอร์แกน ปราการหลังเลสเตอร์ ซิตี้ โดนไปคนละ 2 ครั้ง
นักเตะที่โดนใบเหลืองเยอะสุด-เอเตียนน์ กาปู แนวรับจากวัตฟอร์ด สะสมไปคนเดียว 13 ใบ
จำนวนประตูที่เกิดขึ้น-1,072 ประตู เฉลี่ย 2.82 ประตูต่อนัด
เกมที่ยิงประตูกันเยอะที่สุด- เอฟเวอร์ตัน แพ้ ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-6 เมื่อ 23 ธ.ค.2018 และเกมที่ คริสตัล พาเลซ ชนะ บอร์นมัธ 5-3 ในเกมนัดสุดท้าย
[caption id="attachment_492705" align="alignnone" width="1280"] อาซาร์ คว้ารางวัลจอมแอสซิสต์ปลอบใจ[/caption]
ทีมที่ชนะติดต่อกันมากที่สุด-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 14 นัด
ทีมที่ไม่แพ้ใครติดต่อกันมากที่สุด-ลิเวอร์พูล 20 นัด
ทีมที่ไม่ชนะใครติดต่อกันมากที่สุด-ฮัดเดอร์สฟิลด์ 14 นัด
ทีมที่แพ้ติดต่อกันมากที่สุด-ฟูแล่ม 9 นัด
[caption id="attachment_492713" align="alignnone" width="1280"] เกม สเปอร์ส ถล่ม เอฟเวอร์ตัน 6-2 คือหนึ่งในเกมที่มีประตูเกิดขึ้นเยอะที่สุดในปีนี้ถึง 8 ลูก
[/caption]
เกมที่มีผู้ชมเยอะที่สุด- สเปอร์ส เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 ผู้ชม 81,332 คน
เกมที่ผู้ชมน้อยที่สุด-บอร์นมัธ ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ยอดผู้ชม 9,980 คน
ผู้ชมรวมทั้งหมดทั้งฤดูกาล-14,135,870 คน เฉลี่ยนัดละ 38,205 คน
[caption id="attachment_492709" align="alignnone" width="1280"] ฟูแล่ม แพ้ติดต่อกันเยอะที่สุดถึง 9 เกม พร้อมกับตกชั้นไปสู่แชมเปี้ยนชิพ
[/caption]